ศูนย์ข่าวเชียงใหม่ - ผอ.แขวงทางหลวงเชียงใหม่ที่ 2 นำชี้จุดแนวเขตทางหลวงแยกรินคำหน้าห้างดัง เตรียมเข้ารื้อถอนเองเนื่องจากห้างอ้างติดปัญหาคนต่อต้านและขอให้ทำแทน ย้ำออกแบบอย่างดีขยายเพิ่มช่องทางจราจร จัดภูมิทัศน์สวยงามโดยคงลานกิจกรรม
ความคืบหน้ากรณีปัญหาขอคืนพื้นที่สาธารณะบริเวณสี่แยกรินคำในตัวเมืองเชียงใหม่ ซึ่งห้างสรรพสินค้าเมญ่าขออนุญาตใช้พื้นที่ทางหลวงประมาณ 1 ไร่ ทำเป็นลานกิจกรรมน้ำพุตั้งแต่ปี 2556 กระทั่งปัจจุบันที่แขวงทางหลวงเชียงใหม่ที่ 2 มีแผนงานโครงการที่จะปรับปรุงพัฒนาพื้นที่ดังกล่าวเพื่อแก้ไขปัญหาจราจร
แต่ปรากฏว่ามีกลุ่มคนทั้งที่สนับสนุน และคัดค้านการทุบลานน้ำพุดังกล่าวของห้าง ซึ่งต่อมาได้ข้อสรุปตั้งแต่ช่วงปลายเดือน ส.ค. 62 ว่าทางหลวงจะดำเนินการตามที่ออกแบบ โดยทุบลานดังกล่าวที่จะต้องตัดน้ำพุออกไปส่วนหนึ่งเพื่อให้ลดระดับลงมาเท่ากับทางเท้า จากนั้นจะสร้างทางเท้า, ลานกิจกรรม และประดับต้นไม้สวยงาม โดยใช้วัสดุก่อสร้างอย่างดี พร้อมจะใช้พื้นที่ตัดถนนเพิ่ม 1 ช่องทาง ทำทางเลี้ยวเชื่อมต่อเข้ากับถนนสายรองให้ครบวงรอบ ในช่วงตั้งแต่ที่พ้นหน้าห้างไปโดยไม่ต้องขับรถย้อนศรแบบปัจจุบัน ซึ่งเดิมมีกำหนดให้ทางห้างทำการรื้อถอนและส่งมอบคืนพื้นที่ให้ก่อนสิ้นเดือน ก.ย. 62 แต่ปรากฏว่ามีความล่าช้าออกไป
รายงานจากจังหวัดเชียงใหม่แจ้งว่า ช่วงเย็นวานนี้ (11 พ.ย. 62) นายเอกนรินทร์ จินทะวงค์ ผู้อำนวยการแขวงทางหลวงเชียงใหม่ที่ 2 พร้อมคณะเจ้าหน้าที่นำตรวจสอบพื้นที่เขตทางหลวงบริเวณหน้าห้างสรรพสินค้าเมญ่าที่เตรียมจะทำการรื้อถอนและส่งมอบพื้นที่คืนให้ทางหลวงเพื่อดำเนินโครงการปรับปรุงพัฒนาพื้นที่ พร้อมทั้งมีการชี้แจงเกี่ยวกับการดำเนินการว่า ขณะที่แขวงทางหลวงเชียงใหม่ที่ 2 เตรียมที่จะเข้าทำการรื้อถอนพื้นที่ดังกล่าว เนื่องจากได้รับการแจ้งประสานจากทางห้างว่าไม่สามารถทำการรื้อถอนและส่งมอบคืนพื้นที่ให้ได้ด้วยตัวเอง เพราะมีกลุ่มคนและชุมชนใกล้เคียงที่ไม่เห็นด้วยกับการดำเนินการดังกล่าวร้องขอให้ยุติตลอดและทางห้างไม่ต้องการจะมีปัญหาขัดแย้ง ดังนั้นจึงร้องขอให้ทางแขวงทางหลวงเชียงใหม่ที่ 2 เป็นผู้ดำเนินการให้โดยที่ทางห้างจะเป็นผู้ออกค่าใช้จ่ายในการดำเนินการให้ทั้งหมด ซึ่งทางห้างได้ทำหนังสือแจ้งอย่างเป็นทางการเมื่อวันที่ 31 ต.ค. 62 และได้มีการลงบันทึกประจำวันไว้เป็นหลักฐานที่สถานีตำรวจแล้วเมื่อวันที่ 4 พ.ย. 62
หลังจากนี้แขวงทางหลวงเชียงใหม่ที่ 2 เตรียมจะให้ผู้รับว่าจ้างเข้าดำเนินการรื้อถอนพื้นที่ดังกล่าวและทำการส่งมอบพื้นที่เพื่อเริ่มดำเนินงานโครงการปรับปรุงพัฒนาพื้นที่ตามแผนงานและการออกแบบที่ทำไว้ ซึ่งจะเริ่มทำการรื้อถอนโดยเร็วที่สุดและคาดว่าน่าจะแล้วเสร็จสามารถทำการส่งมอบพื้นที่ได้ประมาณสิ้นเดือน พ.ย. 62 นี้ และจากนั้นจะใช้เวลาในการปรับปรุงพัฒนาพื้นที่ตามที่ออกแบบไว้ประมาณ 3 เดือน ซึ่งการก่อสร้างตามรูปแบบนี้จะมีการขยายเพิ่มผิวจราจรบริเวณแยกและจัดให้มีลานกิจกรรมบนที่ดินของกรมทางหลวง ซึ่งรูปแบบจะมีการปรับลดระดับความสูงของลานกิจกรรมบนที่ดินของกรมทางหลวงด้านหน้าห้างลงจากระดับทางเท้าของกรมทางหลวงอีก 15 เซนติเมตร โดยจะกินพื้นที่ลานกิจกรรมประมาณ 7 เมตร ตลอดแนวความยาว 128 เมตรด้านหน้าห้าง
ผู้อำนวยการแขวงทางหลวงเชียงใหม่ที่ 2 ย้ำว่า พื้นที่บริเวณที่มีการปรับปรุงยังคงลานกิจกรรมไว้เช่นเดิมและจะมีการจัดภูมิทัศน์ให้สวยงามเพื่อใช้ประโยชน์สาธารณะให้เป็นหน้าเป็นตาของเมืองเชียงใหม่อย่างแน่นอน โดยที่ทุกภาคส่วนสามารถเข้ามาพักผ่อนหย่อนใจและใช้ประโยชน์ร่วมกันได้ แต่จะห้ามวางขายสินค้าทุกชนิดโดยเด็ดขาด ซึ่งตามการออกแบบนี้จะได้ช่องทางการจราจรเพิ่มขึ้นมา ด้วยการขยายช่องการจราจรเพิ่ม สำหรับรถที่เลี้ยวซ้ายมาจากถนนห้วยแก้วเข้าสู่ถนนซูเปอร์ไฮเวย์ เชื่อมต่อเข้ากับถนนที่สร้างไว้อยู่แล้วหน้าชุมชนเจ็ดยอดและหมู่บ้านสวนสน ทำให้การสัญจรสะดวกและปลอดภัยยิ่งขึ้น
ขณะที่แผนในอนาคตนั้น จะมีการพัฒนาในระยะต่อไปด้วยการพัฒนาเส้นทางเชื่อมต่อไปจนถึงวัดเจ็ดยอด ซึ่งจะต้องมีการระดมความเห็นจากทุกภาคส่วนเพื่อจัดทำแผนแม่บทที่ทุกฝ่ายยอมรับร่วมกัน นอกจากนี้มีแผนที่จะปรับปรุงระบบทางเดินข้ามบริเวณแยกรินคำให้มีความสะดวกและปลอดภัยยิ่งขึ้นด้วย
รายงานข่าวแจ้งว่า ระหว่างที่ผู้อำนวยการแขวงทางหลวงเชียงใหม่ที่ 2 พร้อมคณะกำลังนำชี้จุดนั้น ปรากฏว่ามีกลุ่มคนจำนวนหนึ่งรวมตัวถือป้ายต่อต้านคัดค้านการดำเนินการโครงการปรับปรุงพัฒนาพื้นที่ดังกล่าว โดยอ้างว่าไม่เคยเห็นแบบที่จะดำเนินการมาก่อน รวมทั้งเชื่อว่าเมื่อก่อสร้างแล้วจะยิ่งก่อให้เกิดปัญหาจราจรและทำให้เกิดปัญหาน้ำท่วมตามมา โดยวิงวอนให้คงสภาพพื้นที่หน้าห้างสรรพสินค้าดังกล่าวไว้ดังเดิมเพื่อประโยชน์สูงสุดของภาคประชาชนและชุมชน เนื่องจากเห็นว่าลานกิจกรรมของห้างนั้นจัดทำไว้อย่างสวยงามอยู่แล้วและเป็นประโยชน์อย่างมากต่อส่วนรวม ซึ่งทางเจ้าหน้าที่ได้พยายามชี้แจงและสุดท้ายกลุ่มคนดังกล่าวได้แยกย้ายกันกลับไป