เชียงราย – ชาวเชียงแสน ชายแดนไทย-ลาว ลงขันทำโคมลอยยักษ์ สูงเท่าตึก 4 ชั้น เตรียมจุดไฟรมควันสืบสานประเพณีล้านนาตาน(ทาน)หาคนบนฟ้า-บูชาพระธาตุจอมกิตติ วันลอยกระทง 11 พฤศจิกาฯนี้
นายภาณุวัฒน์ ศรีสุข อายบุ 47 ปี อดีตผู้ใหญ่บ้านจอมกิตติ หมู่ 6 ต.เวียง อ.เชียงแสน จ.เชียงราย พร้อมช่างฝีมือทำโคมลอยในชุมชน ได้รวมตัวกันที่ศูนย์กระจายสินค้านานาชาติ อ.เชียงแสน ร่วมลงมือประดิษฐ์โคมลอยขนาดใหญ่ เพื่อที่จะนำไปลอยในเทศกาลลอยกระทง เช่นเดียวกับที่ทำกันมาเป็นประจำทุกปี ซึ่งปีนี้จะจัดกันในวันที่ 11 พ.ย.ที่จะถึงนี้
โดยปีนี้ชาวบ้านภายในชุมชน ได้ร่วมกันลงขันกัน เป็นเงินถึง 15,000 บาท ใช้เวลาทำกันร่วมสัปดาห์ ประดิษฐ์โคมลอยขนาดใหญ่เป็นพิเศษ มีเส้นผ่าศูนย์กลางกว่า 8.5 เมตร และมีปากกว้าง 1.5 เมตร หรือมีขนาดเท่ากับตึก 4 ชั้น ขณะที่ชาวบ้านก็ทำโคมขนาดปกติทั่วไป เพื่อปล่อยขึ้นท้องฟ้าในวันลอยกระทงพร้อมกันด้วย
ซึ่งบ้านจอมกิตติอยู่ห่างจากท่าอากาศยานแม่ฟ้าหลวงเชียงราย ไปทางทิศเหนือกว่า 60 กิโลเมตร ติดชายแดนไทย-สปป.ลาว ถือว่าอยู่นอกเขตควบคุมความปลอดภัยการบิน นอกจากนี้โคมลอยยักษ์ที่ทำกันขึ้นมานี้ เป็นโคมควัน ที่อาศัยความร้อนและควันไฟทำให้พองและลอยตัวขึ้นไป ไม่มีการจุดไฟติดปากโคมเหมือนโคมลอยที่เป็นปัญหาอยู่ในขณะนี้
นายภาณุวัฒน์ เปิดเผยว่าการจัดทำโคมลอยหรือโคมควันเป็นประเพณีของชาวล้านนา ซึ่งชาวบ้านจอมกิตติปฏิบัติสืบทอดกันมาตั้งแต่บรรพบุรุษ จนเป็นงานประจำปี เพื่อการบูชาพระธาตุจอมกิตติ อันเป็นสถานที่ศักดิ์สิทธิ์ของ จ.เชียงราย
แต่ปีนี้ได้คิดค้นการประดิษฐ์โคมลอยให้มีขนาดใหญ่กว่าทุกปีหรือเป็นโคมลอยยักษ์ เนื่องจากชาวไทยภาคเหนือหรือคนล้านนาเชื่อว่าการปล่อยโคมลอยจะได้อานิสงส์มาก โดยเฉพาะเมื่อได้เขียนชื่อญาติที่ล่วงลับไปแล้วใส่ไว้ในกระเช้าของโคมที่มีอาหารการกินแล้วนำไปลอยสู่ฟากฟ้าก็จะทำให้บรรพบุรุษผู้ที่ล่วงลับ ซึ่งสถิตอยู่ ณ จุฬามณีธาตุ ได้รับด้วยจึงได้ชื่ออีกอย่างว่า..ตานหาคนบนฟ้า
“และลอยกระทง 2562 นี้นอกจากจะลอยโคมควันยักษ์เพื่อสืบสานประเพณียี่เป็งล้านนาแล้ว ยังเป็นการถวายแด่องค์พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวรัชกาลที่ ๙ โดยมีการประดับแตกแต่งเป็นลวดลายที่งดงามและแสดงออกถึงความจงรักภักดีและระลึกถึงพระมหากรุณาธิคุณอย่างหาที่สุดมิได้ด้วย”
อนึ่ง มีรายงานว่า ในการลอยโคมยักษ์ของชาวบ้านจอมกิตติ ชายแดนไทย-สปป.ลาว บางปีโคมลอยที่ปล่อยขึ้นฟ้า ลอยข้ามประเทศไปตกถึงเมียนมา มาแล้ว