xs
xsm
sm
md
lg

เกษตรกรสาวราชบุรีช้ำหนัก ร้านค้าแนะนำสารกำจัดวัชพืช ใช้ 3 วัน กะหล่ำดอกเสียหาย 2 ไร่ แถมปัดความรับผิดชอบ

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



ราชบุรี - เกษตรกรสาวราชบุรีสุดช้ำ ร้านค้าแนะนำสารเคมีกำจัดวัชพืชในไร่กะหล่ำดอก หลังใช้ได้เพียง 3 วัน ใบไหม้ เป็นรู หงิกงอ เสียหาย 2 ไร่ ล่าสุด ยังไร้การเหลียวแล

วันนี้ (7 พ.ย.) ผู้สื่อข่าวได้รับการร้องเรียนจากเกษตรกร ชาว ต.ทุ่งหลวง อ.ปากท่อ จ.ราชบุรี ว่า ได้รับความเดือดร้อน เนื่องจากตนเองปลูกกะหล่ำดอก และได้ไปปรึกษากับร้านจำหน่ายเคมีภัณฑ์เกษตร เรื่องสารที่จะนำมาฉีดในสวนเพื่อควบคุมวัชพืช เพราะกลัวใช้สารผิดประเภทแล้วอาจส่งผลกระทบต่อสวนข้างเคียงที่ปลูกแตงกวา แต่หลังจากทางร้านแนะนำสารควบคุมวัชพืชมาฉีดกลับทำให้กะหล่ำดอกของตนเองใบไหม้ เป็นรู หงิกงอ ไม่สามารถเก็บผลผลิตจำหน่ายได้ และร้องเรียนไปหลายหน่วยงาน แต่เรื่องก็เงียบ ทำได้แค่ไปลงบันทึกประจำวัน

ผู้สื่อข่าวจึงลงพื้นที่ตรวจสอบ พบกับนางสุกัลญา ไผ่สอาด อายุ 45 ปี อยู่บ้านเลขที่ 184 ม.3 ต.ทุ่งหลวง อ.ปากท่อ จ.ราชบุรี เกษตรกรที่ได้รับความเดือดร้อนเปิดเผยว่า ตนเองมีอาชีพทำการเกษตรมากว่า 5 ปีแล้ว ส่วนใหญ่จะอาศัยเช่าพื้นที่ที่มีความอุดมสมบูรณ์ทำการเกษตร เนื่องจากพื้นที่แต่ละพื้นที่มีความเหมาะสมปลูกพืชผลไม่เหมือนกัน ส่วนสวนกะหล่ำดอกที่ประสบปัญหา ตนได้ขอเช่ากับ ป้าหงษ์ อายุ 54 ปี พื้นที่ 6 ไร่ อยู่ในหมู่บ้านนาคอก หมู่ 2 ต.ทุ่งหลวง อ.ปากท่อ

ซึ่งส่วนใหญ่มีการปลูกแตงกวา แต่ตนต้องการที่จะปลูกกะหล่ำดอก เนื่องจากเห็นว่าราคาดี และพื้นที่ดังกล่าวมีความเหมาะสมในการปลูก โดยตนเองไปกู้เงินกว่า 70,000 บาท มาลงทุนเพาะปลูก จากพื้นที่ 6 ไร่ แบ่งปลูกแตงกวา 2 ไร่ ปลูกกะหล่ำดอก 2 ไร่ ส่วนอีก 2 ไร่ จะใช้ปลูกกะหล่ำดอกเช่นกัน แต่ใช้วิธีปลูกไล่เรียงระยะเวลากันเพื่อจะได้มีผลผลิตส่งให้ลูกค้าได้ตลอด

แต่เมื่อตนเองได้ลงกล้ากะหล่ำดอก ตั้งแต่ปลายเดือน ส.ค.ที่ผ่านมา จนถึงวันที่ 1 ต.ค. ตนเห็นว่าวัชพืชขึ้นเป็นจำนวนมาก จึงไปที่ร้านจำหน่ายเคมีภัณฑ์การเกษตรตั้งอยู่ในพื้นที่ ต.ทุ่งหลวง เพื่อขอซื้อสารควบคุมวัชพืชที่ไม่มีปัญหากับพืชผลอื่น เพราะเนื่องจากตนเองกลัวว่าถ้าใช้ไม่ถูกชนิดอาจทำให้แตงกวาของสวนอื่นที่ปลูกอยู่ใกล้กันได้รับความเสียหาย ซึ่งทางร้านให้คำแนะนำมาว่าให้ใช้สารกำจัดวัชพืช “แอมมอค อะลาคลอร์” เพราะพืชผลจะไม่ได้รับผลกระทบ

จากนั้นตนได้นำสารกำจัดวัชพืชมาฉีดพ่นตั้งแต่วันที่ 2 ต.ค. และเมื่อช่วงเช้ามืดของวันที่ 5 ต.ค. ป้าหงษ์เจ้าของที่ดินได้โทร.มาบอกว่า ต้นกะหล่ำที่ตนเองเพาะปลูกไว้ไม่รู้ว่าเป็นอะไร ใบไหม้เหลืองเหมือนต้นจะตาย ตนจึงรีบเดินทางไปดูแทบเป็นลม เพราะต้นกะหล่ำที่ตนปลูกไว้ 2 ไร่ เป็นลักษณะแบบเดียวกันทั้งหมด ตนจึงถ่ายคลิปและภาพไว้เป็นหลักฐาน เพื่อจะไปแจ้งความเพราะคิดว่า น่าจะมีคนแกล้ง แต่พอตนสอบถามจากป้าหงษ์ จึงมั่นใจว่าไม่มีใครแกล้ง แต่น่าจะเกิดจากยาตัวที่ทางร้านแนะนำมาให้ใช้

นางสุกัลญา ให้รายละเอียดด้วยความคับแค้นใจอีกว่า แต่พอตนติดต่อกลับไปที่ร้าน ทางร้านบอกว่าจะประสานกับทางโรงงานผลิตให้ ตนเองสามารถติดต่อกับทาง ผจก.โรงงานผลิตได้ และได้รับคำตอบว่า ทางโรงงานผลิตจะเข้ามาดูแลให้ แต่ขออย่าเพิ่งไปแจ้งความ แจ้งผู้สื่อข่าว และหน่วยงานต่างๆ ตนเองรู้สึกอุ่นใจและยอมทำตามที่ ผจก.โรงงานผลิตบอกไว้ แต่แล้วเรื่องก็เงียบหายไปนานประมาณครึ่งเดือน ตนจึงโทร.ไปสอบถามกับทาง ผจก.โรงงานผลิตอีกครั้ง แต่ครั้งนี้ทาง ผจก.โรงงานผลิตตอบกลับว่าได้นำยาที่อยู่ภายในร้านไปตรวจสอบแล้ว มีความปกติไม่มีสารตัวอื่นเกินกว่าที่กำหนด

ความเสียหายน่าจะไม่ได้เกิดจากยาตัวนี้ น่าจะเกิดจากยาประเภทยาฆ่าหญ้า แต่จะส่งเซลส์ลงมาตรวจสอบที่สวนตนเอง พร้อมกับให้เบอร์โทรเซลส์มา เมื่อตนได้รับคำตอบก็รู้สึกไม่มีความสบายใจ เพราะเนื่องจากตั้งแต่ตนลงมือปลูกกะหล่ำดอกชุดนี้ ตนไม่ได้ฉีดยาตัวไหนเลย แถมปุ๋ยก็ไม่เคยใส่ และวัสดุอุปกรณ์ เช่น ถังน้ำ ที่ตนใช้ก็เป็นของใหม่ทั้งหมด หลังจากวันนั้นเซลส์ได้เดินทางมาดูที่ไร่ของตน แต่เมื่อมาถึงกกลับไม่ได้ดูต้นกะหล่ำที่ตนปลูกไว้เลย แต่พูดว่ายาเขา เขาขายมาเยอะแล้วไม่เคยมีใครเป็นแบบนี้มีของตนเจ้าแรก ตนเองได้บอกกับเซลส์ไปว่าตั้งแต่ตนเองปลูกมาก็ไม่เคยใช้ยาตัวอื่นเลย นอกจากยาที่ทางร้านแนะนำมา

เซลส์ก็ทำเป็นเหมือนไม่สนใจพร้อมกับพูดเชิงท้าทายว่า ต่อให้พี่ใส่ยาตัวนี้ไปขวดครึ่ง ต่อน้ำ 200 ลิตรก็ไม่เป็นอะไร เมื่อตนกับเพื่อนที่มาดูได้ยินเซลส์พูดแบบนี้ จึงท้าเซลส์กลับไปให้ลองใช้เลย ถ้าไม่เป็นอะไรก็ให้จบกันไป แต่เซลส์เดินหนีกลับไปเลย หลังจากวันนั้นตนโทร.ไปปรึกษากับเซลส์อีกครั้ง แต่ได้รับคำตอบอีกว่า จะให้ผมดูแลอย่างไร เคสอย่างพี่ผมเจอบ่อย ผมขายยาตรงนี้มานาน ผมไม่ใช่ไก่กาที่ใครจะมาเรียกร้องอะไรกับผมก็ได้ เมื่อตนได้รับคำตอบแบบนี้ทำให้ตนเจ็บใจมาก จึงไปร้องเรียนต่อหน่วยงานต่างๆ เช่น สำนักงานเกษตร อ.ปากท่อ ศูนย์ดำรงธรรม อ.ปากท่อ และ สคบ. แต่ได้รับการปฏิเสธหมดทุกหน่วยงาน ตนจึงทำได้แค่เพียงไปแจ้งลงบันทึกประจำวันที่ สภ.ปากท่อ และได้ส่งเรื่องราวไปให้ทางสื่อมวลชนให้ช่วยเหลือ

ด้าน ป้าหงษ์ อายุ 54 ปี เจ้าของที่ดินที่ให้ นางสุกัลญา เช่าปลูกกะหล่ำดอก กล่าวว่า ตนมั่นใจว่าต้นกะหล่ำดอก ของนางสุกัลญา เกิดความเสียหายจากสารกำจัดวัชพืช “แอมมอค อะลาคลอร์” ไม่ได้เกิดจากมีใครมากลั่นแกล้ง เพราะตนเองเพาะปลูกพืชต่างๆ ใกล้กับสวนของนางสุกัลญา จะอยู่เกือบตลอดทั้งวันไม่ได้ไปไหนเลย และตนยืนยันได้ว่าไร่ของนางสุกัลญา ไม่เคยใช้ยาหรือใส่ปุ๋ยเลย มีแต่ใส่สารกำจัดวัชพืช “แอมมอค อะลาคลอร์” เท่านั้นแล้วก็เกิดเรื่องเลย ซึ่งวันที่เซลส์มานั้นตนเองก็อยู่ในเหตุการณ์ด้วย พร้อมกับเป็นคนท้าให้เซลส์ลองเอายามาฉีดที่พืชผลของตนเอง แต่เซลส์ไม่ยอมรับคำท้า ตนจึงเอาสารดังกล่าวที่เหลือก้นขวดของนางสุกัลญา ไปลองกับพืชของตนเอง 2 ชนิด พบว่ามีผลแบบเดียวกันกับของ นางสุกัลญา








กำลังโหลดความคิดเห็น