ศรีสะเกษ - ส.ค.ท. และชมรมครูประถมฯ จ.ศรีสะเกษจี้รัฐบาลยกเลิกคำสั่ง คสช.ที่ 19/2560 และคำสั่ง คสช.ที่เกี่ยวข้องกับการศึกษาทุกฉบับพร้อมคืนสิทธิ์ให้ผู้ได้รับผลกระทบ-บริสุทธิ์ และขอให้ยกเลิกมติ ครม. 7 ต.ค. 62 ยุติการยุบควบรวม ร.ร.ทุกขนาด
นายวิสัย เขตสกุล เลขาธิการสมาพันธ์สมาคมครูแห่งประเทศไทย (ส.ค.ท.) เปิดเผยว่า ตามที่คณะรัฐมนตรี (ครม.) มีมติเห็นชอบเมื่อวันที่ 7 ตุลาคม 2562 ให้สำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (สพฐ.) พิจารณาควบรวมโรงเรียนขนาดเล็กระยะทางไม่เกิน 6 กิโลเมตร ให้คณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน พิจารณาดำเนินการควบรวมโรงเรียนขนาดเล็กที่มีระยะทางห่างจากโรงเรียนในสังกัด สพฐ.ในตำบลเดียวกันให้บังเกิดผลอย่างเป็นธรรม เพื่อลดค่าใช้จ่ายงบประมาณด้านบุคลากรและการบริหารจัดการลง
และหนังสือสำนักงานปลัดกระทรวงศึกษาธิการ ที่ ศธ 02137/14756 ลงวันที่ 29 ส.ค. 2562 ได้แจ้งแนวทางปฏิบัติในการบูรณาการ จัดทำแผนบริหารจัดการโรงเรียนขนาดเล็ก มีสาระสำคัญคือ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการมอบสำนักงานศึกษาธิการจังหวัดเป็นเจ้าภาพหลักในการดำเนินการ โดยให้ผู้ว่าราชการจังหวัดเป็นประธาน ผอ.สพป.เป็นกรรมการ ศึกษาธิการจังหวัดเป็นกรรมการและเลขานุการ ให้ใช้คำว่า ควบรวมโรงเรียน ไม่ให้ใช้คำว่า ยุบโรงเรียน ให้ควบรวมโรงเรียนขนาดเล็กที่อยู่ใกล้เคียง รวมแล้วให้มีนักเรียนมากกว่า 120 คน ให้สร้างหลักเกณฑ์การควบรวมโดยพิจารณาจากระยะทางความลำบากในการเดินทางความปลอดภัย
นายวิสัยกล่าวต่อว่า สมาพันธ์สมาคมครูแห่งประเทศไทย (ส.ค.ท.) และชมรมครูประถมศึกษาจังหวัดศรีสะเกษจึงขอเรียกร้องและมีความต้องการดังนี้ คือ ให้ยกเลิกคำสั่ง คสช.ที่ 19/2560 ลงวันที่ 3 เม.ย. 2560 และยกเลิกคำสั่ง คสช.ที่เกี่ยวข้องกับการศึกษาทุกฉบับ และคืนสิทธิ์ให้ผู้ได้รับผลกระทบและบริสุทธิ์ ให้ ครม.มีการทบทวนมติ ครม.เมื่อวันที่ 7 ตุลาคม 2562 เกี่ยวกับการควบรวมโรงเรียนขนาดเล็ก และขอให้ยุติการยุบหรือควบรวมโรงเรียนทุกขนาด
ให้รัฐบาลเป็นผู้จัดการศึกษา โดยส่งเสริมพัฒนาโรงเรียนขนาดเล็ก ทั้งอัตรากำลังครู บุคลากร งบประมาณและอื่นๆ ให้มีศักยภาพเข้มแข็ง เป็นธรรม สร้างพัฒนาสถานการศึกษาทุกแห่งเป็นแหล่งเรียนรู้ของชุมชนอยู่คู่ชุมชน สร้างความเข้มแข็งด้วยระบบไอซีที ซึ่งการจัดการศึกษาต้องเป็นรัฐสวัสดิการ ไม่คิดกำไรขาดทุน เป็นการผลิตทรัพยากรทางปัญญา ผลิตกำลังคนเพื่อชาติ
กระทรวงศึกษาฯ ต้องกระจายอำนาจให้สถานศึกษาเป็นนิติบุคคลตามกฎหมายมหาชน โดยโรงเรียนเล็กหรือใหญ่ต้องสามารถบริหารจัดการตนเองได้ในรูปแบบคณะกรรมการสถานศึกษา และกระทรวงศึกษาธิการต้องเป็นต้นแบบประชาธิปไตย มีองค์คณะบุคคลที่มีผู้แทนครูมีส่วนร่วมทุกระดับในการดำเนินการควบรวมโรงเรียนขนาดเล็ก