พิษณุโลก - เดือดร้อนกันทั้งพ่อค้าแม่ขาย-คนอยู่อาศัย ยันเด็กนักเรียน ร.ร.ดังพิษณุโลก..พบชายฉกรรจ์ตอกพุกติดพื้นถนนตั้งแผงเหล็กกั้นพื้นที่รวมถึงทางม้าลาย กระทบคนเข้าออกไม่ได้-ไม่สนโรงเรียนเปิดเทอมพรุ่งนี้ ส่อฮุบตลาดรถไฟ
ขณะนี้ผู้คนที่เดินทางผ่านไปมาบนถนนธรรมบูชา อ.เมืองพิษณุโลก พบว่ามีการนำแผงเหล็กมากั้นบริเวณทางม้าลายหน้าโรงเรียนผดุงราษฎร์ เป็นแนวยาวไม่ต่ำกว่า 8 เมตร ถึง 2 จุด โดยมีการปักพุกเหล็กติดยึดกับพื้นถนนอย่างแน่นหนา สร้างความสับสนและหวั่นจะเกิดภัยอันตรายแก่เด็กนักเรียนที่ต้องเดินข้ามถนนไป-มาทั้งเช้าและเย็น เพราะกำลังจะเปิดเทอมใหม่ในวันจันทร์ (4 พ.ย.) นี้
นายสมพงษ์ คำสอน ผู้ดูแลตลาดริมทางรถไฟ เปิดเผยว่า มีบุคคลกลุ่มหนึ่งนำเหล็กมาติดเป็นแผงกั้นหน้าร้านค้าล็อกตลาดริมทางรถไฟตรงข้ามโรงเรียนผดุงราษฎร์ ถือว่าบุกรุกละเมิดสิทธิ์ของคนเช่าที่การรถไฟฯ อยู่อาศัย-ทำมาค้าขาย ซึ่งถือเป็นผู้ใช้ประโยชน์บนที่ดินเดิม
ส่วนการเข้ามาของเอกชนรายใหม่ ตนไม่ทราบเรื่องมาก่อน ทำเช่นนี้ถือว่าทำให้พ่อค้าแม่ค้าหาเช้ากินค่ำไม่ต่ำกว่า 22 ร้านค้าเดือดร้อน คนนับร้อยชีวิตที่ต้องประกอบอาชีพและพักอาศัยไม่ได้รับความเป็นธรรม อีกทั้งภรรยาตนเองเป็นอัมพาตเป็นผู้ป่วยติดเตียง เมื่อมีกลุ่มชายฉกรรจ์แอบมาติดตั้งแผงเหล็กเพื่อปิดกั้นทั้งหมด ไม่ให้ตนออกจากบ้านทำให้เดือดร้อนมาก
สำหรับที่ดินตลาดริมทางรถไฟพิษณุโลกดังกล่าวนี้ หลายสิบปีก่อนการรถไฟฯ ได้ให้นายวาสิต กวยะปาณิก ถมที่ดินจากทุ่งวัชพืชรกๆ คันคูน้ำริมทางรถไฟ พัฒนาเป็นลานดินและแบ่งล็อกเป็นที่ขายของ-ที่อยู่อาศัย ลงทุนไปจำนวนมาก พร้อมตกลงกับการรถไฟฯ ว่าหากการรถไฟฯ จะเรียกคืนที่ดินเพื่อใช้ในกิจการรถไฟเมื่อใดก็ได้ แต่การรถไฟฯ กลับนำที่ดินดังกล่าวไปให้ผู้อื่นเช่า ที่สำคัญไม่ได้แจ้งให้เจ้าของเดิมก่อน ไม่มีการพูดคุยเจรจา แจ้งให้ทราบล่วงหน้า ถือว่าการรถไฟฯ กดขี่ลิดรอนสิทธิประชาชน เท่ากับเป็นมาเฟีย
นายสุรศักดิ์ อิงชาติเจริญ อายุ 53 ปี เปิดเผยว่า ตนเป็นช่างซ่อมรถจักรยานยนต์ เช่าที่ดินรถไฟฯ เปิดหน้าร้าน 2 ห้อง แต่กลับมีแผงกั้นเหล็กมากั้นขวางทางเข้าออกจนเดือดร้อนมากรถเข้าออกไม่ได้ ทั้งยังมาขวางกั้นทางม้าลายหน้าโรงเรียนผดุงราษฎร์อีก เด็กๆ ต้องข้ามถนน พอมีรถบรรทุกดินผ่านไปมาอันตรายมาก ขอให้ทางราชการช่วยแก้ไขด้วย ใครจะทำอะไรก็อย่าให้ประชาชนเขาเดือดร้อน
เช่นเดียวกับพ่อค้าอีกหนึ่งรายเปิดเผยว่า ตนมาขายก๋วยเตี๋ยวและอาหารตามสั่ง 2 ปีแล้ว แต่กลับมาเจอแผงเหล็กกั้นทำให้ตนขายก๋วยเตี๋ยวไม่ได้ ยิ่งช่วงนี้เศรษฐกิจไม่ดีขายของลำบาก พอมีการแผงเหล็กมากั้นยิ่งสร้างปัญหาแก่ลูกค้าโดยที่เขาไม่รู้เรื่อง ร้านหลายร้านแถบนี้เจอสภาพเดียวกัน คือจอดรถไม่ได้ ทั้งที่เป็นที่ดินการรถไฟฯ คาดว่าเป็นพวกที่มาขับไล่ที่ดิน นำแผงเหล็กมาปักบนถนน ไม่รู้ว่าจะตีสังกะสีแปะติดอีกหรือไม่
อนึ่ง การรถไฟแห่งประเทศไทยเคยมีหนังสือรับรอง ที่ พล/01/11/2547 ลงวันที่ 01 พฤศจิกายน 2548 ลงชื่อโดย นายวัลลภ ทองงามขำ นายสถานีรถไฟพิษณุโลก ระบุขอรับรองว่า นายวาสิต กวยะปาณิก อยู่บ้านเลขที่ 37/150 ถนนซอยสีฟ้า ต.ในเมือง อ.เมืองพิษณุโลก เป็นผู้ใช้ประโยชน์ที่ดินของการรถไฟแห่งประเทศไทย บริเวณถนนธรรมบูชา โดยชำระค่าใช้ประโยชน์ให้แก่การรถไฟแห่งประเทศไทยวันละ 600 บาท เริ่มเก็บค่าใช้ประโยชน์ตั้งแต่วันที่ 6 กันยายน 2546 ซึ่งหนังสือฉบับนี้ออกให้เมื่อวันที่ 1 พฤศจิกายน 2548
26 กุมภาพันธ์ 2561 นายวันชัย ชุมพลศรี สดช.อต. ปฏิบัติการแทน สดร.อต. ที่ทำการเดินรถแขวงอุตรดิตถ์ ได้สอบสวนข้อเท็จจริง ซึ่งนางรุ่งนภาพร รุ่งรัศมี ให้ปากคำตามคำร้องเรียนว่าไม่มีสัญญาเช่า แต่มีหนังสือรับรองการใช้ประโยชน์ที่ดินรถไฟ และจ่ายเงินวันละ 600 บาทต่อวันตามใบเสร็จ หยุดจ่ายเมื่อปี 2555 เนื่องจากนายวาสิต กวยะปาณิก ถึงแก่กรรม และคงใช้ประโยชน์ที่ดินมาตลอด ส่วนนายวัลลภ ทองงามขำ นายสถานีรถไฟพิษณุโลก ดำรงตำแหน่งปี 2545-2551 ปฏิเสธออกหนังสือรับรอง ที่ พล/01/11/2547 ลงวันที่ 1 พฤศจิกายน 2548
ต่อมามีหนังสือจากการรถไฟแห่งประเทศไทย ลงชื่อโดย นายวรวุฒิ มาลา รองผู้ว่าการกลุ่มธุรกิจบริหารทรัพย์สิน รักษาการในตำแหน่งผู้ว่าการการรถไฟแห่งประเทศไทย ลงวันที่ 18 ตุลาคม 2562 ชี้แจงข้อเท็จจริง นำเสนอต่อ ผกก.สภ.เมืองพิษณุโลก ว่า ได้รับการร้องทุกข์จาก “บริษัท ธ.รุ่งเรือง เอนจิเนียริ่ง จำกัด ว่าเป็นผู้เช่าที่ดินตามสัญญาเช่าที่ดินเลขที่ 801619085 ลงวันที่ 5 มิถุนายน 2562 ซึ่งการรถไฟฯ อนุญาตให้ห้างฯ เช่าที่ดินเพื่อประโยชน์ตามศักยภาพ ระหว่างสถานีรถไฟพิษณุโลก-บ้านเต็งหนาม กำหนด 3 ปี ตั้งแต่ 1 มกราคม 2562 ถึง 31 ธันวาคม 2564 ว่าไม่สามารถเข้าได้ เนื่องจากมีผู้อยู่อาศัยในพื้นที่
นอกจากนี้ การรถไฟฯ ชี้แจงว่านายวาสิต กวยะปาณิก เคยเป็นผู้ใช้ประโยชน์บนที่ดินของการรถไฟฯ โดยไม่ได้รับอนุญาต ไม่มีการจัดทำสัญญาเช่าแต่อย่างใด และสอบสวนนายวัลลภ ทองงามขำ อดีตนายสถานีรถไฟพิษณุโลกแล้วให้การปฏิเสธว่าไม่ได้เป็นผู้จัดทำและลงลายมือชื่อในหนังสือรับรองดังกล่าว
