เชียงราย – “มนัญญา ไทยเศรษฐ์” สั่งเร่งสร้างห้องแล็บตรวจสารปนเปื้อนชายแดนเชียงของเสร็จก่อนกำหนดเดิม รับคาราวานพืชผักผลไม้จีนทะลักผ่านเส้นทาง R3a ข้ามโขงเข้าไทย หลังพบ จนท.ต้องดูด้วยตา-ส่งตรวจไกลถึงเชียงแสน
น.ส.มนัญญา ไชยเศรษฐ์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ พร้อมด้วยนายฉกรรจ์ แสงรักษาวงศ์ ประธานคณะที่ปรึกษารัฐมนตรี ได้เดินทางไปตรวจการปฏิบัติหน้าที่ของด่านศุลกากรเชียงของ อ.เชียงของ จ.เชียงราย สุดสัปดาห์นี้ ซึ่งเป็นชายแดนไทย-สปป.ลาว ติดแม่น้ำโขงและเป็นที่ตั้งของสะพานมิตรภาพไทย-สปป.ลาว ข้ามแม่น้ำโขงแห่งที่ 4 เชื่อมเส้นทาง R3a ไปถึงมณฑลยูนนาน สป.จีน
โดยมีนายทัศนัย สุธาพจน์ นายอำเภอเชียงของ นายวุฒิพงษ์ ท้าวฬา ผู้ช่วยด่านศุลกากรเชียงของ และผู้เกี่ยวข้องร่วมให้ข้อมูล ซึ่งผลการตรวจกิจการที่เกี่ยวข้องกับกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ทราบว่า
ซึ่งพบว่ามีการนำเข้าและส่งออกสินค้าประเภทพืชผักผ่านด่านพรมแดนเป็นจำนวนมาก ส่วนใหญ่เป็นการค้าระหว่างไทยและจีนตอนใต้ มีทั้งบล็อคคอรี่ กระหล่ำปลี ถ้่วลันเตาหวาน ผักชี ฯลฯ ที่บรรทุกมาในคอนเทนเนอร์ห้องเย็นและอยู่ในกล่องโฟมที่บรรจุน้ำแข็งอีกชั้นหนึ่ง
ทำให้ยังสดเมื่อถึงชายแดนประเทศไทย ขณะที่การขนส่งจากชายจีน-สปป.ลาว มายัง อ.เชียงของ ใช้ระยะทางประมาณ 254 กิโลเมตร และห่างเดินทางลึกเข้าไปยังมณฑลยูนนานสู่แหล่งเพาะปลูกหรือขนส่งจะใช้ระยะทางเพิ่มเติมอีกประมาณ 100 กิโลเมตร
แต่ที่ด่านตรวจพืชเชียงของ ยังไม่มีการติดตั้งเครื่องตรวจหาสารปนเปื้อนและสารต้องห้ามแต่อย่างใด โดยเฉพาะสารเคมี 3 ชนิดคือ พาราควอต ไกลโฟเซต คลอร์ไพริฟอส ซึ่งคณะกรรมการวัตถุอันตรายของประเทศไทย มีมติให้เป็นวัตถุอันตรายประเภท 4 ก็ไม่มีเครื่องตรวจวัดเช่นกัน
เจ้าหน้าที่ระบุว่าปัจจุบันการนำเข้าพืชผักและสินค้าต่างๆ ที่เกี่ยวข้องที่ อ.เชียงของ จะขนส่งผ่านทางรถบรรทุกเพราะสะดวก รวดเร็วและเหมาะกับพื้นที่ แต่เมื่อสินค้ามาถึงช่องตรวจของเจ้าหน้าที่ นอกจากจะตรวจตามพิธีการศุลกากรแล้ว ก็จะใช้วิธีสังเกตุด้วยสายตาในการตรวจคุณภาพ ดูว่าเน่าเสียหรือไม่ มีแมลงกัดแทะหรือไม่ ฯลฯ หากพบก็จะสั่งห้ามนำเข้าส่วนกรณีการตรวจหาสารปนเปื้อนนั้นจะต้องนำตัวอย่างไปส่งตรวรจที่ด่านตรวจพืชเชียงแสน อ.เชียงแสน ที่ตั้งอยู่ห่างออกไปประมาณ 50-60 กิโลเมตร เพราะที่ อ.เชียงแสน มีห้องตรวจที่ทันสมัยรองรับ
น.ส.มนัญญา กล่าวว่ามาดูความพร้อมในการนำเข้าส่งออกสินค้าที่เกี่ยวข้องกับกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ให้ได้มาตรฐานสากล เพราะหากไทยเราไม่พร้อมเรื่องนี้ก็ไม่อาจจะเปิดเป็นครัวโลกได้ ซึ่งปัจจุบันไทยนำเข้าพืชผักจากจีนเป็นจำนวนมาก แต่การตรวจสอบคุณภาพยังมีข้อจำกัด
ดังนั้นจึงควรเพิ่มงบประมาณในการตรวจคุณภาพพืชผักให้มากขึ้น โดยเฉพาะการทำห้องแล็บที่ได้มาตรฐาน เพื่อป้องกันการปนเปื้อนไม่ให้เกิดผลกระทบต่อสุขภาพของประชาชน ซึ่งเดิมกระทรวงเกษตรฯมีโครงการจะทำห้องแล็บใหม่ที่ อ.เชียงของ ในปี 2565 แต่จากสภาพปัญหาที่เป็นอยู่จึงมีความจำเป็นที่จะต้องเร่งก่อสร้างให้แล้วเสร็จในปี 2563 นี้
สำหรับสถิติการค้าชายแดน-การค้าผ่านแดนผ่านแม่น้ำโขงในปี 62 นี้ พบว่าไทยส่งออกผ่านท่าเรือแม่น้ำโขง อ.เชียงแสน 11,681.92 ล้านบาท นำเข้า 583.80 ล้านบาท สินค้านำเข้ามากที่สุดคือกระเทียมสด รวมน้ำหนักกว่า 6,820 ตัน มูลค่า 107 ล้านบาท เมล็ดดอกทานตะวัน 105.3 ล้านบาท มันฝรั่ง 84.4 ล้านบาท กระเทียมอบแห้ง 61.3 ล้านบาท เมล็ดฟักทอง 39.2 ล้านบาท ฯลฯ ส่วนด่านศุลกากรเชียงของ มีการนำเข้ามูลค่า 6,799,080,212 บาท ส่วนใหญ่เป็นผลไม้สด ผักสด ดอกไม้ไม้ประดับ ลิกไนต์ วัสดุก่อสร้าง ใบชา ชาผง ฯลฯ.
