ชัยภูมิ - ระทึกวัดใจกลางสี่แยก รถตู้พยาบาลเร่งส่งผู้ป่วยพุ่งประสานงา จยย.เร่งฝ่าไฟแดงอย่างจังพังยับ เจ็บปางตาย 2 ราย ผงะตรวจฉี่คนขับรถตู้พยาบาลพบสารเสพติด เจ้าตัวสารภาพเสพยาบ้าจริง ขณะตรวจภาพกล้องวงจรปิดพบ จยย.ซิ่งฝ่าไฟแดงชัดเจน
วันนี้ (28 ต.ค.) เมื่อเวลา 01.00 น. ร.ต.อ.ขันติ เพียรสูงเนิน รอง สว.(สอบสวน) สภ.เมืองชัยภูมิ รับแจ้งจาก 191 ตำรวจภูธรจังหวัดชัยภูมิ ว่ามีอุบัติเหตุรถตู้พยาบาลชนกับจักรยานยนต์บริเวณกลางสี่แยกโรงต้ม ต.ในเมือง อ.เมืองฯ จ.ชัยภูมิ มีผู้บาดเจ็บสาหัส 2 ราย จึงเร่งรุดไปตรวจที่เกิดเหตุพร้อมหน่วยกู้ภัยสว่างคุณธรรมชัยภูมิ และหน่วยแพทย์ฉุกเฉินโรงพยาบาลชัยภูมิ
ในที่เกิดเหตุพบผู้ได้รับบาดเจ็บเป็นชาย 2 ราย เจ้าหน้าที่จึงรีบปฐมพยาบาลเบื้องต้นก่อนช่วยนำตัวส่งโรงพยาบาลชัยภูมิ ทราบชื่อต่อมา คือ 1. นายปฐมพร นามสมมุติ อายุ 15 ปี ชาวตำบลกุดตุ้ม อ.เมืองฯ จ.ชัยภูมิ 2. นายอณัฐชา นามสมมุติ อายุ 16 ปี ชาวตำบลกุดตุ้ม อ.เมืองฯ จ.ชัยภูมิ ในที่เกิดเหตุยังพบจักรยานยนต์ยี่ห้อฮอนด้า รุ่นเวฟ สีแดง-ดำ ไม่ติดแผ่นป้ายทะเบียน ล้มอยู่สภาพพังยับเยิน ห่างออกไปพบรถตู้พยาบาลยี่ห้อโตโยต้า สีขาว ป้ายทะเบียน 3 กพ 5182 กรุงเทพมหานคร จอดอยู่ ภายในยังมีผู้ป่วยเป็นหญิง 1 ราย ที่เดินทางมาในรถด้วย
สอบถามนายซุกรี่ เทพโยธิน อายุ 38 ปี ชาวตำบลสิงหนาท อ.ลาดบัวหลวง จ.พระนครศรีอยุธยา คนขับรถตู้พยาบาลคันเกิดเหตุ เล่าว่า ได้ขับรถรับผู้ป่วยมาจากโรงพยาบาลภูมิพล เพื่อไปส่งผู้ป่วยหญิงรายนี้ที่โรงพยาบาลภูเวียง อ.ภูเวียง จ.ขอนแก่น มาถึงจุดเกิดเหตุซึ่งเป็นบริเวณสี่แยกไฟแดง ตนคิดว่าเปิดสัญญาณไฟแจ้งขอทางอยู่แล้วน่าจะผ่านได้ จึงได้ขับฝ่าสัญญาณไฟมา แต่ได้มีจักรยานยนต์ที่ขับขี่มาด้วยความเร็วพุ่งมาชนกันเข้าอย่างจัง
ทางด้าน ร.ต.อ.ขันติ เพียรสูงเนิน รอง สว.(สอบสวน) สภ.เมืองชัยภูมิ หลังเข้าตรวจสอบในที่เกิดเหตุ ได้เชิญตัวคนขับรถตู้พยาบาลมาสอบสวนเพิ่มเติม พร้อมตรวจหาสารเสพติดในร่างกาย พบว่าคนขับรถตู้พยาบาลรายนี้มีสารเสพติดในร่างกาย และยอมรับว่าเสพยาบ้าใส่เครื่องดื่มชูกำลังมาจริง แต่เสพมานานกว่า 2 วันแล้วจึงไม่คิดว่าจะมีสารเสพติดเหลือในร่างกาย จึงได้มาช่วยรับงานอาสาขับรถตู้พยาบาลของโรงพยาบาลจากกรุงเทพฯ มาส่งผู้ป่วยข้ามจังหวัดครั้งนี้
พร้อมกันนี้ เจ้าหน้าที่ตำรวจได้ตรวจสอบภาพกล้องวงจรปิดบริเวณสี่แยกดังกล่าวเพิ่มเดิม พบว่าฝ่ายจักรยานยนต์ที่ขับขี่ซ้อนกันมา 2 คนได้รับบาดเจ็บทั้ง 2 คนนั้น ขับขี่มาด้วยความเร็วเพื่อพยายามขับให้ทันสัญญาณไฟเขียวฝั่งของตัวเอง แต่พอมาถึงแยกไฟจราจรกลายเป็นสัญญาไฟแดงแล้ว จึงเป็นการขับรถฝ่าไฟแดงพุ่งมาชนประสานงากับรถตู้พยาบาลอย่างจัง ซึ่งทางเจ้าหน้าที่ตำรวจจะได้รวบรวมพยานหลักฐานดำเนินคดีต่อคนขับรถตู้พยาบาลที่เสพยาเสพติด และรอให้ฝ่ายจักรยานยนต์ทั้ง 2 รายที่ได้รับบาดเจ็บสาหัสพ้นขีดอันตรายก่อนเชิญตัวมาสอบสวนดำเนินคดีในข้อหาขับรถฝ่าฝืนสัญญาณไฟจราจรอีกกรณีต่อไป