เพชรบูรณ์ - ผู้ประกอบการรถรางฯ เขาค้อยุตินำรถรางรับ-ส่งนักท่องเที่ยวเข้าชมทุ่งกังหันลมแล้ว ปัดไม่ได้ท้าทายนโยบายจัดระเบียบฯ แต่สหกรณ์ฯ ยื่นขออนุญาตกรมป่าไม้ช้า ขณะที่ ปธ.สหกรณ์ฯ ขึ้นโรงพักขอลงบันทึกประจำวัน-รอป่าไม้ไฟเขียว
หลังจากมีผู้ประกอบการรถรางเขาค้อฝ่าฝืนการจัดระเบียบรถราง และคำสั่งสำนักบริหารจัดการทรัพยากรป่าไม้ที่ 4 เรื่องห้ามวิ่งรถรางที่ทุ่งกังหันลม อ.เขาค้อ จ.เพชรบูรณ์ ทั้งยังมีนักท่องเที่ยวร้องเรียนถูกเก็บค่าโดยสารโหดคนละ 100 บาท ตามข่าวที่เสนอไปนั้น
ล่าสุดผู้ประกอบการรถรางฯ ที่นำรถรางออกมาให้บริการรับส่งนักท่องเที่ยวดังกล่าวได้กล่าวชี้แจงว่า ไม่ได้ท้าทายการจัดระเบียบรถรางของทางจังหวัดฯ พร้อมชี้แจงถึงเหตุผลที่นำรถรางออกมาวิ่งด้วยว่า "หากต้องเดินตามกรอบกฎหมายอยู่อย่างนี้นักท่องเที่ยวก็กลับไปหมดแล้ว แต่อย่างไรก็ตามเพื่อตัดปัญหาจะหยุดวิ่งตั้งแต่วันนี้ (27 ต.ค.) เป็นต้นไป
ผู้ประกอบการรถรางรายนี้ยังบอกด้วยว่า กว่าสหกรณ์รถรางทุ่งกังหันลมเขาค้อจะยื่นขออนุญาตผ่านไม่รู้จะต้องใช้เวลาอีกกี่เดือน ซึ่งสมาชิกที่ลงหุ้นกันไป 2-3 ล้านบาทต่างก็คาดหวังว่าสหกรณ์ฯ จะเร่งดำเนินการ เพื่อให้ทันฤดูกาลท่องเที่ยวช่วง 3 เดือนนี้ แต่ประธานฯ ก็ยังช้า สุดท้ายสมาชิกก็บอกว่าจะถอนเงินเอาไปทำอย่างอื่นดีกว่า เพราะคาดหวังในช่วงเดือนตุลาคม-ธันวาคมจะสามารถเดินรถรางได้แล้ว แต่มาบอกว่าให้ขอไปตามขั้นตอนต่างๆ ก็คงจะล่าช้า
“จริงๆ แล้วรูปแบบของกลุ่มก็อยู่เป็นปกติ มีรายได้และเขาก็กระจายแบ่งกันไป ส่วนการที่กลุ่มของเรานำรถรางออกมาวิ่งก็ไม่ได้ไปกระทบจนทำให้สหกรณ์ฯ ขออนุญาตไม่ได้ แต่ก็ยังสงสัยเหมือนกันว่ากลุ่มของเราเพิ่งจะเปิดเดินรถรางได้ 2 วันก็เกิดปัญหาแล้ว แต่อีกกลุ่มวิ่งมาหลายเดือนแล้วแต่ไม่เห็นมีใครไปจัดการเลย”
ผู้ประกอบการรถรางเขาค้อรายนี้ยังกล่าวด้วยว่า ส่วนค่าโดยสาร 100 บาทนั้นไม่ได้แพงอย่างที่เข้าใจ เดิมมีการเก็บกันยิบกันย่อย คราวนี้จึงเก็บทีเดียว 100 บาท แบ่งเป็นค่ารถรางและค่าบริหารจัดการ 60 บาท และค่าเข้าชมสวนเทเลทับบี้ 40 บาท ทำให้นักท่องเที่ยวเกิดความสะดวก และไม่เห็นมีใครต่อว่าเรื่องค่าโดยสารแพง มีแต่เสียงชื่นชมและแสดงความพอใจ เพราะเจตนารมณ์ของนักท่องเที่ยวเมื่อมาเที่ยวก็อยากเข้าไปชมภายในทุ่งกังหันลม อยากไปชมทุ่งเทเลทับบี้ ซึ่งวันนี้มีชื่อโด่งดังไปถึงต่างประเทศแล้ว
ด้านนายพรชัย ประทีปคีรี ประธานคณะกรรมการสหกรณ์รถรางทุ่งกังหันลมเขาค้อ ได้เรียกประชุมสหกรณ์ฯ แต่ปรากฎว่าผู้ประกอบการรถรางที่ฝ่าฝืนนำรถรางไปวิ่ง ซึ่งเป็นหนึ่งในคณะกรรมการบริหารฯ ได้เข้าร่วมประชุมด้วย พร้อมชี้แจงโดยยอมรับว่าได้นำรถรางไปวิ่งให้บริการนักท่องเที่ยวที่ทุ่งกังหันลมเขาค้อเอง โดยไม่เกี่ยวกับทางสหกรณ์ฯ แต่อย่างใด
หลังเสร็จสิ้นการประชุมฯ นายพรชัยจึงได้รับมอบจากที่ประชุมให้เข้าแจ้งความที่ สภ.เขาค้อเพื่อบันทึกไว้เป็นหลักฐาน เนื่องจากเกรงจะมีปัญหากระทบกรณีสหกรณ์ฯ ที่อยู่ระหว่างยื่นเรื่องขออนุญาตใช้พื้นที่ และกำหนดเส้นทางเดินรถรางจากกรมป่าไม้ หากมีคณะกรรมการฯ ฝ่าฝืนและไปกระทำผิดกฎหมายเกรงว่าทางกรมป่าไม้จะไม่อนุญาต