ศูนย์ข่าวศรีราชา -ชาวแหลมฉบัง ร่วมมอบเงินกว่า 4 แสนบาท ให้ ผวจ.กำแพงเพชร ส่งต่อให้ “ครูวิภา” หวังช่วยปลดหนี้ กยศ.หลังเซ็นค้ำประกันกู้เงินให้ลูกศิษย์จนได้รับความเดือดร้อน
วันนี้ (6 ส.ค.) นายบุญเลิศ น้อมศิลป์ ที่ปรึกษานายกเทศมนตรีนครแหลมฉบัง พร้อมด้วย นางจินดา ถนอมรอด นายกเทศมนตรีนครแหลมฉบัง และสมาชิกสภาเทศบาล ได้ร่วมกันมอบเงิน จำนวน 410,000 บาท ให้แก่ นายธัชชัย สีสุวรรณ ผู้ว่าราชการจังหวัดกำแพงเพชร เพื่อนำไปมอบให้แก่ ครูวิภา บานเย็น ผู้อำนวยการโรงเรียนบ้านห้วยน้อย ต.แม่ลาด อ.คลองขลุง จ.กำแพงเพชร ที่ได้เซ็นค้ำประกันเงินกู้กองทุนเงินให้กู้ยืมเพื่อการศึกษา (กยศ.) ให้แก่ลูกศิษย์ตั้งแต่ปี 2541 ระยะเวลาผ่านมา 20 ปี แต่ลูกศิษย์กลับไม่นำเงินใช้หนี้ที่กู้มา ทำให้ กยศ. ดำเนินคดีต่อผู้คำประกันเพื่อให้ชดใช้ค่าเสียหาย จน ครูวิภา ถูกฟ้องยึดทรัพย์ และกำลังได้รับความเดือดร้อนอย่างหนัก
โดยการมอบเงินดังกล่าวจัดขึ้นที่ห้องประชุมชั้น 4 เทศบาลนครแหลมฉบัง อ.ศรีราชา จ.ชลบุรี ซึ่ง นายบุญเลิศ กล่าวว่า ตนเองในฐานะชาวแหลมฉบังที่ได้ติดตามความข่าวสารของครูวิภา ทำให้เห็นถึงความเสียสละของครูที่มีต่อลูกศิษย์ จึงเกิดความสงสาร และต้องการหาทางช่วยเหลือ ทั้งๆ ที่ไม่เคยรู้จักกับครูวิภา มาก่อน
และในเบื้องต้น ได้ประสานไปยัง นายมานพ ปัทมาลัย นายกเทศมนตรีตำบลบ้านมะเขือ เพื่อแจ้งเรื่องดังกล่าวให้แก่ นายธัชชัย สีสุวรรณ ผู้ว่าราชการจังหวัดกำแพงเพชร รับทราบ จนนำมาสู่การเดินทางของคณะผู้ว่าราชการจังหวัดกำแพงเพชร เพื่อนำเงินช่วยเหลือไปส่งมอบให้แก่ ครูวิภา ตามเความตั้งใจของชาวนครแหลมฉบังในวันนี้
นายธัชชัย สีสุวรรณ ผู้ว่าราชการจังหวัดกำแพงเพชร กล่าวว่า ตนเองในฐานะตัวแทนชาวจังหวัดกำแพงเพชร ต้องขอขอบคุณชาวนครแหลมฉบังทุกท่านที่ให้ความช่วยเหลือ ครูวิภา พร้อมขอฝากไปยังคณะผู้บริหาร กยศ. ถึงหลักการในการกู้ยืมเงินว่า คุณครูที่ค้ำประกันให้แก่ลูกศิษย์ไม่ควรค้ำเกิน 5 คน และผู้กู้ต้องเป็นผู้ใช้หนี้ ที่สำคัญบอร์ด กยศ. ต้องพิจารณาในรูปแบบการดำเนินคดีต่อผู้กู้ก่อนด้วย
“สำหรับเงินจำนวนดังกล่าว ทางจังหวัดได้มอบหมายให้รองผู้ว่าราชการจังหวัดกำแพงเพชร พิจารณาการใช้เงิน ซึ่งล่าสุด มีการฟ้องร้องผู้กู้เงินดังกล่าวแล้ว 12 ราย และขณะนี้อยู่ในขั้นตอนการบังคับคดี และพร้อมให้คณะกรรมการติดตามผู้กู้ทั้ง 12 ราย ซึ่งใครสามารถจ่ายเงินดังกล่าวคืนได้ก็ให้นำมาจ่าย แต่รายที่ยากไร้ หรือไม่มีเงินมาจ่ายคืน หากคณะกรรมการของจังหวัดตรวจสอบแล้วเป็นจริงก็จะให้นำเงินในส่วนน้ำใจของชาวแหลมฉบังไปจ่ายแทน ซึ่งเงินจำนวน 410,000 บาท ทางจังหวัดจะไม่จัดตั้งเป็นกองทุน แต่เป็นเงินของครูวิภา ตามสิทธิ และเจตนารมณ์ของชาวแหลมฉบังที่มอบช่วยเหลือในครั้งนี้ ”นายธัชชัย กล่าว
