ศูนย์ข่าวศรีราชา - ตร.สภ.นาจอมเทียน คุมตัว “ไอ้มด” สอบเครียด หลังเดินทางจากท่าอากาศยานภูเก็ต ถึงสนามบินนานาชาติอู่ตะเภา จ.ระยอง ช่วงกลางดึกคืนวานนี้หวังสาวให้ถึงรัง “เสี่ยอ้วน” ขณะที่ ตร.ยัน สปาย-ฟอส เป็นคู่รักกัน
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ช่วงกลางดึกคืนวานนี้ (6 ส.ค.) เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวน สภ.นาจอมเทียน ได้เดินทางไปรับตัว นายกฤษณะ หรือมด สีสุข อายุ 22 ปี ผู้ต้องหาตามหมายจับศาลจังหวัดพัทยา ในคดีร่วมกันฆ่าผู้อื่นโดยไตร่ตรองไว้ก่อน ที่ได้ติดขอเข้ามอบตัวต่อเจ้าหน้าที่ตำรวจในพื้นที่ จ.ภูเก็ต และถูกนำตัวเดินทางโดยเครื่องบินจากท่าอากาศยานภูเก็ต มาลงยังสนามบินนานาชาติอู่ตะเภา อ.บ้านฉาง จ.ระยอง ก่อนควบคุมตัวไปสอบสวนที่ สภ.นาจอมเทียน เพื่อให้ ร.ต.อ.หญิง รสิตา เณรพงษ์ รองสารวัตรสอบสวน เจ้าของคดี ทำการสอบสวนสรุปสำนวนคดี โดยมี พ.ต.อ.อาทร ชิ้นทอง ผกก.สภ.นาจอมเทียน ควบคุมการสอบสวน
โดยผู้สื่อข่าวรายงานว่า เจ้าหน้าที่ตำรวจได้ทำการสอบสวน เพื่อให้ “นายมด” ปริปากบอกถึงแหล่งกบดานของ เสี่ยอ้วน และนายบ่าว ที่อยู่ระหว่างการหลบหนี ก่อนจะนำตัวไปทำแผนประกอบคำรับสารภาพ และส่งฟ้องศาลจังหวัดพัทยาดำเนินคดีในวันนี้
ขณะที่ พ.ต.อ.ศักดิ์รพี เพรียวพานิช รองผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดชลบุรี ได้เปิดเผยต่อสื่อมวลชนยืนยันว่า จากการที่ทางญาติของ น้องฟอส ออกมาเปิดเผยว่าทั้งคู่รักกันแต่เป็นเพียงเพื่อนสนิท เนื่องจาก น้องฟอส มีลักษณะกระตุ้งกระติ้งนั้น ในเรื่องนี้ตนเองขอยืนยันว่า ทั้งคู่เป็นคู่รักกันอย่างแน่นอน เนื่องจากได้มีการสอบสวนพยานที่ใกล้ชิดกับผู้ตายอย่างละเอียด และมีการยืนยันตรงกัน แต่อย่างไรก็ตาม ความสัมพันธ์ของทั้ง 2 ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับรูปคดี
ทั้งนี้ การเข้ามอบตัวของผู้ต้องหารายล่าสุดเป็นผลสืบเนื่องจากการที่เจ้าหน้าที่ตำรวจได้พยายามกดดันกลุ่มคนร้าย รวมถึงกระแสข่าวที่เจ้าหน้าที่ตำรวจจะใช้มาตรการขั้นเด็ดขาด “จับตาย” จึงทำให้ผู้ต้องหาหวั่นว่าจะถูกจับตาย จึงขอเข้ามอบตัวในที่สุด
โดยผู้ต้องหาที่ถูกจับกุมได้ก่อนหน้านี้ยืนยันว่า “เสี่ยอ้วน” และ “นายบ่าว” เป็นผู้มือลั่นไกสังหาร โดย เสี่ยอ้วน ได้ยิงใส่ น้องฟอส จำนวน 3 นัด ส่วน นายบ่าว ลงมือยิงใส่ฝ่ายน้องสปาย จำนวน 4 นัด ซึ่งขณะนี้เจ้าหน้าที่ตำรวจได้ส่งชุดปฏิบัติการพิเศษที่มีความชำนาญทางยุทธวิธีชั้นสูงเฝ้าติดตามเพื่อจับกุม เนื่องจากผู้ต้องหามีความโหดเหี้ยม และชำนาญการใช้อาวุธปืนอย่างมาก