ศูนย์ข่าวศรีราชา- คุมตัวสอบเข้ม “ป๊อปปี้” มือขวา “เสี่ยอ้วน” หลังถูกนำตัวจากภูเก็ตถึง สภ.นาจอมเทียนสารภาพทำหน้าที่ขับรถประกบรถยนต์ผู้ตายไม่ให้คลาดสายตา คาดวันนี้ ตร.นำตัวแถลงข่าวต่อสื่อมวลชน ก่อนนำไปทำแผนประกอบคำรับสารภาพ
จากกรณีที่เจ้าหน้าที่ตำรวจ จ.สระแก้ว ได้สนธิกำลังเจ้าหน้าที่จากหลายหน่วยเกือบ 50 นาย บุกเข้าจับกุม นายเกียรติศักดิ์ สุรางแสงมีบุญ หรือบอล อายุ 35 ปี ซึ่งเป็น 1 ในทีมฆ่าโหด น.ส.ปวีณา นาเมืองรักษ์ หรือน้องสปาย อายุ 20 ปี และนายอนันตชัย จริตรัมย์ หรือน้องฟอส อายุ 21 ปี ได้ที่บ้านพักในสวนปาล์ม คลอง 13 บ้านโคกยาง ต.เขาฉกรรจ์ อ.เขาฉกรรจ์ จ.สระแก้ว ก่อนนำตัวมาสอบสวนและชี้จุดทิ้งอาวุธปืนที่ สภ.นาจอมเทียน อ.สัตหีบ จ.ชลบุรี เมื่อช่วงเย็นวานนี้ และตั้งข้อหาหนัก “ร่วมกันฆ่าผู้อื่นโดยไตร่ตรองไว้ก่อน ร่วมกันมีอาวุธปืนและเครื่องกระสุนปืน พกพาอาวุธปืนและเครื่องกระสุนปืนติดตัวไปในเมือง หมู่บ้าน หรือทางสาธารณะโดยไม่ได้รับอนุญาต” นั้น
ล่าสุด เมื่อเวลา 00.30 น.วันนี้ (3 ส.ค.) พ.ต.อ.พัฒนา ปรีชานันท์ ผกก.สส.ภ.จว.ชลบุรี พร้อมชุดทำงานได้ควบคุมตัว นายจิรศักดิ์ อุนัยบัน หรือ ป๊อปปี้ อายุ 34 ปี อีก 1 ลูกน้องคนสนิท “เสี่ยอ้วน” หรือนายปัญญา ยิ่งดัง อายุ 39 ปี ผู้ร่วมทีมสังหารหนุ่มสาวทั้ง 2 จนเสียชีวิตอย่างอนาถ และยังเป็นผู้ต้องหาตามหมายจับศาลจังหวัดพัทยา ในคดีร่วมกันฆ่าผู้อื่นโดยไตร่ตรองไว้ก่อน มาสอบสวนที่ สภ.นาจอมเทียน
หลังเข้ามอบตัวที่ จ.ภูเก็ต และถูกนำตัวขึ้นเครื่องบินมาลงยังสนามบินนานาชาติอู่ตะเภา พร้อมรถยนต์เก๋งโตโยต้า ยาริส สีขาว ทะเบียน 1 กฎ 9490 กรุงเทพมหานคร ที่ใช้เป็นยานพาหนะในวันก่อเหตุ
โดยได้ส่งตัวพร้อมของกลางให้ ร.ต.อ.หญิง รสิตา เณรพงษ์ รองสารวัตรสอบสวน เจ้าของคดี ทำการสอบสวนสรุปสำนวนคดีส่งฟ้องศาลจังหวัดพัทยา โดยมี พ.ต.อ.อาทร ชิ้นทอง ผกก.สภ.นาจอมเทียน ร่วมควบคุมการสอบสวน
สำหรับแนวทางการสอบสวนทราบว่า นายป๊อปปี้ เป็นมือขวาของ “เสี่ยอ้วน” และ ในวันเกิดเหตุได้ใช้รถเก๋งโตโยต้า ยาริส ที่เช่ามาจากเมืองพัทยา ทำหน้าที่ขับรถประกบรถยนต์ของผู้ตายไม่ให้คลาดสายตา และหลังก่อเหตุได้หนีไปกบดานที่ จ.ภูเก็ต ก่อนจะขอเข้ามอบตัวสู้คดี
ด้าน พ.ต.อ.อาทร ชิ้นทอง ผกก.สภ.นาจอมเทียน ได้นำตัวผู้ต้องหาเข้าห้องสอบเครียดกว่า 1 ชั่วโมง เพื่อสรุปสำนวนรายงานผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ถึงความคืบหน้าในคดี และภายหลังการสอบสวนได้ควบคุมตัวผู้ต้องหาไว้ในห้องสอบสวน โดยมีกำลังตำรวจอาสา 5 นาย เฝ้าไม่ให้คลาดสายตา เพราะเกรงว่าจะคิดสั้นฆ่าตัวตาย
ทั้งนี้ ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ในวันพรุ่งนี้เจ้าหน้าที่ตำรวจอาจจะควบคุมตัว นายป๊อปปี้ ออกมาแถลงข่าวต่อสื่อมวลชน พร้อมนำตัวไปทำแผนประกอบคำรับสารภาพ ก่อนส่งสำนวนคดีฟ้องต่อศาลจังหวัดพัทยา ส่วน “เสี่ยอ้วน” ขณะนี้ยังคงหลบหนี และไม่เข้ามอบตัว ซึ่งเจ้าหน้าที่ตำรวจจะพยายามกดดันทุกวิถีทางและพร้อมจับตายหากมีการต่อสู้ขัดขืนการจับกุม