ศูนย์ข่าวศรีราชา - ตั้งข้อหาหนัก “ไอ้บอล” ทีมฆ่าโหด 2 หนุ่มสาวใน อ.สัตหีบ สารภาพได้ค่าจ้าง 1 แสนขับรถพา “เสี่ยอ้วน” หนี เผยทะเบียนป้ายแดงรถซีอาร์วี เป็นของปลอม ก่อนนำไปชี้จุดทิ้งอาวุธปืน ส่วนผู้ต้องหาอีกรายขอมอบตัวแล้ว
จากกรณีที่เจ้าหน้าที่ตำรวจ จ.สระแก้ว ได้สนธิกำลังเจ้าหน้าที่จากหลายหน่วย เกือบ 50 นาย บุกเข้าจับกุม นายเกียรติศักดิ์ สุรางแสงมีบุญ หรือบอล อายุ 35 ปี ชาว ต.ป่าตอง อ.กระทู้ จ.ภูเก็ต ซึ่งเป็น 1 ในทีมฆ่าโหด น.ส.ปวีณา นาเมืองรักษ์ หรือน้องสปาย อายุ 20 ปี และนายอนันตชัย จริตรัมย์ หรือน้องฟอส อายุ 21 ปี ได้ที่บ้านพักในสวนปาล์ม คลอง 13 บ้านโคกยาง ต.เขาฉกรรจ์ อ.เขาฉกรรจ์ จ.สระแก้ว ในช่วงกลางดึกคืนวานนี้ หลังหนีไปกบดานอยู่ที่บ้านหลังดังกล่าวได้ประมาณ 7 ชั่วโมง หลังขับรถกระบะเพื่อนำ “เสี่ยอ้วน” หลบหนีตกถนนใน จ.สระแก้ว นั้น
ล่าสุด เมื่อเวลา 16.00 น.วันนี้ (2 ส.ค.) พล.ต.อ.เฉลิมเกียรติ ศรีวรขาน รอง ผบ.ตร. พร้อมด้วย พล.ต.ท.จิตติ รอดบางยาง ผบช.ภ.2 พล.ต.ต.นันทชาติ ศุภมงคล ผบก.ภ.จว.ชลบุรี พ.ต.อ.อาทร ชิ้นทอง ผกก.สภ.นาจอมเทียน พ.ต.อ.พัฒนา ปรีชานันท์ ผกก.สส.ภ.จว.ชลบุรี และ ร.ต.อ.หญิง รสิตา เณรพงษ์ รองสารวัตรสอบสวน ได้ร่วมกันแถลงข่าวการจับกุม นายเกียรติศักดิ์ หรือบอล สุรางค์แสงมีบุญ ผู้ต้องหาตามหมายจับศาลจังหวัดพัทยา ณ ห้องประชุม สภ.นาจอมเทียน อ.สัตหีบ จ.ชลบุรี
พร้อมนำของกลางที่ใช้ในการก่อเหตุซึ่งตรวจยึดได้มาแสดงต่อสื่อมวลชน ประกอบด้วย อาวุธปืนยี่ห้อบาเร็ตต้า รุ่น px4 Storm ขนาด 9 มม. จำนวน 1 กระบอก ยี่ห้อสมิทแอนด์เวสสัน ขนาด .38 จำนวน 1 กระบอก ยี่ห้อ CZ 75D Compact ขนาด 9 มม.จำนวน 1 กระบอก ยี่ห้อสมิทแอนด์เวสสัน ขนาด .357 จำนวน 1 กระบอก เครื่องกระสุน 129 นัด รถยนต์ Honda CRV สีขาว หมายเลขทะเบียน กล 9444 ภูเก็ต ซึ่งเป็นของ นายปัญญา หรืออ้วน ยิ่งดัง อายุ 39 ปี หลังเจ้าหน้าที่ตำรวจตรวจยึดได้ที่ อ.บัวเชด จ.สุรินทร์ และรถกระบะยี่ห้อโตโยต้า วีโก้ สีบรอนซ์ หมายทะเบียน บท 3631 ภูเก็ต ที่ตรวจยึดได้บริเวณด่านชายแดน จ.สระแก้ว ซึ่งทั้งหมดอยู่ระหว่างการตรวจหาหลักฐาน เพื่อหาผู้เชื่อมโยงในคดี
พล.ต.อ.เฉลิมเกียรติ เผยว่า หลังการจับกุม นายสมเกียรติ ได้นำไปชี้จุดที่ทิ้งอาวุธปืนของกลาง และขณะนี้ได้นำตัวส่งพนักงานสอบสวน เพื่อทำสำนวนคดีส่งฟ้องศาลจังหวัดพัทยา ในข้อหา “ร่วมกันฆ่าผู้อื่นโดยไตร่ตรองไว้ก่อน ร่วมกันมีอาวุธปืนและเครื่องกระสุนปืน พกพาอาวุธปืนและเครื่องกระสุนปืนติดตัวไปในเมือง หมู่บ้าน หรือทางสาธารณะโดยไม่ได้รับอนุญาต”
ด้าน นายสมเกียรติ สารภาพว่า ได้รับเงินจ้างวานจาก “เสี่ยอ้วน” จำนวน 1 แสนบาท โดยตนเองทำหน้าที่ขับรถยนต์ฮอนด้า ซีอาร์วี สีขาว ทะเบียนป้ายแดง ก 5195 ระยอง ซึ่งเป็นทะเบียนปลอม ก่อนเปลี่ยนเป็นรถกระบะยี่ห้อโตโยต้า วีโก้ เพื่อพา “เสี่ยอ้วน” หลบหนีออกจากพื้นที่ พร้อมอาวุธปืน 4 กระบอก และนำทะเบียนป้ายแดงที่ติดกับรถยนต์ฮอนด้า ซีอาร์วี ไปทำลายหลักฐานในป่าหญ้าริมทางรถไฟ ห่างจากสถานีรถไฟ ต.พลูตาหลวง อ.สัตหีบ จ.ชลบุรี ประมาณ 200 เมตร
โดยได้ขับรถพา “เสี่ยอ้วน” ไปส่งยัง จ.สระแก้ว และเมื่อได้รับเงินค่าจ้างแล้วจึงแยกย้ายกันหลบหนี จนกระทั่งถูกจับกุมในที่สุด ทั้งนี้ นายสมเกียรติ ยืนยันว่า ไม่ได้เป็นผู้ลงมือยิงหนุ่มสาวทั้ง 2 จนเสียชีวิตอย่างแน่นอน
และมีรายงานว่า นายจิรศักดิ์ อุนัยบัน ผู้ต้องหาที่ถูกออกหมายจับก่อนหน้านี้ ได้ติดต่อขอมอบตัวแล้วที่ จ.ภูเก็ต และขณะนี้อยู่ระหว่างการนำตัวมาสอบสวนเพิ่มเติมที่ สภ.นาจอมเทียน คาว่าจะเดินทางมาถึงในเวลา 22.00 น.วันนี้ เผย นายจิรศักดิ์ เป็นคนขับรถโตโยต้า ยาริส พาเสี่ยอ้วนหลบหนีเช่นกัน
ทั้งนี้ ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ผู้ต้องหาที่ถูกออกหมายจับก่อนหน้านี้ 3 คน ประกอบด้วย 1.นายปัญญา ยิ่งดัง หรือเสี่ยอ้วน ขณะนี้ยังจับตัวไม่ได้ 2.นายจิรศักดิ์ อุนัยบัน ติดต่อเข้ามอบตัวแล้วที่ จ.ภูเก็ต และ 3.นายสายัณห์ ศรีสุข ซึ่งถูกจับกุมได้เป็นคนแรก และถูกนำตัวไปฝากขังศาลจังหวัดพัทยา เมื่อวันที่ 1 ส.ค.ที่ผ่านมา ล่าสุด ผู้ต้องหารายที่ 4 คือ นายเกียรติศักดิ์ หรือบอล ถูกจับช่วงกลางดึกคืนวานนี้