เพชรบุรี - ผู้ว่าฯ เมืองเพชร เผยเตรียมพร้อมรับมือสถานการณ์น้ำ หลังพบปริมาณน้ำในเขื่อนแก่งกระจาน ซึ่งมีปริมาณน้ำสูงขึ้นอย่างรวดเร็ว คาดไม่น่ามีปัญหา
วันนี้ (2 ส.ค.) นางฉัตรพร ราษฎรดุษดี ผู้ว่าราชการจังหวัดเพชรบุรี เปิดเผยเกี่ยวกับปริมาณน้ำในเขื่อนแก่งกระจาน ซึ่งมีปริมาณน้ำสูงขึ้นอย่างรวดเร็ว จากปริมาณน้ำ 40% เมื่อปี 2560 ในปีนี้จากปริมาณน้ำฝนตกเหนือเขื่อนแก่งกระจานไหลลงเขื่อน ในช่วงวันที่ 18-19 กรกฎาคม 2561 ปริมาณ 110 ล้านลูกบาศก์เมตร และเพิ่มขึ้นทำให้ปริมาณน้ำสะสมจาก 40% เพิ่มขึ้นมาเป็น ณ เวลานี้ 655.712 ล้าน ลูกบาศก์เมตร คิดเป็น 92.35%
โดยขณะนี้การระบายน้ำจากเขื่อนแก่งกระจานเปิดประตูน้ำเต็มทุกบาน 103 ล้าน ลบ.ม.ต่อวินาที คิดเป็นวันละ 8.8 ล้าน ลบ.ม. ในขณะที่มีน้ำเข้าเขื่อนวันละ 12 ล้าน ลบ.ม. เมื่อมีปริมาณน้ำเข้าเขื่อนมากกว่าน้ำระบายออกจากเขื่อน อุทยานแห่งชาติแก่งกระจาน มีพื้นที่ที่ใหญ่ที่สุด เนื้อที่ 51% มีป่าเขาห้วยหนองคลองบึง น้ำฝนที่ค้างอยู่ก็จะไหลมาลงเขื่อนแก่งกระจาน นี่คือที่มาของปริมาณน้ำลงเขื่อน 12 ล้าน ลบ.ม.
ผู้ว่าราชการจังหวัดเพชรบุรี กล่าวต่อไปว่า การระบายน้ำเพิ่มปริมาณสูงก็จริงแต่พบว่าปริมาณน้ำที่เขื่อนแก่งกระจานระบายลงไปทางพื้นที่ท้ายเขื่อนนั้นยังคงมีระดับต่ำกว่าตลิ่ง หากต้องการดูปริมาณน้ำ ชลประทานจังหวัดเพชรบุรี ได้กำหนดสถานีสังเกตระดับน้ำในแม่น้ำเพชรบุรี จำนวน 5 สถานี โดยสถานีแรกสุดคือ สถานีสองพี่น้อง ที่อยู่ติดแก่งกระจานมากที่สุด ขณะนี้น้ำผ่าน 91.3 ลบ.ม ต่อวินาที ตลิ่งสูง 4.4 เมตร ระดับน้ำอยู่ที่ 2.76 ต่ำกว่าตลิ่งอยู่ 1.64 เมตร
สถานีที่ 2 คือ บ้านสาระเห็ด อ.ท่ายาง ต่ำกว่าตลิ่งอยู่ 2.65 เมตร น้ำลงมาเรื่อยๆ ระดับน้ำข้างจวนผู้ว่าราชการจังหวัด ต่ำกว่าตลิ่งอยู่ 2.14 เมตร ผู้ว่าราชการจังหวัดเพชรบุรี ชี้ว่า จากสถานการณ์เรื่องน้ำแล้วค่อนข้างสูงแต่ยังไม่ล้นตลิ่ง โดยเมื่อวันที่ 31 ก.ค.ที่ผ่านมา ได้เรียกประชุมศูนย์บัญชาการเหตุการณ์ เพื่อให้ทุกคนได้รับทราบข้อมูลเรื่องน้ำ โดยในขณะนี้ใช้ระบบป้องกันบ้านเรือนโดยนำกระสอบทรายมากั้นน้ำ ช่วงนี้เป็นฤดูทำนา ก็จะได้น้ำไปทำนา แต่หากเกินจากความจำเป็นก็อาจต้องสำรวจความเสียหาย และมาชดใช้เยียวยาทีหลัง เพื่อให้น้ำไหลลงทะเลที่บ้านแหลม
“แต่หากระดับน้ำในเขื่อนแก่งกระจายล้นสปีลเวย์ ได้สั่งให้ทุกหน่วยงานสำรวจความแข็งแรงของเขื่อน กรณีกระแสน้ำมาแรงจะป้องกันได้มากน้อยเพียงใด รวมทั้งสภาพดินที่อุ้มน้ำเป็นเวลานาน ทั้งนี้ การระบายน้ำของเขื่อนแก่งกระจานให้อยู่ในระยะ 70% ในฤดูฝนที่เหลืออีก 2-3 เดือน (สิงหาคม-กันยายน-ตุลาคม) ขึ้นอยู่กับว่าจะมีปริมาณฝนตก หากปริมาณฝนยังคงมากอยู่ต้องอพยพของขึ้นที่สู โดยจังหวัดได้เตรียมการกรณีฉุกเฉินเบอร์โทรศัพท์สำหรับขอความช่วยเหลือ มีกำลังพลตำรวจ ทหาร ไปช่วยยกสิ่งของเคลื่อนย้ายคนเจ็บ เตรียมพร้อมไว้รับสถานการณ์เฉพาะหน้าไว้แล้ว อีกทั้งหากระดับน้ำอยู่ในขั้นวิกฤต สามารถนำเรือผลักดันน้ำเข้ามาช่วยทันที”