นครปฐม- ขอชื่นชม “ปู่กาจ” วัย 83 ปี ออกจากบ้านไปปลูกต้นไม้ทุกวันกว่า 15 ปี โดยไม่หวังผลตอบแทน เพื่อตามรอยเศรษฐกิจพอเพียงของพ่อหลวง เผยทำจนกว่าไม่มีแรง เพราะรู้ต้นไม้คือ ต้นทุนของชีวิต
เรื่องราวของผู้สูงวัยที่ทำประโยชน์ให้แก่ชุมชนด้วยการปลูกต้นไม้นานาชนิด โดยไม่มีค่าตอบแทน ทำด้วยจิตสำนึกที่ดีต่อคนรุ่นหลังมานานนับ 10 ปีรายนี้ คือ ปู่กาจ จิรธนาวุฒิ อายุ 83 ปี อยู่บ้านเลขที่ 30 ม.5 ต.โพรงมะเดื่อ อ.เมืองนครปฐม จ.นครปฐม ปัจจุบันทำอาชีพการเกษตรบนพื้นที่ของตัวเองกว่า 40 ไร่ โดยใช้พื้นที่ที่ได้รับมรดกด้วยการปลูกพืชผักผลไม้นานาชนิด หาเลี้ยงชีพครอบครัวด้วยยึดเอาหลักความพอเพียงเป็นที่ตั้ง
เมื่อมีเวลาเหลือก็จะนำต้นไม้ใส่รถเข็นพร้อมอุปกรณ์ ขี่รถจักรยานยนต์ตระเวนปลูกต้นไม้ในที่สาธารณะ เขตตำบลโพรงมะเดื่อ เชื่อมไปยังจังหวัดกาญจนบุรี นับถึงวันนี้นานกว่า 15 ปี โดยมีทั้งต้นตาล ต้นคูณ ต้นทองกาว และพืชชนิดอื่นๆ ที่เติบโตเป็นไม้ให้ความสวยงาม และให้ผลผลิตให้ชาวบ้านได้เก็บกิน ยาวนับ 10 กิโลเมตร และเป็นที่รู้ของชาวบ้านว่าต้นไม้ที่อยู่ในชุมชนนั้นเป็นฝีมือที่มาจากแรงใจของผู้ชายวัย 83 ปี คนนี้
ปู่กาจ กล่าวว่า เดิมทีตนเองมีอาชีพเย็บผ้าโดยใช้จักรแบบขาเหยียบ แต่นานวันเข้าร่างกายเริ่มชราลง และประกอบกับยุคปัจจุบันคนนิยมหันมาสวมใส่เสื้อผ้าสำเร็จรูปกันมากขึ้น งานที่เข้ามาก็ลดลง จึงได้หันกลับมาประกอบอาชีพการเกษตร มาเป็นชาวสวน ตามที่พ่อแม่ได้เคยทำมา จึงได้ใช้ที่ดินมรดกกว่า 40 ไร่ ปลูกต้นมะม่วงนับพันต้น ต้นมะพร้าวหลายร้อยต้น รวมถึงยังอนุรักษ์ ปลูกต้นสัก ตันประดู่ และไม้ใหญ่ไว้ในพื้นที่ ควบคู่กับการเลี้ยงปลา และเป็ด ไก่แบบครบวงจร และใช้ชีวิตอย่างมีความสุขกับพืชผลการเกษตรในพื้นที่ของตัวเอง โดยได้ยึดเอาหลักเศรษฐกิจพอเพียงของในหลวง รัชกาลที่ ๙ ที่ทรงให้แนวทางไว้
“ก่อนหน้านี้ เมื่อราว 15 ปี ตนเองได้เอาต้นไม้ที่เพาะปลูกได้ในสวนไปปลูกที่ริมคลองชลประทาน เพื่อให้เกิดความร่วมรื่น และสวยงาม โดยจะใช้เวลาว่างหลังจากทำงานในสวนของตัวเองเสร็จ นำเอาผล และต้นของต้นไม้นานาชนิดใส่ท้ายรถเข็น หรือที่ชาวบ้านเรียกว่ารถสาลี่ พร้อมด้วยอุปกรณ์ จอบ มีด และขี่จักรยานยนต์ลากออกไปปลูกต้นไม้ในชุมชนแถวคลองชลประทาน”
กระทั่งเมื่อปี พ.ศ.2549 ตนเองเห็นว่า ต้นตาล ซึ่งเป็นไม้ท้องถิ่นนั้นเริ่มจะหายไป จึงได้ไปขอปรึกษาสำนักงานป่าไม้ สำนักงานกรมชลประทาน อบต.โพรงมะเดื่อ เพื่อขอพันธุ์มาปลูก ตอนแรกก็ได้มาไม่มาก แต่เมื่อเข้าไปขอบ่อย และทางเจ้าหน้าที่เห็นว่าตนเองได้นำมาปลูกให้แก่ชุมชน ทั้งริมถนน ริมคลองชลประทาน ก็ให้พันธุ์มาอย่างต่อเนื่อง
ปู่กาจ กล่าวอีกว่า สาเหตุที่ผมเลือกต้นตาล เพราะเคยเห็นมาตั้งแต่เด็กตามท้องนา และต้นตาลก็มีประโยชน์ทั้งต้น ใบเอามาทำเครื่องจักสานได้ ส่วนผลก็นำมาแปรรูปได้ จากการที่เริ่มปลูกจนต้นตาลโตพอที่จะให้ผลผลิต ก็จะมีชาวบ้านมาเก็บผลใต้ต้นเอาไปทำอาหารกัน เห็นแล้วก็มีความสุข เพราะเป็นต้นไม้ที่เริ่มจะหายไปจากบ้านเรา และต้นตาล ก็ทำให้เราเห็นถึงความผูกพันของชาวบ้านที่แบ่งปันของจากธรรมชาติ
ขณะนี้ ต้นตาล ที่ปลูกไว้มีความยาวกว่า 10 กิโลเมตรแล้ว โดยจะเลียบถนนริมคลองหลังโรงสีโพรงมะเดื่อ ไปถึงวัดป่าปฐมชัย ระยะทางประมาณ 2-3 กิโลเมตร ทั้ง 2 ฝั่งคลอง และถนนเลียบคลองเจดีย์บูชา จะเริ่มจากท่าผา อำเภอบ้านโป่ง ไปเชื่อมต่อแม่น้ำท่าจีน ระยะทางหลายกิโลเมตร ซึ่งคลองเส้นนี้เป็นคลองโบราณตั้งแต่สมัยรัชกาลที่ 6 ขณะนี้ก็ร่มรื่นต้นตาลโตเป็นไม้ใหญ่กันหมดแล้ว
นอกจากต้นตาล ยังต้นทองกาว และต้นคูณที่ได้ปลูกเสริมไปด้วย เนื่องจากเป็นต้นไม้ที่ปลูกและดูแลง่าย โดยต้นทองกาวนั้น ใบดอกเอามาทำยาได้ ส่วนต้นคูณ ดอกจะสวยงามมากเวลาออกดอกสองข้างทางบนถนนริมคลองชลประทาน จะเบ่งบานสีเหลือง คนที่ผ่านไปมาเห็นแล้วก็มีความสุข
ปู่กาจ กล่าวว่า ตนออกมาปลูกต้นไม้นานกว่า 15 ปีนั้น ทำไปเพราะใจรัก และทำทุกวัน นอกจากจะปลูก ก็จะมีการออกไปดูแลพรวนดินให้แก่ต้นที่โตแล้ว โดยมองว่า ต้นตาลที่เคยอยู่กับชาวบ้านนั้นนับวันจะถูกตัดโค่นทิ้งไปทุกวัน เด็กรุ่นใหม่แทบจะไม่รู้จัก และไม่รู้ถึงประโยชน์ของต้นตาล ซึ่งเป็นของคู่กับชาวบ้านตำบลโพรงมะเดื่อ และการทำให้ชุมชนให้พื้นที่ก็ทำด้วยใจเพื่อส่วนรวมไม่คิดอะไร ไม่หวังอะไร
แต่ทำให้คนทุกคนได้รู้คุณค่าของต้นไม้ เพราะต้นไม้คือต้นทุนของชีวิต โดยยืนยันจะปลูกต้นไม้ทุกวันจนกว่าจะไม่มีแรง แต่วันนี้แม้ร่างกายจะเสื่อมสภาพ การเดินไม่คล่องเหมือนปกติ แต่ก็ยังจะทำ โดยภรรยา และลูกหลานก็ไม่ได้ขัดอะไรเพราะเป็นความสุขของเรา
ด้าน นางสมควร ชินวงษ์เกตุ ชาวบ้านกล่าวว่า ปู่กาจ ได้ช่วยดูแลต้นไม้ที่ปลูกริมคลองดินตามถนนสาธารณะ และรดน้ำต้นไม้ ดายหญ้าตามแนวคลองที่ปลูกเอาไว้ และปลูกผักอีกหลายชนิดที่กินได้ และต้นคูณ เวลาออกดอกจะสวยงาม โดยปู่กาจ เป็นผู้ใหญ่ที่เคารพนับถือของชาวบ้านที่โพรงมะเดื่อ และเป็นคนเก่าคนแก่ที่เคารพนับถือ ชอบช่วยเหลือสังคม
และยังเป็นผู้อุปถัมภ์โรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบลโพรงมะเดื่อ ที่เห็นภาพประจำของชาวบ้าน คือ ปู่กาจ ชอบปลูกต้นตาล อยากจะปลูก และอนุรักษ์เอาไว้ให้คนรุ่นหลังกลัวจะไม่รู้จักต้นตาล จะได้มีลูกตาลเอาไว้ทำขนมตาลไว้กินกันในช่วงเช้า และปู่กาจ จะมารดน้ำต้นไม้ที่ปลูกเอาไว้เป็นประจำ ชอบอนุรักษ์แ ละปลูกต้นไม้เป็นชีวิตจิตใจเลยก็ว่าได้