ศูนย์ข่าวเชียงใหม่ - ท่าอากาศยานเชียงใหม่ จัดฝึกซ้อมเต็มรูปแบบตามแผนฉุกเฉินกรณีเหตุฉุกเฉินทางการแพทย์ เตรียมพร้อมรับมือและสกัดกั้นการแพร่ระบาดของโรคติดต่อร้ายแรงเข้าสู่ประเทศ
เวลา 00.01 น.คืนที่ผ่านมา นายมนัส ขันใส ปลัดจังหวัดเชียงใหม่ พร้อม นาวาอากาศเอก วิสูธ จันทนา รองกรรมการผู้อำนวยการใหญ่ (สายงานท่าอากาศยานภูมิภาค) บริษัท ท่าอากาศยานไทย จำกัด (มหาชน) เป็นประธานเปิดการฝึกซ้อมเต็มรูปแบบ ตามแผนฉุกเฉินท่าอากาศยานเชียงใหม่ ประจำปีงบประมาณ 2561 ซึ่งท่าอากาศยานเชียงใหม่ (ทชม.) ในฐานะท่าอากาศยานที่ให้บริการอากาศยานพาณิชย์ ทั้งภายในประเทศและระหว่างประเทศจัดขึ้น ตามข้อบังคับของคณะกรรมการการบินพลเรือน ฉบับที่ 82 ว่าด้วยระบบการจัดการด้านนิรภัยของสนามบิน และตามมาตรฐานสากลขององค์การการบินพลเรือนระหว่างประเทศ เพื่อทดสอบความรวดเร็ว ถูกต้อง และความชำนาญเกี่ยวกับขั้นตอนการปฏิบัติงาน การวางแผน การควบคุมและสั่งการในสถานการณ์ฉุกเฉิน
ตลอดจนทดสอบขีดความสามารถของเครื่องมือและอุปกรณ์เกี่ยวกับการรักษาความปลอดภัย การดับเพลิงและกู้ภัย การแพทย์ ข่ายการติดต่อสื่อสารและการประสานงาน เป็นการสร้างความมั่นใจให้แก่ผู้มาใช้บริการ ผู้โดยสารและสายการบิน
ด้าน นาวาอากาศตรี มณธนิก รักงาม ผู้อำนวยการท่าอากาศยานเชียงใหม่ กล่าวว่า การฝึกซ้อมเต็มรูปแบบตามแผนฉุกเฉินในปีนี้ ได้สมมติสถานการณ์ อากาศยานแบบ Airbus 320-200 ของสายการบิน Moto Airways เที่ยวบินที่ MA555 มีผู้โดยสาร 100 คน และลูกเรือ 6 คน เดินทางจากประเทศ Money ปลายทางท่าอากาศยานเชียงใหม่
ขณะทำการบินลูกเรือพบว่ามีผู้โดยสารชาย 1 คน ป่วยมีไข้สูง หายใจหอบเหนื่อย เจ็บคออย่างรุนแรง อาการทรุดลงตามลำดับ และเสียชีวิตในเวลาต่อมา จากการสอบถามภรรยาผู้เสียชีวิตทราบว่าทั้งสองคนเดินทางมาจากประเทศ Money ซึ่งองค์การอนามัยโลกประกาศว่าเป็นพื้นที่ที่มีการระบาดของเชื้อไวรัสเมอร์ส จึงสันนิษฐานว่าผู้เสียชีวิต น่าจะได้รับเชื้อดังกล่าว ต่อมาภรรยาของผู้เสียชีวิตเริ่มมีอาการไข้ ไอ เจ็บคอ จึงได้แจ้งต่อลูกเรือ และลูกเรือได้ปฏิบัติตามขั้นตอนโรคติดต่ออากาศยาน พร้อมกับแจ้งข่าวให้แก่ศูนย์ควบคุมการบินเชียงใหม่ หลังรับแจ้งเหตุ ท่าอากาศยานเชียงใหม่ได้แจ้งไปยังผู้เกี่ยวข้องเพื่อร่วมประเมินสถานการณ์ก่อนประกาศใช้แผนฉุกเฉินบทที่ 13 เหตุฉุกเฉินทางการแพทย์ โรคติดต่อ และการกักกันโรค และนำเครื่องบินลำดังกล่าวเข้าจอดที่หลุมจอด Isolate Parking
จากนั้นเจ้าพนักงานสาธารณสุขจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้องซึ่งสวมชุดและอุปกรณ์ป้องกันอันตรายส่วนบุคคล ขึ้นไปคัดแยกผู้โดยสารบนอากาศยาน ตามระดับความเสี่ยง และตรวจคัดกรองเบื้องต้นด้วย Thermoscan แบบ Handheld โดยนำผู้โดยสารที่มีความเสี่ยงสูง ไปยังจุดคัดกรองเพื่อซักประวัติและตรวจเพิ่มเติม พร้อมดำเนินพิธีการตรวจคนเข้าเมือง ก่อนนำส่งไปยังโรงพยาบาลสำหรับกักโรคตามที่สาธารณสุขจังหวัดเชียงใหม่กำหนดไว้ต่อไป
การฝึกซ้อมครั้งนี้ ได้รับความร่วมมือเป็นอย่างดีจากทุกหน่วยที่เข้าร่วมทำการฝึกซ้อม เช่น หน่วยงานด้านการแพทย์และสาธารณสุขในจังหวัดเชียงใหม่ โรงพยาบาลกองบิน 41 ศูนย์ควบคุมการบินเชียงใหม่ สายการบินไทยและสายการบินไทยสมายล์ ที่ได้ให้การสนับสนุนอากาศยานและบุคลากรเข้าร่วมฝึกซ้อม ครบตามองค์ประกอบ ที่กำหนดไว้ในสถานการณ์ฉุกเฉิน
ท่าอากาศยานเชียงใหม่หวังเป็นอย่างยิ่งว่า การฝึกซ้อมในครั้งนี้นอกจากสร้างความพร้อมของทุกฝ่าย ที่เกี่ยวข้องในการปฏิบัติงานในสถานการณ์ฉุกเฉินแล้ว ยังจะช่วยสร้างความมั่นใจให้แก่ผู้โดยสารและผู้ที่เข้ามาใช้บริการ ตลอดจนประชาชนในจังหวัดเชียงใหม่ ว่าท่าอากาศยานเชียงใหม่ขั้นตอนการดำเนินงานที่ได้มาตรฐานและมีประสิทธิภาพ สามารถรับมือและสกัดกั้นการแพร่ระบาดของโรคติดต่อร้ายแรง ในฐานะเป็นหนึ่งในช่องทางหลักที่จะเข้าสู่ประเทศ อันจะเป็นผลดีต่อภาพลักษณ์ด้านการท่องเที่ยวของจังหวัดเชียงใหม่ต่อไป