ชัยภูมิ - ตามรวบได้แล้ว! พระชัยภูมิทำน้ำมนต์มรณะให้สาว 18 ปี ดื่มชักตาตั้งดับ หลังสึกหนีหมายจับไปลงเรือออกทะเลที่ จ.กระบี่ นาน 3 เดือน ช่วงมรสุมกลับมาบ้านญาติที่ภูมิลำเนา จ.ชัยภูมิ ก่อนถูกจับ รับเป็นคนทำน้ำมนต์ให้ดื่ม แต่ไม่มีเจตนาให้เสียชีวิต
วันนี้ (17 ก.ค.) ผู้สื่อข่าวรายงาน ความคืบหน้าคดีสาว 18 ปี ชาว อ.แก้งคร้อ ชัยภูมิ ถูกกลุ่มพระอาศัยชั่วคราวอยู่ในวัดร้าง หมู่บ้านท่าเว่อ หมู่ที่ 11 ต.เก่าย่าดี อ.แก้งคร้อ จ.ชัยภูมิ ให้ดื่มน้ำมนต์ทำพิธีล้างอาถรรพ์อ้างถูกไสยศาสตร์มนต์ดำเล่นงาน จนเด็กสาวเกิดอาการชักและช็อกเสียชีวิตเมื่อวันที่ 25 มี.ค.ที่ผ่านมา โดยญาติได้เข้าแจ้งความต่อพนักงานสอบ สภ.แก้งคร้อ จากนั้นกลุ่มพระที่อยู่ด้วยกัน 2 รูป พร้อมโยมลูกศิษย์อีก 3 คนได้พากันหลบหนีไป ตำรวจได้ยื่นศาลออกหมายจับและเร่งติดตามตัวมาดำเนินคดี
ต่อมาวันที่ 6 เม.ย.ที่ผ่านมา ญาติได้นำตัวผู้ถูกกล่าวหาและลูกศิษย์ รวม 4 ราย ประกอบด้วย 1. พระบุญปัน บุญโนนแต้ อายุ 66 ปี มีภูมิลำเนาอยู่ที่ อ.แก้งคร้อ จ.ชัยภูมิ 2. น.ส.กรรณิการ์ ไม้สังข์ อายุ 37 ปี ชาว อ.สามพราน จ.นครปฐม 3. น.ส.บุญหลาย จันลา อายุ 36 ปี ชาว อ.วังสามหมอ จ.อุดรธานี และ 4. นายมงคล ใยแก้ว อายุ 33 ปี ชาว อ.วังสามหมอ จ.อุดรธานี เข้ามอบตัวต่อพนักงานสอบสวน สภ.แก้งคร้อ จ.ชัยภูมิ หลังถูกออกหมายจับในข้อหาร่วมกันกระทำการโดยประมาท จนทำให้ผู้อื่นถึงแก่ความตาย โดยให้การปฏิเสธว่าไม่มีส่วนเกี่ยวข้องในการทำพิธีทำน้ำมนต์ใดๆ ร่วมกับพระโอภาส ศรีสง่า อายุ 43 ปี พระอีก 1 รูป ที่ยังหลบหนีไม่ยอมมามอบตัว ตามที่เสนอข่าวมาอย่างต่อเนื่องนั้น
ล่าสุดวันนี้ เมื่อช่วงเวลา 11.00 น.ที่ผ่านมา เจ้าหน้าที่ตำรวจชัยภูมิสามารถติดตามจับกุมตัว พระโอภาส ศรีสง่า อายุ 43 ปี ผู้ต้องหาคดีน้ำมนต์มรณะนี้ได้แล้ว ที่บ้านญาติ ใน อ.แก้งคร้อ จ.ชัยภูมิ และได้สึกจากการเป็นพระแล้ว ก่อนนำตัวมาสอบสวนที่กองกำกับการตำรวจสืบสวนตำรวจภูธรจังหวัดชัยภูมิ
นายโอภาส ศรีสง่า อายุ 43 ปี ผู้ต้องหาให้การว่า หลังก่อเหตุได้พยายามหลบหนีการจับกุมของเจ้าหน้าที่ตำรวจมานานกว่า 3 เดือน โดยได้สึกออกจากการเป็นพระที่ จ.หนองบัวลำภู เพื่อหลีกหนีการติดตามของเจ้าหน้าที่มาสวมใส่เสื้อผ้าเป็นประชาชนธรรมดาทั่วไป ก่อนหนีไปยังจังหวัดต่างๆ ทางภาคใต้ จนไปอยู่ที่ จ.กระบี่ เพื่อลงเรือไปทำงานอยู่กลางทะเลได้ประมาณ 3 เดือน และช่วงนี้มรสุมเข้าออกเดินเรือไม่ได้จึงกลับมาภูมิลำเนาที่บ้านญาติในเขต อ.แก้งคร้อ จ.ชัยภูมิ ก่อนมาถูกเจ้าหน้าที่เข้าจับกุมตัวได้
นายโอภาสกล่าวต่อว่า ยอมรับว่าตนทำพิธีล้างคุณไสยมนต์ดำ ด้วยการให้สาว 18 ปี รายนี้ดื่มน้ำมนต์จนเสียชีวิตจริง แต่ไม่มีเจตนาทำให้เสียชีวิต ซึ่งตั้งแต่บวชมาเกือบ 9 ปี ได้ทำพิธีให้กับคนที่คิดว่าตัวเองถูกคุณไสยมนต์ดำดื่มโดยไม่ได้เรียกร้องอะไร แล้วแต่จะให้ และในน้ำมนต์ไม่ได้ใส่อะไร เป็นน้ำเปล่าและเทียนเท่านั้น พร้อมแจ้งตลอดว่าใครที่เข้าทำพิธีต้องดื่มน้ำมนต์จำนวนมาก บางรายปริมาณอาจถึง 2 บาตรพระ และดื่มแล้วจะมีอาการอาเจียนออกมา หากใครมีโรคประจำตัว ลมชัก โรคหอบหืด ขอให้แจ้งก่อนทำพิธีทุกครั้งเช่นกัน ที่ผ่านมาส่วนใหญ่มีคนมาให้ทำน้ำมนต์ให้ดื่มเพื่อเลิกเหล้า บุหรี่ เป็นจำนวนมาก
ส่วนกรณีสาว 18 ปี เสียชีวิตครั้งนี้เห็นว่าถูกคุณไสยมาหนัก จึงต้องดื่มน้ำมนต์จนอาเจียนมากกว่าใครๆ ที่ผ่านมา จนช็อกทางตนก็หยุดให้ดื่ม และให้คนพาส่งโรงพยาบาล ไม่มีเจตนาจะทำร้ายและไม่คิดว่าจะเสียชีวิตได้ รู้สึกเสียใจกับครอบครัวของน้องด้วย ตนไม่มีเจตนาจริงๆ ที่จะทำให้น้องเสียชีวิต ส่วนพิธีรับทำน้ำมนต์ดังกล่าวก็ไม่มีใครบอกสอน แต่จำมาจากครูคือหลวงปู่ที่เคยทำมา และหาอ่านบทสวดต่างๆ ที่คิดขึ้นเองเท่านั้น และเห็นว่าที่ผ่านมามีคนมาขอให้ทำน้ำมนต์ให้อาบ ให้ดื่มแล้วหาย เลยรับทำมาโดยตลอดเท่านั้น
จากนั้นเจ้าหน้าที่ชุดสืบสวนได้ควบคุมตัวส่งพนักงานสอบสวนในท้องที่เกิดเหตุ สภ.แก้งคร้อ เพื่อดำเนินคดีในข้อหาร่วมกันกระทำการโดยประมาทจนทำให้ผู้อื่นถึงแก่ความตาย ตามกฎหมายต่อไป