เชียงราย - ชาวเชียงรายร่วมกันทำบุญใหญ่หน้าถ้ำหลวง พร้อมเตรียมพิธีสวดถอน และพิธีปิดถ้ำตามความเชื่อของคนไทยภาคเหนือในการฟื้นคืนความเป็นสิริมงคลกลับมา คาด “ครูบาบุญชุ่ม” มาร่วมพิธีด้วย
วันนี้ (16 ก.ค.) ที่บริเวณด้านหน้าถ้ำหลวง วนอุทยานถ้ำหลวง-ขุนน้ำนางนอน ต.โป่งผา อ.แม่สาย จ.เชียงราย ครูบาแสงหล้า เจ้าอาวาสวัดสายเมือง จ.ท่าขี้เหล็ก สาธารณรัฐแห่งสหภาพเมียนมาร์ (พม่า) พระรัตนมุณี รองเจ้าคณะจังหวัดเชียงราย นำคณะสงฆ์ทั้งฝั่งไทยและพม่าร่วมประกอบพิธีบวงสรวงเจริญพระพุทธมนต์ถ้ำหลวง เพื่อความเป็นสิริมงคลภายหลังจากเสร็จสิ้นภารกิจช่วยเหลือทีมหมูป่า อะคาเดมี แม่สาย จนปลอดภัยทั้ง 13 คนไปเมื่อวันที่ 11 ก.ค.ที่ผ่านมา
ขณะที่บริเวณโดยรอบพิธียังมีอุปกรณ์ต่างๆ ที่เกิดจากการช่วยเหลือเยาวชนกลุ่มดังกล่าวยังไม่ได้รื้อถอนออกเป็นจำนวนมาก โดยเจ้าหน้าที่จะรอให้น้ำภายในถ้ำลดลงก่อนเพื่อความปลอดภัย
สำหรับในพิธีครั้งนี้ นายประจญ ปรัชญ์สกุล ผู้ว่าราชการ จ.เชียงราย และนายณรงค์ศักดิ์ โอสถธนากร ผู้ว่าราชการ จ.พะเยา ในฐานะอดีตผู้บัญชาการศูนย์อำนวยการร่วมค้นหาผู้สูญหายในวนอุทยานฯ นำส่วนราชการ กลุ่มพลังมวลชนร่วมประกอบพิธี โดยเริ่มตั้งแต่เวลา 09.09 น.มีพิธีขึ้นท้าวทั้งสี่ ประธานในพิธีจุดเทียนสักการะและประกอบพิธีตามขั้นตอน และในเวลา 09.39 น.ทำการบวงสรวง ประธานในพิธีจุดธูปเทียนบูชาเครื่องบวงสรวง เจ้าหน้าที่กล่าวโองการและประธานในพิธีพร้อมด้วยผู้ร่วมพิธีร่วมปักธูป จากนั้นในเวลา 10.09 น.มีพิธีเจริญพระพุทธมนต์และสวดมาติกาบังสุกุล โดยประธานจุดธูปเทียนบูชาพระรัตนตรัย อาราธนาศีล
จากนั้นประธานในพิธีทอดผ้าบังสุกุลเพื่ออุทิศส่วนบุญส่วนกุศลแก่นาวาตรี สมาน กุนัน หรือจ่าแซม นักทำลายใต้น้ำจู่โจมนอกราชการ กองทัพเรือ ที่เสียชีวิตจากปฏิบัติการช่วยเหลือเมื่อวันที่ 5 ก.ค. ก่อนที่พระสงฆ์จะพิจารณาผ้าบังสุกุล และชักผ้าบังสุกุล เมื่อเสร็จพิธีแล้วมีการถวายภัตตาหารจตุปัจจัยไทยธรรม พระสงฆ์อนุโมทนาและประธานกรวดน้ำรับพรเป็นอันเสร็จพิธีในช่วงเช้า
สำหรับช่วงบ่ายวันเดียวกันเวลา 15.00 น.มีพิธีสวดถอน และพิธีปิดถ้ำ ซึ่งพิธีสวดถอนจัดขึ้นตามความเชื่อของคนไทยภาคเหนือในการฟื้นคืนความเป็นสิริมงคลกลับมาหลังจากเกิดเรื่องไม่ดีขึ้น ณ สถานที่ใดสถานที่หนึ่งไปแล้ว โดยคาดหมายกันว่าครูบาบุญชุ่มจะมาร่วมพิธีดังกล่าวด้วย
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ส่วนที่บริเวณหน้าถ้ำพบว่าได้มีกลุ่มชาวบ้านจำนวนมากเดินทางมาจากท้องถิ่นต่างๆ ทั้งฝั่งไทยและพม่านำดอกไม้ธูปเทียน บางกลุ่มนำขนมและผลไม้ไปวางถวายบริเวณทางเข้าถ้ำเพื่อบูชาสิ่งศักดิ์สิทธิ์โดยเฉพาะเจ้าแม่ดอยนางนอน
ขณะที่เจ้าหน้าที่กรมวนอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช ยังคงวางกำลังเอาไว้ด้านหน้าทางเข้าถ้ำโดยไม่อนุญาติให้บุคคลภายนอกเข้าไปภายใน เนื่องจากได้มีการประกาศปิดถ้ำอย่างไม่มีกำหนดและรอการพัฒนาในอนาคตต่อไป
ด้านนางเจ หอม ตัวแทนกลุ่มแม่บ้านท่าขี้เหล็ก “ตา หวา จู” ได้นำมวลชนกลุ่มแม่บ้านใน จ.ท่าขี้เหล็ก ประมาณ 30 คน นำขนมและผลไม้ไปวางถวายไว้หน้าถ้ำ โดยระบุว่าหลังจากเกิดเหตุราววันที่ 24 มิ.ย.พวกตนซึ่งต่างมีบุตรในวัยเดียวกับที่ติดอยู่ในถ้ำด้วยกันทั้งนั้นต่างรู้สึกเป็นห่วงเด็กๆ ทั้งหมดอย่างมาก จึงได้เดินทางไปอธิษฐานจิตที่หน้าถ้ำขอให้พบเจอเด็กๆ ทั้งหมดโดยเร็ว หากพบก็จะนำขนมและผลไม้ไปวางถวายเพื่อแก้บนดังกล่าว
นางเจ หอม กล่าวว่า พวกเรารู้สึกดีใจอย่างมากที่เจ้าหน้าที่สามารถพบตัวทั้ง 13 คน เพราะหลังจากฟังข่าวก็รู้สึกเหมือนเป็นลูกหลานและสงสารอย่างมาก เมื่อช่วยออกมาได้พวกตนก็จึงนำสิ่งของมาบวงสรวง เชื่อว่าเจ้าแม่ดอยนางนอนได้ช่วยเหลือเอาไว้จริงดังกล่าว