เชียงราย - พ่อ-แม่ รวมถึงย่า และญาติๆ เตรียมสืบชะตาหลวงให้ “น้องดอม-กัปตันทีมหมูป่า” บอกถ้าอยากบวชก็ให้บวชแทนคุณคนทั่วโลกที่มาช่วย โดยเฉพาะ “จ่าแซม” พร้อมเผยวินาที 13 หมูป่าหนีน้ำติดเนินนมสาว ไม่มีทั้งข้าว-ขนม กินแต่น้ำหยดหินย้อย
วันนี้ (12 ก.ค.) นายบรรพต ก้อนคำ อายุ 45 ปี และครอบครัว ได้นำสินค้าชายแดนสารพัดออกมาวางจำหน่ายที่ร้านค้าภายในตลาดสายลมจอย เลขที่ 776/1 หมู่ 1 ต.เวียงพางคำ ชายแดนไทย-พม่า อ.แม่สาย จ.เชียงราย ด้วยสีหน้าที่สดใส หลังจากลูกชาย คือ ด.ช.ดวงเทพ หรือดอม พรมเทพ อายุ 13 ปี นักเรียนโรงเรียนแม่สายประสิทธิ์ศาสตร์ กัปตันทีมหมูป่า อะคาเดมี แม่สาย และเพื่อนๆ ในทีมพร้อมโค้ชเอก รวม 13 คนที่ติดอยู่ในถ้ำหลวง วนอุทยานถ้ำหลวง-ขุนน้ำนางนอน ต.โป่งผา อ.แม่สาย ตั้งแต่วันที่ 23 มิ.ย.แล้วได้รับการช่วยเหลือออกจากถ้ำไปพักรักษาตัวที่โรงพยาบาลครบทั้งหมดเมื่อวันที่ 10 ก.ค.ที่ผ่านมา
นายบรรพตกล่าวว่า หลังจากแพทย์อนุญาตให้ญาติเข้าเยี่ยมดูอาการของเด็กๆ ที่ชั้น 8 อาคารอุบัติเหตุฉุกเฉิน 14 ชั้น โรงพยาบาลเชียงรายประชานุเคราะห์ ทางนางธนพร พรมมา ภรรยาของตนก็ได้เข้าไปเยี่ยมดูอาการของน้องดอมแล้ว ภรรยาตนได้มีโอกาสพูดคุยกับลูกในช่วงสั้นๆ ก็ได้รับทราบเหตุการณ์ว่าในวันเกิดเหตุ (23 มิ.ย.) ทั้ง 13 คนได้เข้าไปในถ้ำ โดยตั้งใจว่าจะเข้าไปสัก 1 ชั่วโมงก็จะกลับออกมา จึงไม่ได้เตรียมอาหาร หรือขนมไปด้วยตามที่ปรากฏเป็นข่าว และเมื่อไปถึงบริเวณสามแยก ห่างจากปากถ้ำประมาณ 3 กิโลเมตรแล้ว ปรากฏว่าได้มีน้ำหลากมาอย่างแรงและจำนวนมาก ทำให้ต้องทิ้งกระเป๋ากับรองเท้าเอาไว้ที่ปากโพรงถ้ำเพื่อหนีน้ำ ทำให้เป็นหลักฐานที่ทำให้ผู้ติดตามได้พบเห็นและติดตามไปถูกในเวลาต่อมา
นายบรรพตกล่าวอีกว่า เมื่อหนีน้ำไปในโพรงตรงสามแยกก็มีเนินทรายที่ปิดกั้นด้านหน้า จึงพากันใช้มือตะกุยทรายเพื่อเปิดทางจนเกิดร่องรอยการตะกุยให้ผู้ติดตามได้พบเห็นเพิ่มเติม ก่อนจะพากันหนีลึกเข้าไปจนถึงเนินนมสาวแล้วรอการช่วยเหลือดังกล่าว
ทั้งนี้ ตลอดระยะเวลาร่วม 10 วัน ก่อนที่ทีมนักประดาน้ำทั้งไทยและต่างประเทศจะเข้าไปค้นหาจนพบ น้องดอมบอกว่า ไม่ได้มีอาหารรับประทานเลย เพราะหนีน้ำเข้าไปได้แต่ตัวกับไฟฉาย แม้แต่กระเป๋าที่นำไปด้วย ก็ต้องทิ้งเอาไว้ที่ปากโพรงถ้ำ ทำให้ทุกคนต้องอาศัยน้ำหยดในถ้ำประทังชีวิต โดยนายเอกพล จันทะวงษ์ หรือโค้ชเอก คอยช่วยเหลือให้ทุกคนอยู่รวมตัวกัน และหากใครหิวก็ให้เปิดไฟฉายแล้วไปกินน้ำที่หยดลงมาจากหินงอกหินย้อยที่อยู่บริเวณใกล้เคียงแทน
ด้านนางคำเอ้ย พรมเทพ อายุ 64 ปี ย่าของน้องดอม กล่าวว่า แม่ของน้องดอมมาเล่าให้ฟังว่าพื้นที่ที่เด็กๆ ไปอยู่เป็นเนินสูงที่คอยหลบหนีน้ำ และน้ำจะขึ้นๆ ลงๆ เมื่อน้ำลงเด็กๆ ก็จะพากันมาอยู่ริมน้ำ พอน้ำขึ้นก็จะพากันหนีขึ้นไปอยู่บนเนินอีกเพราะบนเนินสูงพื้นไม่เรียบ จึงทำให้ทั้งหมดพากันใช้มือตะกุยให้พื้นเรียบสำหรับให้สามารถอาศัยหลับนอนอยู่ได้ในที่สุด กระทั่งเมื่อมีนักประดาน้ำชาวต่างประเทศไปพบจึงพากันวิ่งลงมาแล้วตะโกนว่าหิว ตอนนั้นก็มีคนตกน้ำไป 2 คนด้วย
“น้องดอมชอบกีฬา เขาจะมีจักรยานภูเขา 1 คัน และจักรยานทางเรียบ 1 คัน รวมทั้งชอบเล่นฟุตบอล เดาะบอลมาตั้งแต่อนุบาล ช่วงที่หลานหายไปในถ้ำก็ตกใจเป็นลมล้มพับไปหลายรอบ เพราะเราเลี้ยงเขามาตั้งแต่แรกเกิด แต่ก็เชื่อว่าโค้ชเอกจะดูแลเขาได้ และหน่วยซีลที่ตามหาได้ ดังนั้น ถ้าหลานออกจากโรงพยาบาลแล้วอยากบวชก็ให้ไปบวช เพราะบุญคุณที่คนทั้งประเทศและทั่วโลก โดยเฉพาะจ่าแซม มาช่วยเรา ขอให้น้องเป็นคนดีเหมือนเดิม”
นางคำเอ้ยกล่าวอีกว่า แต่อันดับแรกที่ย่าจะให้ทำก่อน คือ ไปประกอบพิธีสืบชะตาที่วัดถ้ำผาจม หรือเกาะทราย ที่ตั้งอยู่ใกล้กับบ้านของพวกเราก่อน ส่วนตัวก็จะพร่ำสอนให้เป็นคนดี และไม่ให้คิดมาก เพราะกลัวว่าหลานจะไขว้เขวคิดมากที่ต้องมาประสบเหตุและทำให้คนอื่นเดือดร้อนด้วย