xs
xsm
sm
md
lg

ค้านหัวชนฝา! ชาวกันทรลักษ์ลั่นต้านสร้าง “เขื่อนห้วยขะยุง” โอดจมสวนไร่นาเท่ากับฆ่าชาวบ้าน

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: MGR Online


ศรีสะเกษ - ค้านหัวชนฝา ชาวกันทรลักษ์ลั่นต้านสร้าง “เขื่อนห้วยขะยุง” ชายแดนไทย-กัมพูชา เผยกระทบหนักจมที่ดินเรือกสวนไร่นาที่ทำมาหากินมานานหลายชั่วอายุคน ต้องสูญสิ้นทุกอย่างเท่ากับฆ่าชาวบ้านทั้งเป็น ซ้ำกระทบป่าอนุรักษ์และสัตว์ป่าหายากอื้อ จี้เลิกถาวร

วันนี้ (11 ก.ค.) นายชัด เทียนคูณ ผู้ใหญ่บ้านก่อ ต.ละลาย อ.กันทรลักษ์ จ.ศรีสะเกษ เปิดเผยว่า เมื่อเร็วๆ นี้ ตนพร้อมกลุ่มชาวบ้านที่จะได้รับผลกระทบจากโครงการก่อสร้างเขื่อนห้วยขะยุง ที่บริเวณห้วยขะยุง ต.ละลาย อ.กันทรลักษ์ จ.ศรีสะเกษ ชายแดนไทย-กัมพูชา ได้เข้าร่วมประชุมปัจฉิมนิเทศโครงการวิเคราะห์ผลกระทบสิ่งแวดล้อม (EIA) อ่างเก็บน้ำห้วยขะยุง จ.ศรีสะเกษ ซึ่งจะก่อสร้างอยู่ในพื้นที่เขตป่าสงวนแห่งชาติป่าเขาพระวิหาร และเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าพนมดงรัก มีพื้นที่ป่าเพื่อการอนุรักษ์รวม 1,730 ไร่ ครอบคลุมพื้นที่ 9 ตำบลของ อ.กันทรลักษ์ จ.ศรีสะเกษ


จากการประชุมปัจฉิมนิเทศโครงการดังกล่าว พบว่าการก่อสร้างโครงการนี้จะส่งผลกระทบสร้างความเดือดร้อนให้ชาวบ้านที่ทำมาหากินอยู่บริเวณพื้นที่ก่อสร้างเขื่อนเป็นจำนวนมาก เนื่องจากชาวบ้านผู้ยากไร้ได้ทำมาหากินอยู่บริเวณดังกล่าวมานานหลายชั่วอายุคนแล้ว โดยได้อาศัยที่ดินที่ไม่มีเอกสารสิทธิทำสวน ไร่ นา และปลูกยางพารา เลี้ยงตัวเองและครอบครัว พอมีรายได้ส่งลูกเรียนหนังสือและใช้จ่ายในครอบครัว แต่เมื่อทางราชการจะมาสร้างเขื่อนห้วยขะยุงจะทำให้ที่ดินทำกินของชาวบ้านเหล่านี้ถูกน้ำท่วมทั้งหมด ส่งผลให้ต้องสิ้นเนื้อประดาตัว ซึ่งชาวบ้านยากจนอยู่แล้วก็ยิ่งลำบากยากจนมากยิ่งขึ้น

นายชัดกล่าวต่อว่า พวกเราจึงขอคัดค้านโครงการก่อสร้างเขื่อนห้วยขะยุง เพราะแม้ไม่มีเขื่อนชาวบ้านก็ทำมาหากินทำการเกษตรได้อยู่แล้ว ทางราชการอย่ามาทำบาปทำกรรมกับชาวบ้านเลย เพราะมาสร้างเขื่อนไว้เสร็จแล้วก็หายไป แต่ชาวบ้านที่ถูกน้ำท่วมไร่นาคือผู้รับกรรมที่ตัวเองไม่ได้เป็นคนก่อ การบอกให้ชาวบ้านเสียสละไร่นาเพื่อสร้างเขื่อนเหมือนกับบอกให้ชาวบ้านสละชีวิตทั้งเป็นเพื่อการสร้างเขื่อน

ดังนั้นพวกเราจึงขอเรียกร้องให้ทางราชการจ่ายเงินค่าชดเชยที่ดินทำกินให้ชาวบ้านอย่างน้อยไร่ละ 200,000 บาท เพื่อให้ชาวบ้านไปหาซื้อที่ดินทำกินแห่งใหม่ หากไม่สามารถจ่ายเงินชดเชยให้ชาวบ้านได้ควรยกเลิกการสร้างเขื่อนห้วยขะยุงตลอดไป และไม่ควรทำให้ชาวบ้านเดือดร้อนจากการก่อสร้างเขื่อนนี้


นายทองดี หาวัน นายก อบต.ละลาย อ.กันทรลักษ์ กล่าวว่า การก่อสร้างเขื่อนห้วยขะยุงแม้จะมีประโยชน์แต่ผลกระทบก็มีมาก โดยเฉพาะอย่างยิ่งกับชาวบ้านซึ่งส่วนมากมีฐานะยากจน หากสร้างเขื่อนแล้วชาวบ้านที่ยากไร้เหล่านี้จะไปทำมาหากินเลี้ยงตัวเองและครอบครัวอยู่ที่ไหน อีกอย่างคือผลกระทบต่อต้นไม้หวงห้ามและสัตว์ป่าหายากที่ยังมีอยู่เป็นจำนวนมากในเขตก่อสร้าง ขอให้ส่วนราชการที่จะก่อสร้างได้มีการศึกษาหาข้อมูลให้ดี เพราะธรรมชาติที่งดงามต้องสูญสิ้นไปจากการก่อสร้างเขื่อน ซึ่งส่วนราชการที่ดูแลเรื่องป่าไม้และสัตว์ป่าต้องกล้าที่จะเอาความจริงมาพูดให้กระจ่างว่ามีผลกระทบมากเพียงใดจากการสร้างเขื่อน ตนเห็นว่าหากปล่อยให้ต้นไม้ สัตว์ป่า และชาวบ้าน ทำมาหากินอยู่กันตามธรรมชาติเช่นเดิมจะดีกว่าการสร้างเขื่อนหรือไม่

นางลำพอง เทียนเพชร อายุ 45 ปี อยู่บ้านเลขที่ 70 หมู่ 7 บ้านก่อ ต.ละลาย อ.กันทรลักษ์ จ.ศรีสะเกษ กล่าวว่า ตนทำสวนยางพาราในเนื้อที่ 26 ไร่ พอได้กรีดยางขายเลี้ยงตัวเองและครอบครัว รวมทั้งส่งลูกหลานเรียนหนังสือได้เป็นคนดีมีคุณภาพของประเทศชาติ แต่เมื่อทางราชการจะมาสร้างเขื่อนห้วยขะยุงจะทำให้ครอบครัวของตนสูญสิ้นทุกอย่าง ไม่รู้ว่าจะทำอะไรกิน และลูกคงไม่ได้เรียนหนังสือเพราะตนไม่มีเงินส่งเสีย

“อยากฝากกราบขอความเมตตาไปถึง พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ขวัญใจประชาชนผู้ยากไร้ทั่วประเทศ ขอได้โปรดยุติการก่อสร้างเขื่อนห้วยขะยุง เพราะเขียนโครงการเพื่อก่อสร้างเขื่อนอย่างสวยงาม แต่คนที่ได้รับผลกระทบอย่างมากคือชาวบ้านผู้ยากไร้ที่อยู่ในบริเวณก่อสร้างเขื่อน” นางลำพองกล่าว

ทางด้าน นายวงศ์พันธ์ วงศ์สมุทร ผู้อำนวยการสำนักงานก่อสร้าง ชลประทานขนาดใหญ่ที่ 8 กล่าวว่า การที่ชาวบ้านเรียกร้องให้จ่ายเงินค่าชดเชยที่ดินทำกินไร่ละ 200,000 บาทนั้นเป็นสิทธิที่เรียกร้องได้ แต่ในการจ่ายเงินชดเชยนั้นจะมีคณะกรรมการพิจารณาว่าต้องจ่ายเงินชดเชยได้เท่าไร ซึ่งจะต้องจ่ายเงินชดเชยตามระเบียบของทางราชการ และมีการจ่ายเงินชดเชยค่าต้นยางพารา รวมทั้งพืชไร่ต่างๆ ของชาวบ้านด้วย โดยจะมีการพิจารณาเรื่องนี้อย่างละเอียดรอบคอบเพื่อให้ชาวบ้านที่อยู่ในเขตการก่อสร้างเขื่อนได้รับความพึงพอใจและได้รับผลกระทบให้น้อยที่สุด จะได้เป็นการเยียวยาให้การช่วยเหลือชาวบ้านอย่างเต็มที่ต่อไป




กำลังโหลดความคิดเห็น