ราชบุรี - ปฏิบัติการจับหมูป่ารอบวัดท่าโขลง ราชบุรี สร้างความเดือดร้อนให้คนในชุมชน เพื่อส่งกลับบ้านคืนสู่ป่าธรรมชาติ หลังจากมีผู้นำมาทิ้งอาศัยอยู่ตามป่าละเมาะ กำแพงอุโบสถในวัด จนออกลูกออกหลานจำนวนมาก ใช้เวลา 40 นาที จับได้ 24 ตัว ยังคงเหลืออีกกว่า 100 ตัว
วันนี้ (11 ก.ค.) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เจ้าหน้าที่เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าแม่น้ำภาชี เจ้าหน้าที่เขตห้ามล่าสัตว์ป่าเขาประทับช้าง สังกัดสำนักบริหารพื้นที่อนุรักษ์ที่ 3 (บ้านโป่ง) ราชบุรี กรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช เจ้าหน้าที่ปศุสัตว์อำเภอเมือง และเจ้าหน้าที่เทศบาลตำบลหลุมดิน สนธิกำลังออกปฏิบัติการนำอุปกรณ์กรงจับสัตว์ เข้ามาดำเนินการจับหมูป่าที่อาศัยอยู่บริเวณป่าละเมาะ และโดยรอบของกำแพงภายในอุโบสถวัดท่าโขลง หมู่ที่ 2 ต.หลุมดิน อ.เมือง จ.ราชบุรี
ส่งผลกระทบต่อชุมชนได้รับความเดือดร้อนด้านสิ่งแวดล้อม ขุดคุ้ย รื้อถังขยะ ทั้งถ่ายมูลส่งกลิ่นเหม็น สร้างความสกปรก อีกทั้งชาวบ้านเกรงว่าหมูป่าจะทำอันตรายลูกหลานที่ออกมาวิ่งเล่น ทางเทศบาลตำบลหลุมดิน จึงประสานปศุสัตว์จังหวัด และเจ้าหน้าที่จากสำนักบริหารพื้นที่อนุรักษ์ที่ 3 (บ้านโป่ง) เข้ามาช่วยเหลือแก้ไขปัญหานำหมูป่ากลับคืนบ้าน หรือมอบให้ประชาชนที่สนใจจะนำไปเลี้ยงดูแลต่อไป
โดยวันนี้ชุดปฏิบัติการได้ไล่ต้อนฝูงหมูป่าที่เข้ามาหลบอาศัยอยู่ภายในอุโบสถวัดท่าโขลง จำนวน 24 ตัวก่อน ส่วนที่อยู่ตามป่าละเมาะที่มีอีกจำนวนมากนั้นจะดำเนินอีกครั้งในระยะต่อไป ทั้งนี้ มีการนำอาหาร และน้ำมาวางดักล่อฝูงหมูป่าไว้ หมูป่ามีทั้งตัวขนาดเล็ก ใหญ่ ตั้งแต่ 30กิโลกรัม ไปจนถึง 100 กิโลกรัม
ในจำนวนนี้มีทั้งตัวที่กำลังท้องแก่เกิดอาการหิวก็จะเดินเข้ามาภายในกำแพงวัด จากนั้นเจ้าหน้าที่รีบปิดประตูทางเข้าออก และนำกรงตาข่ายเหล็กมาขวางกั้น และใช้กรงดักสัตว์ต่อกันเป็นแถวยาวบริเวณปากประตูทางเข้า แล้วใช้แผ่นเหล็กกั้นให้เป็นพื้นที่แคบลง
จากนั้นเจ้าหน้าที่หลายคนช่วยกันเป่านกหวีดแล้วเดินต้อนฝูงหมูป่าเข้ามาใกล้ๆ ปากประตูซึ่งมีกรงเปิดดักไว้ แต่เจ้าหมูป่าแสนฉลาด พอเห็นคนจำนวนมากมามุงดูก็พากันวิ่งหนี ส่งเสียงดังปี๊ดๆๆ ไม่ยอมเข้าใกล้ประตู เจ้าหน้าที่จึงไล่ต้อนพร้อมใช้แผงเหล็กบีบเข้ามาอยู่ในวงแคบ และต้อนเข้ากรงละ 2-3 ตัว ใช้เวลาประมาณ 40 นาที สามารถต้อนหมูป่าเข้ากรงได้สำเร็จ
ทั้งนี้ เจ้าหน้าที่จะนำหมูป่าชุดแรกนี้ไปเลี้ยงชั่วคราวที่โครงการฟาร์มตัวอย่างตามพระราชดำริบ้านบ่อ ส่วนชุดต่อไปทางเจ้าหน้าที่ได้วางแผนให้ชาวบ้านนำอาหารมาวางเพื่อดักล่อบริเวณกำแพงอุโบสถวัด และบริเวณป่าละเมาะ ซึ่งใช้วิธีล่ออาหารเป็นวิธีที่ดีที่สุด เนื่องจากจะใช้เวลาปฏิบัติการจับที่เร็ว เพราะมีรั้วกำแพงวัดกั้น หมูป่าไม่สามารถวิ่งออกไปด้านนอกได้ ซึ่งหากเป็นวิธีอื่นจะใช้เวลานานในการออกติดตามค้นหา โดยหมูป่าจะมีลักษณะปราดเปรียว วิ่งเร็ว สามารถวิ่งชนคนจนล้มได้เมื่อถึงเวลาต่อสู้ทำร้ายอาจจะได้รับอันตรายได้หากไม่มีความชำนาญในการจับ
อย่างไรก็ตาม สำหรับปฏิบัติการจับหมูป่าที่ยังคงเหลืออีกเกือบ100 ตัว ทางเทศบาลตำบลหลุมดิน จะได้กำหนดจุดวางดักกรงล่อไว้เป็นจุดๆ เมื่อได้หมูป่ามาแล้วก็จะนำมาพักเลี้ยงดูแลไว้ชั่วคราว และประกาศประชาสัมพันธ์ผ่านสื่อ หากประชาชนท่านใดสนใจอยากเลี้ยงเป็นบุญทาน ไม่เอาไปฆ่า สามารถติดต่อลงทะเบียน และขอรับหมูป่าได้ที่เทศบาลหลุมดิน เบอร์ติดต่อโทร.0-3274-1756-7