ศูนย์ข่าวขอนแก่น - ศูนย์รับเรื่องราวร้องทุกข์ กู้ยืมเงิน ตำรวจภาค 4 ส่งคืนโฉนดที่ดินให้ชาวบ้านที่ถูกนายทุนทำสัญญาไม่เป็นธรรม เผยคืนให้ชาวบ้านล็อตแรกกว่า 20 ราย ขณะที่ ปปง.เตรียมยึดทรัพย์นายทุนเงินกู้ดอกเบี้ยโหด ทั้งเอาผิดคดีฟอกเงิน
วันนี้ (5 ก.ค. 61) ที่กองบัญชาการตำรวจภูธรภาค 4 พล.ต.ท.สุรชัย ควรเตชะคุปต์ ผู้บัญชาการ ตำรวจภูธรภาค 4 พร้อมด้วย พล.ต.ต.สุรเชษฐ์ หักพาล รองผู้บัญชาการตำรวจท่องเที่ยว นายสมศักดิ์ จังตระกุล ผู้ว่าราชการจังหวัดขอนแก่น และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ร่วมกันส่งมอบเอกสารโฉนดที่ดินคืนให้แก่ชาวบ้านที่นำไปจำนองกับนายทุนเงินกู้โดยทำสัญญาที่ไม่เป็นธรรม ล็อตแรกจำนวน 20 ราย มีทั้งชาวบ้านใน จ.ขอนแก่น และ จ.กาฬสินธุ์ เดินทางมารับมอบโฉนดคืน ซึ่งเป็นผลสืบเนื่องมาจากการเปิดยุทธการขุดรากถอนโคนอาชญากรรม ทำบ้านเมืองน่าอยู่ โดยจับกุมผู้ต้องหาตามหมายจับ 4 ราย เมื่อวันที่ 27 มิ.ย. 61 ที่ผ่านมา
นางบัวบาน ข่วงสิมมา อายุ 65 ปี ชาวบ้านดอนช้าง หมู่ที่ 1 ต.ดอนช้าง อ.เมืองขอนแก่น หนึ่งในชาวบ้านที่เดินทางมารับโฉนดที่ดินคืน กล่าวว่า เมื่อประมาณ 5 ปีที่แล้ว ตนนำโฉนดที่ดินไปค้ำประกัน ขอกู้ยืมเงินจากนายทุนในพื้นที่ขอนแก่น นำเงินมาเป็นค่าเทอมให้หลาน โดยขอกู้เงินไป 15,000 บาท ซึ่งครั้งนั้นตนได้เงินมาครบตามจำนวนที่ขอกู้
กระทั่งเมื่อ 2 ปีให้หลัง ตนได้นำเงินจำนวน 30,000 บาท ไปไถ่ถอนโฉนดคืน ปรากฏว่านายทุนรายนี้กลับไม่ยอมรับเงิน และบ่ายเบี่ยงที่จะคืนโฉนดที่ดินที่นำไปค้ำประกันคืนให้ จนกระทั่งเจ้าหน้าที่ได้เข้ามาดำเนินการ ตนจึงได้โฉนดที่ดินกลับคืนมาวันนี้ ตนรู้สึกดีใจและคิดว่าจะไม่นำโฉนดที่ดินกลับไปจำนองหรือค้ำประกันเกี่ยวกับเรื่องนี้อีกแล้ว
ด้านนายพีระพัฒน์ อิงพงษ์พันธ์ ผู้อำนวยการกองคดี 1 รองโฆษกประจำสำนักงานป้องกัน และปราบปรามการฟอกเงิน หรือ ปปง. กล่าวว่า จากการตรวจสอบเบื้องต้นพบว่ามีการกระทำความผิดเกี่ยวกับการฉ้อโกงอันเป็นปกติธุระ และการปลอมเอกสารสิทธิอันเป็นปกติธุระ โดยหลังจากนี้การดำเนินการจะแยกออกเป็น 3 ส่วน ส่วนแรกคือดำเนินคดีอาญาจะอยู่ในส่วนของเจ้าหน้าที่ตำรวจ ส่วนที่ 2 คือ การคืนโฉนดที่ดินให้แก่ชาวบ้านจะอยู่ในการดูแลของศูนย์ดำรงธรรมจังหวัดขอนแก่น และสำนักงานยุติธรรมจังหวัดขอนแก่น
ส่วนที่ 3 หลังจากที่ดำเนินคดีอาญาแล้วจะดำเนินการเกี่ยวกับมาตรการทางทรัพย์สินซึ่งอยู่ในความดูแลของ ปปง. โดยจะตรวจสอบว่าทรัพย์สินมีอะไรบ้าง อยู่ที่ไหนหรือกับใคร จะตรวจยึดทั้งหมด โดยอาศัยกฎหมายของ ปปง. และนอกจากการตรวจยึดทรัพย์แล้วจะดำเนินคดีเกี่ยวกับการฟอกเงินด้วย
พร้อมทั้งเตือนไปยังผู้ที่กำลังกระทำความผิดในลักษณะนี้ อย่าคิดว่าถ้าทำแล้วจะเหลือเงินหรือทรัพย์สินตกไปอยู่กับลูกหลาน เพราะ ปปง.จะตามยึดทรัพย์กลับคืนมาให้ตกเป็นของแผ่นดิน หากเป็นกรณีที่มีผู้เสียหายก็จะเฉลี่ยทรัพย์ดำเนินการคุ้มครองสิทธิ์ตามกฎหมาย ปปง. เพราะฉะนั้น อยากให้ผู้ที่กำลังกระทำความผิดได้กลับตัวกลับใจ อย่าให้มีพฤติกรรมเช่นนี้อีก ไม่เช่นนั้นจะถูกดำเนินคดี ส่วนประชาชนที่ถูกหลอกลวงหรือไม่ได้รับความเป็นธรรมให้แจ้งไปที่ตำรวจภูธรภาค 4 ขณะนี้มีการตั้งศูนย์รับเรื่องร้องเรียนไว้แล้ว โดยจะทำงานควบคู่ไปกับศูนย์ดำรงธรรมจังหวัดด้วย
