แพร่ - ชาวไร่ยาสูบจังหวัดแพร่ ชี้นโยบายรัฐทำธุรกิจยาสูบพัง หลังมีกระแสข่าวคลังสั่งงดรับซื้อผลผลิตจากเกษตรกร 100% แถมยังติดหนี้ออมสินตามโครงการพัฒนาโรงบ่ม คาดแรงงานนับ 100,000 ราย อาจถูกลอยแพ วอนรัฐต่อลมหายใจ
วันนี้ (28 มิ.ย.) เกษตรกรชาวไร่ยาสูบและผู้ประกอบการโรงบ่ม รวมทั้งแรงงาน ใน อ.ร้องกวาง อ.สอง อ.หนองม่วงไข่ และ อ.เมืองฯ ส่งตัวแทนจำนวน 100 คน นำโดยนายเอนก บุญทรัพย์ ผู้ใหญ่บ้านหมู่ 3 แม่ยางโพธิ์ อ.ร้องกวาง จ.แพร่ นางงามนิจ กันทาธรรม ผู้บ่มใบยาอิสระ สถานีบ่มใบยาแม่หล่าย อ.เมืองฯ จ.แพร่ ยื่นหนังสื่อต่อศูนย์ดำรงธรรมจังหวัดแพร่ ที่ศาลากลางจังหวัดแพร่ นายโชคดี อมรวัฒน์ รองผู้ว่าราชการจังหวัดแพร่ได้ออกมารับหนังสือและได้เชิญร่วมหารือที่ห้องประชุมเวียงโกศัย ชั้น 2 ศาลากลางจังหวัดแพร่
นายเอนก บุญทรัพย์ แกนนำกล่าวว่า ชาวไร่ยาสูบในจังหวัดแพร่มีสมาชิกอยู่กว่า 1,000 ครอบครัว รวมผู้บ่มและแรงงานจึงมีผู้อยู่ในแวดวงธุรกิจยาสูบ มากกว่า100,000 ราย โรงงานยาสูบพยายามตัดราคายาสูบให้ลดลงทุกปี โดยปีนี้เหลือเพียงกิโลกรัมละ 93 บาท เป็นราคาที่ต่ำกว่าปีก่อนๆ ส่วนยาสูบที่คุณภาพรองลงมา อยู่ในราคา 65 บาทต่อกิโลกรัม ถือว่าเป็นอัตราต่ำสุดในฤดูกาลเพาะปลูกปีนี้ ถึงแม้ราคาจะถูกลง แต่ชาวไร่ยาสูบและกระบวนการค้ายาสูบในจังหวัดแพร่ก็ยังดำเนินไปได้ มีเงินหมุนเวียนอยู่ในระบบผ่านธนาคารออมสินปีละไม่ต่ำกว่า 102 ล้านบาท
การทำธุรกิจใบยาของชาวแพร่ ได้รับการส่งเสริมให้ใช้เตาบ่มใบยาประหยัดพลังงาน ซึ่งชาวไร่ยาสูบและผู้ประกอบการต้องลงทุนเอง ภายใต้เงินกู้จากธนาคารออมสินเตาละ 600,000 บาท มีสัญญาการใช้หนี้คืนภายใน 5 ปี ผู้ประกอบการ มีการลงทุนตั้งแต่ 1 เตาจนถึง 5-6 เตา แต่ขณะนี้ยังใช้หนี้ไม่หมด กระทรวงการคลังสั่งให้โรงงานยาสูบงดรับซื้อผลผลิตโดยสิ้นเชิงในฤดูกาลหน้าทำให้เกิดผลกระทบรุนแรงต่อผู้ประกอบการ และกระบวนการผลิตใบยาสูบในจังหวัดแพร่ทั้งหมด นั่นหมายถึงการตัดอนาคตของเกษตรกร โดยเฉพาะในช่วงนี้เกษตรกรจะหันไปพึ่งพาพืชชนิดอื่นก็คงไม่ได้เนื่องจากพืชชนิดอื่นราคาตกต่ำแทบทั้งสิ้น ยาสูบถือเป็นธุรกิจของเกษตรกรที่ทำเงินได้ดีที่สุดในจังหวัดแพร่ แต่ถ้างดรับซื้อ ปัญหาอื่นๆ จะตามมาอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้
นางงามนิจ กันทาธรรม ผู้บ่มใบยาอิสระ สถานีบ่มใบยาแม่หล่าย อ.เมืองฯ จ.แพร่ กล่าวว่า อยากให้ทางราชการเห็นใจเกษตรกร จัดงบประมาณให้แก่โรงงานยาสูบรับซื้อใบยาสูบของเกษตรกรต่อไปเพื่อให้ลดความเดือดร้อนของประชาชนในภาคเหนือ อย่างไรก็ตาม เกษตรกรทราบดีว่าธุรกิจยาสูบในประเทศไทยมีการแทรกแซงจากยาสูบต่างประเทศจนทำให้บุหรี่ไทยไม่สามารถแข่งขันกับบุหรี่นอกได้ในขณะนี้ แต่อยากให้ทางราชการช่วยเกษตรกรพยุงราคาและนำไปสู่การแก้ไขเศรษฐกิจเรื่องของยาสูบในอนาคตต่อไปซึ่งทางเกษตรกรพร้อมในการปฏิบัติเพื่อนำไปสู่การแก้ไขปัญหาโดยรวม
อนึ่ง ปัญหาธุรกิจยาสูบเกิดจากการตัดสินใจของกระทรวงการคลังในการขึ้นภาษียาสูบ ทำให้ธุรกิจใบยาสูบได้รับผลกระทบ จนถึงงดรับซื้อ 100% ปัญหานี้หากทางราชการยังไม่ออกมาคลี่คลายเกษตรกรในภาคเหนือที่ผลิตใบยาสูบทั้งเวอร์จิเนียและสายพันธุ์อื่นๆ จะส่งผลกระทบรุนแรงต่อเศรษฐกิจในครัวเรือนอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้