เชียงราย - กองทัพเรือส่งเจ้าหน้าที่หน่วยซีลบินด่วนถึงแม่สาย เริ่มปฏิบัติการลุยถ้ำหลวง-ขุนน้ำนางนอนตั้งแต่เช้า แบ่งกำลัง 4 ชุด ชุดละ 4 นาย มุดช่องโขดหินน้ำลึก 5 เมตรค้นหา 13 ชีวิตนักเตะเยาวชน-โค้ชทีมหมูป่า
ความคืบหน้าการค้นหานักเตะเยาวชนทีม "หมูป่า" อายุตั้งแต่ 11-16 ปี พร้อมผู้ฝึกสอนหรือโค้ชอายุ 25 ปี จาก ต.โป่งผา อ.แม่สาย จ.เชียงราย รวม 13 ชีวิต พลัดหลงอยู่ภายในถ้ำหลวง เขตวนอุทยานถ้ำหลวง-ขุนน้ำนางนอน บ้านจ้องวัด หมู่ 9 ต.โป่งผา อ.แม่สาย ตั้งแต่เย็นวันที่ 23 มิ.ย.ที่ผ่านมา
หลังเกิดเหตุหลายหน่วยงาน โดยเฉพาะหน่วยกู้ภัยส่งทีมเข้าไปติดตามช่วยเหลืออย่างต่อเนื่องทั้งวันทั้งคืนแต่ยังไม่พบ ขณะที่นายณรงค์ศักดิ์ โอสถธนากร ผู้ว่าราชการ จ.เชียงราย สั่งการให้ตั้งกองอำนวยการบริเวณปากถ้ำ เพื่อแบ่งทีมเข้าค้นหาอย่างต่อเนื่อง รวมทั้งขอความร่วมมือไปยังหน่วยงานต่างๆ ที่มีศักยภาพให้ร่วมสนับสนุนการค้นหานั้น
ล่าสุด พลเรือตรี อาภากร อยู่คงแก้ว ผบ.นสร.ได้สั่งการให้หน่วยบัญชาการสงครามพิเศษทางเรือ (นสร.) กองทัพเรือ หรือหน่วยซีล จัดกำลังพลจากกรมรบพิเศษที่ 1 ทหารเรือ และอุปกรณ์ช่วยเหลือเต็มพิกัดเข้าสนับสนุนช่วยเหลือการค้นหา โดยเริ่มปฏิบัติการตั้งแต่เวลา 06.00 น.วันนี้ (25 มิ.ย.) เป็นต้นไป หลังจากได้สำรวจทางกายภาพภายนอก และสอบถามข้อมูลจากหน่วยงานที่ให้การช่วยเหลือมาก่อนหน้านี้แล้วตั้งแต่เที่ยงคืนเศษที่ผ่านมา
นาวาเอก อนันต์ สุราวรรณ ผบ.กรมรบพิศษที่ 1 ทหารเรือ ซึ่งนำกำลังพลไปที่ อ.แม่สาย เปิดเผยว่า ตามข้อมูลข่าวสารจากคนในพื้นที่ และคนที่เคยสำรวจทราบว่า ถ้ำหลวงเป็นแอ่งน้ำ มีช่องไม่กว้างมากนัก และมีสิ่งกีดขวาง แต่ถ้ำนี้มีช่องทางหลายเส้นไม่ใช่ถ้ำตัน แต่จะทำอย่างไรจึงจะสามารถหาช่องทางนี้ให้เจอ แนวทางปฏิบัติคือ ส่งส่วนล่วงหน้าไปสำรวจ และชุดทีมงานจะเข้าไปดำเนินการต่อไป เบื้องต้นมีการแบ่งชุดทำงานเป็น 4 ชุด เพื่อไม่ให้ตรากตรำมากนัก และทำงานครั้งละ 4 นาย
“ปัญหาเท่าที่ฟังคือ น้ำขุ่น เมื่อดำลงไปแล้วมองอะไรไม่เห็น ก็เหมือนกับเราหลับตาหาอะไรสักอย่างหนึ่ง ตรงนี้ก็เป็นอุปสรรคในเรื่องของกระแสน้ำและความขุ่น แต่เจ้าหน้าที่ก็จะปฏิบัติการให้ดีที่สุด” นาวาเอก อนันต์กล่าว
สำหรับถ้ำหลวง เป็นถ้ำเก่าแก่ที่เป็นแหล่งท่องเที่ยวแห่งหนึ่งของเชียงราย อยู่ในเขต ต.โป่งผา อ.แม่สาย ห่างจากถนนพหลโยธินประมาณ 1 กิโลเมตร ซึ่งไม่ห่างจากชายแดนไทย-พม่ามากนัก โดยบริเวณถ้ำหลวงมีถ้ำต่างๆ ตามธรรมชาติอีกหลายแห่งติดกัน
อย่างไรก็ตาม ถ้ำหลวงแตกต่างจากถ้ำอื่นๆ เนื่องจากมีลำธารที่ขนานออกมากับตัวถ้ำ โดยสามารถสังเกตได้ตั้งแต่ปากทางเข้าที่มีการทำทางเดิน และราวจับคู่กับลำธารที่ไหลออกมา ภายในมืดสนิท และมีโพรง หรือส่วนเว้าต่างๆ มากมาย รวมทั้งมีความลึกหลายกิโลเมตร จุดที่นักผจญภัยนิยมไปเที่ยวคือ ลานพระ ซึ่งเป็นส่วนเว้าด้านข้างที่อยู่ลึกเข้าไปประมาณ 1 กิโลเมตร
แต่จุดที่นักค้นหาสันนิษฐานว่ากลุ่มนักบอลเยาวชนทั้ง 13 คนติดอยู่คือส่วนเว้าที่อยู่ลึกเข้าไปประมาณ 3-4 กิโลเมตร ด้านหน้ามีน้ำท่วมปิดทางเข้าหมด ซึ่งผู้ที่เคยสำรวจระบุว่าฝั่งตรงกันข้ามกับทางเข้ามีเนินหินสูงพ้นน้ำ แต่อยู่ห่างออกไปประมาณ 15 เมตร และน้ำลึกกว่า 5 เมตร ต้องใช้การดำผ่านโขดหินและช่องทางคับแคบเข้าไป ทำให้ปฏิบัติการช่วยเหลือโดยทางจังหวัดที่ผ่านมาที่จัดทีมค้นหาและนักประดาน้ำจากหน่วยกู้ภัยต่างๆ รวม 8 ชุด ทยอยเข้าปฏิบัติการ แต่ไม่สามารถผ่านจุดน้ำท่วมลึกดังกล่าวเข้าไปได้เพราะออกซิเจนหมดเสียก่อน และพบกับอุปสรรคเรื่องความขุ่นของน้ำ และโขดหิน
เมื่อทางกองทัพเรือส่งกำลังหน่วยซีลเข้าช่วยเหลือทำให้ทุกฝ่ายต่างดีใจ และเริ่มเห็นความหวังที่จะข้ามจุดน้ำท่วมลึกที่เป็นอุปสรรคสำคัญจุดหนึ่งเข้าไปค้นหากลุ่มเยาวชนที่คาดว่าจะติดอยู่ภายในโพรงดังกล่าวได้ โดยบรรดาพ่อแม่ผู้ปกครอง ญาติ ตลอดจนหน่วยงานต่างๆ รวมถึงชาวบ้าน ต่างพากันไปรอให้กำลังใจ และผลค้นหาอย่างคับคั่ง