ศูนย์ข่าวศรีราชา - วิจารณ์สนั่นคลิปศึกชิงตัวเด็กในรถยนต์กระบะ ทั้งทุบกระจก กระโดดเกาะหน้ารถเสี่ยงตาย ท่ามกลางความขัดแย้งของผู้ใหญ่ 2 ฝ่าย เผยพ่อแม่แยกทางกัน ฝ่ายแม่ส่งพีชายตามชิงลูกคืนหลังฝ่ายปู่พาขึ้นรถจะพาไปเที่ยวด้วยความคิดถึง แพทย์ระบุผู้ใหญ่ไม่ควรใช้ความรุนแรงต่อกันในขณะที่ยังมีเด็กอยู่ใกล้ หวั่นติดเป็นภาพจำ
วิจารณ์สนั่น เหตุรุนแรงพ่อแม่วิวาทแย่งลูกกลางถนน หลังคลิปที่ถูกถ่ายจากโทรศัพท์มือถือของคนในรถกระบะยี่ห้ออีซูซุ สีน้ำเงิน หมายเลขทะเบียน บบ 509 ชลบุรี ที่ถ่ายให้เห็นภาพรถยนต์เก๋งยี่ห้อโตโยต้า สีเทาดำ ทะเบียน งท 8024 ชลบุรี ที่ขับปาดหน้า ก่อนจะมีผู้ชายลงจากรถใช้หินเคาะรอบรถ และกระจกเพื่อให้อีกฝ่ายเปิดประตู เหตุเกิดบนถนนสายวัดท้องคุ้ง-วัดนาเขื่อน ต.นาป่า อ.เมือง จ.ชลบุรี ก่อนที่รถยนต์กระบะจะขับออกจากจุดเกิดเหตุ โดยมีชายที่ก่อเหตุกระโดดเกาะหน้ารถมาตลอดระยะทางกว่า 10 กม. ท่ามกลางเสียงตะโกนร้องขอความช่วยเหลือจากคนในรถกระบะ จนเป็นกระแสวิพากษ์วิจารณ์อย่างหนักนั้น
หลังเกิดเหตุ นายโกศล ภักดีวุฒิพงษ์ อายุ 64 ปี คนขับรถกระบะที่อยู่ในสภาพมีแผลแตกที่ศรีษะ และมี นางเอ (นามสมมติ ) และ น.ส.สวย (นามสมมติ) รวมทั้ง ด.ญ.น้ำหวาน (นามสมมติ) อายุ 1 ขวบ 10 เดือน โดยสารมาด้วย ได้เปิดเผยต่อผู้สื่อข่าวว่า ที่มาของเหตุการณ์มาจากการที่พ่อและแม่ของ ด.ญ.น้ำหวาน มีปัญหากันจนต้องแยกกันอยู่ ซึ่ง ด.ญ.น้ำหวาน ได้ย้ายไปอยู่กับแม่ได้ประมาณ 5 เดือนแล้ว และในวันเกิดเหตุ ตน และผู้เป็นย่าได้พากันไปรับหลานสาวที่บ้านใน ต.ดอนหัวฬ่อ เพื่อไปเที่ยวเพราะคิดถึง แต่เมื่อแม่ของ ด.ญ.น้ำหวาน ทราบเรื่อง ได้โทรศัพท์บอกให้พี่ชาย ซึ่งก็คือผู้ก่อเหตุทุบรถ ให้รีบมารับหลานกลับ
ขณะที่ผู้ก่อเหตุอ้างว่า การที่ครอบครัวฝ่ายสามีน้องสาวจะมารับหลานไปต้องมีการบอกกล่าวกันก่อน และไม่ควรแอบมารับหลานเช่นนี้ ส่วนที่ก่อเหตุเพราะต้องการให้จอดรถพูดจากัน ไม่ใช่ขับรถหนี
อย่างไรก็ดี มีรายงานข่าวแจ้งว่า หลังเกิดเหตุทั้ง2 ฝ่ายได้พากันเดินทางเข้าแจ้งความต่อ ร.ต.อ.สมหวัง โพธิพันธ์ รอง สว.(สอบสวน) สภ.เมืองชลบุรี เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมาย
ด้าน นพ.สุริยา โปร่งน้ำใจ ผู้อำนวยการโรงพยาบาลมหาวิทยาลัยบูรพา ได้ออกมาแสดงความเห็นถึงเหตุการณ์รุนแรงที่เกิดขึ้นว่า ไม่ควรเกิดขึ้นต่อหน้าเด็ก เพราะเด็กย่อมมีความจดจำกับภาพความรุนแรงที่เกิดขึ้น และผู้ใหญ่ควรพูดคุยกันด้วยเหตุและผล
“ในเรื่องของความเป็นจริงแล้ว เราไม่รู้ว่าปัจจัย และที่มาของความรุนแรงมาจากอะไร โดยเฉพาะความรุนแรงในครอบครัว แต่จากภาพที่ปรากฏเป็นข่าวน่าตกใจตรงที่มีเด็กเล็กอยู่ภายในรถ และยังมีเสียงตะโกนขอความช่วยเหลือ ซึ่งเหตุการณ์นี้ย่อมทำให้เด็กตกใจ และจดจำภาพความรุนแรงไม่จนโต ทางที่ดีผู้ใหญ่ควรหลีกเลี่ยงการแสดงความรุนแรงต่อกัน เช่นเดียวกับเหตุการณ์สามียิงภรรยา และพ่อตา ในโรงพยาบาลที่ จ.นครปฐม ก็มาจากความรุนแรงในครอบครัว ซึ่งส่วนหนึ่งอาจมาจากโรคซึมเศร้า หรือความคิดที่ยังหาทางออกไม่ได้ จึงอยากให้ผู้ที่มีปัญหาในด้านต่างๆ หรืออาจจะไม่รู้ว่าตัวเองเป็นโรคซึมเศร้า หากรู้ว่าตัวเองมีอาการผิดปกติในแง่ของความคิดควรปรึกษาจิตแพทย์เพื่อให้ร่วมกันหาทางออกของปัญหา และลดความรุนแรงที่จะเกิดขึ้น”
นพ.สุริยา ยังกล่าวอีกว่า สังคมปัจจุบันมีปัญหารอบด้าน จะเห็นได้ว่าผู้คนในสังคมนิยมใช้ความรุนแรงเข้าใส่กัน ดังนั้น เมื่อเกิดปัญหาขอให้ทุกคนใช้สติไตร่ตรองถึงผลเสียที่จะตามมาจากการกระทำที่ขาดความยั้งคิด และหากหาทางออกของปัญหาไม่ได้ ก็ขอให้เข้ารับคำแนะนำจากหน่วยงานภาครัฐ และหน่วยงานของกรมสุขภาพจิต ที่มีการติดตั้งสายด่วนเพื่อปรึกษาปัญหาในด้านต่างๆ
