นครพนม - เกษตรจังหวัดนครพนม โชว์ผลงานเด่นด้านการส่งเสริมการเกษตร ครบรอบ 50 ปี กรมส่งเสริมฯ เผยเกษตรกรหลายกลุ่มประสบความสำเร็จ มีรายได้อย่างยั่งยืน พร้อมเดินหน้าต่อยอดพัฒนาอาชีพให้ดียิ่งขึ้น ส่วนชาวไร่สับปะรดที่ประสบปัญหาราคาตกต่ำเพราะผลผลิตล้นตลาด หลายภาคส่วนบูรณาการช่วยเหลือจนเกษตรกรพอใจในราคาขายที่ปรับตัวสูงขึ้น
วันนี้ (12 มิ.ย.) ภายในห้องประชุมศูนย์สารสนเทศยางพารานครพนม ข้างสวนหลวง ร.9 ริมถนนหลวงแผ่นดินสาย 212 (นครพนม-ท่าอุเทน) เขตเทศบาลเมืองนครพนม นายเกษม รักสุจริต เกษตรจังหวัดฯ ร่วมกับ นางพจนี ฤทธิกุล หัวหน้ากลุ่มยุทธศาสตร์และสารสนเทศ นายวินัย คงยืน หัวหน้ากลุ่มส่งเสริมและพัฒนาการผลิต นายวีรพงษ์ วรรณลา รักษาการหัวหน้ากลุ่มส่งเสริมและพัฒนาเกษตรกร แถลงผลงานการส่งเสริมการเกษตร ในวาระครบรอบ 50 ปี ของกรมส่งเสริมการเกษตร ซึ่งอยู่เคียงข้าง และช่วยเหลือเกษตรกรจากรุ่นสู่รุ่น มีการขับเคลื่อนงานส่งเสริมและแก้ปัญหาแก่กลุ่มเกษตรกรอย่างมากมาย
นายเกษม รักสุจริต เกษตรจังหวัดนครพนม กล่าวถึงวัตถุประสงค์ในการจัดงานครั้งนี้ว่า เพื่อเผยแพร่ข้อมูลข่าวสาร และสร้างโอกาสในการเข้าถึงข้อมูลด้านการเกษตรที่ถูกต้อง รวดเร็ว และทันต่อสถานการณ์ รวมไปถึงการเสริมสร้างความเข้าใจด้านงานส่งเสริมการเกษตร ทั้งยังโชว์ผลงานเด่นของเกษตรกรในพื้นที่ที่ประสบความสำเร็จมีรายได้อย่างยั่งยืน และเกิดการต่อยอดพัฒนาอาชีพให้ดียิ่งขึ้นไป
ขณะที่ นางพจนี ฤทธิกุล หัวหน้ากลุ่มยุทธศาสตร์และสารสนเทศฯ กล่าวว่า การขับเคลื่อนงานจากนโยบายสู่การปฏิบัติในพื้นที่ รวมไปถึงการทำงานแบบบูรณาการ ได้ก่อให้เกิดการสร้างเครือข่ายจากความสำเร็จของเกษตรกร พร้อมจะมอบรางวัลดีเด่นแก่ผู้สร้างชื่อเสียงให้จังหวัดนครพนม ซึ่งล้วนเป็นกลุ่มเกษตรกรที่มีผลิตผลเป็นที่ยอมรับของผู้บริโภค ก่อเกิดรายได้เข้ามาในจังหวัดมากมาย
นอกจากนี้ ในปีงบประมาณ 2561 เกษตรจังหวัดฯ ได้ต่อยอดผลงานจากปี 60 เช่น โครงการ 9101 ตามรอยเท้าพ่อ ภายใต้ร่มพระบารมี สามารถสร้างอาชีพตามความต้องการของชุมชนใน 123 ชุมชน จนเกิดความเข้มแข็ง และยั่งยืน รวมทั้งในปี 60 ที่ผ่านมา มีเกษตรกรประสบอุทกภัยใน 11 อำเภอ ได้รับความเดือดร้อนผลผลิตเสียหาย รัฐบาลมีมติให้กระทรวงเกษตรฯ ยึดแนวทางการดำเนินงานโครงการ 9101 เข้าฟื้นฟูอาชีพด้านการเกษตร เร่งช่วยเหลือหลังน้ำลด เป็นการลดรายจ่ายเพิ่มรายได้แก่เกษตรกร
ขณะเดียวกัน ยังได้เพิ่มการขับเคลื่อนพืชเศรษฐกิจ และประสิทธิภาพการปลูกกล้วยเชิงการค้าและการตลาด ให้สอดคล้องต่อความต้องการของผู้บริโภค โดยการนำผู้สนใจไปศึกษาดูงานการปลูกกล้วยหอมทอง พร้องทั้งจัดอบรมเพิ่มทักษะเสริมความรู้ในการปลูกกล้วยหอมทองให้ได้คุณภาพ ควบคู่กับการปลูกพืชปลอดภัยในรูปแบบเกษตรอินทรีย์ รวมทั้งเพิ่มประสิทธิภาพการผลิตข้าวออกสู่ประชาคมอาเซียน
ล่าสุด ชาวไร่สับปะรดประสบปัญหาราคาตกต่ำ เกษตรจังหวัดฯ รวมมือกับพาณิชย์ฯ เกษตรและสหกรณ์ฯ พร้อมหน่วยงานในสังกัด ทหารจากมณฑลทหารบกที่ 210 (มทบ.210) บูรณาการร่วมแก้ไขปัญหา โดยผลผลิตสับปะรดปี 2561 ออกสู่ตลาดพร้อมกันประมาณวันละ 70 ตัน แต่เกษตรกรขายได้เพียงวันละ 40 ตัน ทำให้มีผลผลิตตกค้างอยู่ประมาณวันละ 30 ตัน
จึงได้ร่วมกันหาตลาดค้าส่งเพื่อระบายสินค้า จากเดิมราคาตกแค่กิโลละ 4 บาท ปัจจุบัน ราคาถีบสูงขึ้นเป็นกิโลละ 6 บาท หากขายปลีกจะอยู่ที่กิโลละ 8 บาท ซึ่งเกษตรกรต่างพอใจในการแก้ไขปัญหา ช่วยเหลือราคาสับปะรดตกต่ำได้ระดับหนึ่ง