พิจิตร - บ้านพักเด็กฯ พิจิตร แจงยิบ ยืนยันไม่มีการทำร้ายหรือว่ากล่าวผู้ไร้ที่พึ่งเพราะถือเป็นญาติ แต่อาจเกิดการเข้าใจผิดเพราะบางรายอาจมีปัญหาทางการได้ยินจึงเข้าใจว่าเป็นการตะคอก ระบุบ้านพักเด็กฯ ยังเป็นที่พึ่งได้
วันนี้ (6 มิ.ย.) นายวีระศักดิ์ วิจิตร์แสงศรี ผู้ว่าราชการจังหวัดพิจิตร มอบหมายให้นายสมภพ สมิตะสิริ รองผู้ว่าราชการจังหวัดพิจิตร สอบสวนข้อเท็จจริงกรณีที่เป็นข่าวเกี่ยวกับบ้านพักเด็กและครอบครัว จังหวัดพิจิตร ที่มีนางทุเรียน อายุ 62 ปี (นามสมมุติ) เป็นคนอีสาน แต่อพยพย้ายถิ่นฐานมีครอบครัวอยู่ที่ ต.โพธิ์ไทรงาม อ.บึงนาราง จ.พิจิตร ที่ถูกคนในครอบครัวใช้ความรุนแรงจนต้องขอมาอยู่ที่หน่วยงานดังกล่าวพร้อมกับหลานชายวัย 5 ขวบ แต่ปรากฏว่าถูกผู้ดูแลใช้วาจาไม่สุภาพชอบดุด่าดูถูกเหยียดหยาม
ล่าสุด นายสมภพ สมิตะสิริ รองผู้ว่าราชการจังหวัดพิจิตร ได้เดินทางไปสอบสวนข้อเท็จจริง โดยพบกับนางยุพิน ผดุงฤกษ์ หัวหน้าบ้านพักเด็กและครอบครัวจังหวัดพิจิตร ให้ข้อมูลว่า ที่บ้านพักเด็กและครอบครัวแห่งนี้มีผู้เข้ามาขอรับบริการเป็นเด็กหรือเยาวชนจำนวน 8 ราย เป็นผู้ใหญ่ที่เป็นคนชรา 2 ราย มีอาหารคาว หวานให้กิน 3 มื้อ ด้วยงบประมาณรายหัวแค่เพียง 57 บาทต่อคนเท่านั้น ภายในองค์กรมีเจ้าหน้าที่รวม 13 คน เป็นนักสังคมสงเคราะห์, นักพัฒนาสังคม, เจ้าหน้าที่บันทึกข้อมูล, พนักงานธุรการ, พนักงานจ้างเหมาอีก 5 คน ทุกคนต่างทำหน้าที่ด้วยสามัญสำนึกที่จะต้องให้เป็นที่พึ่งแก่ผู้ที่ประสบปัญหาด้านสังคมที่บางรายก็ถูกคนในครอบครัวทำร้ายร่างกาย ถูกล่วงละเมิดทางเพศ ฯลฯ
ในส่วนของนางทุเรียน อายุ 62 ปี (นามสมมติ) นั้นเข้ามาใช้บริการที่บ้านพักเด็กและครอบครัวพร้อมกับหลานชาย เหตุเป็นเพราะถูกคนในครอบครัวใช้กำลังทำร้ายร่างกาย พฤติกรรมของนางทุเรียน อายุ 62 ปี (นามสมมติ) เป็นคนจริงจังกับชีวิต รู้หรือได้รับผลกระทบอะไรทางจิตใจก็จะเก็บเอามาคิดวนไปวนมาไม่ปล่อยวางและจะร้องไห้ซึมเศร้าอยู่บ่อยๆ ซึ่งเจ้าหน้าที่หรือพี่เลี้ยงก็หากิจกรรมตามความชอบให้ทำ เช่น ให้ช่วยทำความสะอาดเฉพาะในจุดบริเวณห้องพักที่ตนเองอยู่อาศัย รวมถึงให้ปลูกต้นไม้หรือพืชผักสวนครัวเพื่อให้มีกิจกรรมผ่อนคลาย ทุกคนให้ความรักเหมือนเป็นปู่ ย่า ตา ยาย ซึ่งก็อาจจะมีบ้างที่ผู้สูงอายุหูหรือการได้ยินไม่ดี เจ้าหน้าที่หรือผู้ดูแลก็อาจจะพูดเสียงดังหรือตะโกนคุยด้วย แต่คุณยายทุเรียนซึ่งมีปมด้อยอยู่ในใจ เหตุจากที่เคยถูกกระทำจากคนในครอบครัว จึงอาจน้อยเนื้อต่ำใจแอบนั่งร้องไห้เพราะคิดถึงบ้าน
โดยมีผู้มาพบเห็นจึงถ่ายคลิปส่งให้ผู้สื่อข่าวจนเป็นเหตุเข้าใจผิดซึ่งกันและกัน แต่ทางสำนักงานก็จะต้องเรียกครูพี่เลี้ยง หรือผู้ดูแลมาทำการสอบสวน ว่ามีพฤติกรรมจริงอย่างที่คุณยายทุเรียนร้องทุกข์หรือไม่ ทั้งนี้ ภายในสำนักงานก็มีกล้องวงจรปิดที่สามารถดูภาพย้อนหลังได้ ดังนั้น ขอยืนยันว่าสถานที่แห่งนี้ยังเป็นที่พึ่งของประชาชนที่ประสบปัญหาทางสังคมดังกล่าวอีกด้วย