จันทบุรี - ผลการชันสูตรเบื้องต้น รพ.พระปกเกล้าจันทบุรี ระบุ “น้องกิ๊ฟ” มีโรคหลอดเลือดมุดในกล้ามเนื้อหัวใจ เส้นเลือดหัวใจตีบ แต่ยังไม่สามารถบ่งชัดว่ามีความเสี่ยงทำให้เสียชีวิต หรืออาจเกิดจากการได้รับสารพิษหรือไม่ ขณะที่การล่วงละเมิดทางเพศอาจเสี่ยงทำให้เสียชีวิตได้ อย่างไรก็ดี จะต้องรอผลชันสูตรอย่างละเอียดจาก รพ.รามาธิบดี เพื่อเปรียบเทียบอีกครั้ง ขณะที่ญาติยื่นเรื่องขอโอนคดีให้กองปราบปรามเข้าคลี่คลายแล้ว
วันนี้ (5 มิ.ย.) ผู้สื่อข่าวได้รับการเปิดเผยจากญาติของ น้องกิ๊ฟ หรือ น.ส.อุมาพร หอยสังข์ ซึ่งเสียชีวิตหลังถูก 4 ชายฉกรรจ์อุ้มออกจากสถานบันเทิงในตัวเมืองจันทบุรี ไปข่มขืน และรุมโทรมจนเสียชีวิตภายในล้งผลไม้ในเขต อ.มะขาม ว่า ล่าสุด บรรดาญาติได้เดินทางไปยื่นเรื่องต่อสำนักตำรวจแห่งชาติ เพื่อขอให้รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ โอนคดีให้ตำรวจกองปราบปราม เข้ามาดูแลแล้ว เนื่องจากทางญาติยังคาใจเรื่องการเสียชีวิตในหลายประเด็น
ขณะที่ผลการชันสูตรศพในเบื้องต้นจากโรงพยาบาลพระปกเกล้าจันทบุรี สรุปว่า ผู้เสียชีวิตมีโรคหลอดเลือดมุดอยู่ในกล้ามเนื้อหัวใจ ส่วนเส้นเลือดหัวใจตีบไม่สามารถบ่งบอกได้ชัดเจนว่าจะมีความเสี่ยงทำให้เสียชีวิต หรืออาจเกิดจากการได้รับสารพิษ โดยขณะนี้อยู่ระหว่างการรอผลชันสูตรอย่างละเอียดจากโรงพยาบาลรามาธิบดี เพื่อให้เกิดความชัดเจนที่ตรงกันอีกครั้ง
ส่วนการถูกทำร้ายไม่พบบาดแผลใหม่ตามร่างกาย แต่การถูกล่วงละเมิดทางเพศอาจจะเป็นการกระตุ้นให้เสียชีวิตได้
นอกจากนี้ แพทย์ผู้ชันสูตรยังพบว่าสีของกล้ามเนื้อหัวใจผิดปกติ มีรอยของโรคกล้ามเนื้อหัวใจ ซึ่งอาจทำให้หัวใจล้มเหลวได้แม้ไม่มีอะไรกระตุ้นก็ตาม
ส่วนในทางคดีนั้น แม้เมื่อหลายวันก่อนเจ้าหน้าที่ตำรวจภูธรมะขาม จะได้ทำสำนวนเพื่อขออนุมัติศาลจังหวัดจันทบุรี ออกหมายจับเพิ่ม 2 ผู้ต้องหา แต่ศาลได้พิจารณาแล้วเห็นว่า สำนวนยังอ่อนและไม่มีน้ำหนัก จึงได้ตีสำนวนกลับเพื่อให้ตำรวจภูธรมะขาม รวบรวมพยาน และหาหลักฐานใหม่นั้น ขณะนี้ ตำรวจภูธรมะขาม ได้ตั้งต้นรวบรวมพยานหลักฐานใหม่ และได้มีการตรวจสอบ รวมทั้งไล่กล้องวงจรปิดในจุดเกิดเหตุซึ่งเป็นสถานบันเทิง และตามเส้นทางที่คาดว่า 4 ผู้ต้องหาใช้อุ้ม น้องกิ๊ฟ ใส่ท้ายรถกระบะไปทำการข่มขืนรุมโทรม ตลอดระยะทาง 40 กิโลเมตร เพื่อตรวจสอบว่าผู้ต้องหาได้จอดแวะตรงจุดใดบ้าง รวมทั้งมีผู้ต้องหาตามมาสมทบในการร่วมก่อเหตุหรือไม่