อุดรธานี - จ.อุดรธานี สั่งดำเนินการอาญา - แพ่ง กรณีปัญหารถขนแร่ลาวพลิกคว่ำตกลำห้วยยืดเยื้อ หลังพบตรวจพบโลหะหนัก ปนเปื้อนตกค้างอยู่ในแหล่งน้ำ สัตว์น้ำ จนต้องสั่งห้ามชาวบ้านจับพืชผักและสัตว์น้ำบริเวณรัศมีปนเปื้อนเด็ดขาด พร้อมให้บริษัทชดใช้ค่าตรวจสุขภาพ ค่าวิเคราะห์ดินตะกอน และชดเชยค่าเสียโอกาส 619,305 บาท
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า วันนี้ (4 มิ.ย.) ที่ ห้องประชุมคำชะโนด ชั้น 2 อาคาร 2 ศาลากลาง จ.อุดรธานี นายธนพล จันทรนิมิ รอง ผวจ.อุดรธานี เป็นประธานประชุมแก้ไขปัญหา รถบรรทุกแร่ทองแดงจาก สปป.ลาว พลิกคว่ำลงลำห้วยสาขาห้วยสามพาด บ.นาดี ต.ผาสุก อ.กุมภวาปี จ.อุดรธานี โดยมี นายไมตรี เนติวิริยกุล รองอัยการ จ.อุดรธานี, นางกุลญดา ทองมณี ผอ.ส่วนสิ่งแวดล้อม สนง.ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม (ทสจ.) อุดรธานี, นายสายัณห์ หมีแก้ว นักวิชาการสิ่งแวดล้อมชำนาญการพิเศษ สนง.สิ่งแวดล้อมภาค 9 (อุดรธานี) ผู้แทนส่วนราชการ และ นายวุฒินันท์ วารุก ผู้แทน บ.เอสเคที.ทราน จก.
นางกุลญดา ทองมณี ผอ.ส่วนสิ่งแวดล้อม ทสจ.อุดรธานี กล่าวว่า รถบรรทุกขนส่งแร่ทองแดงของ บ.เอสเคที.ทราน จก. พลิกคว่ำลงลำห้วยริมถนนมิตรภาพ บ.นาดี ตั้งแต่วันที่ 5 สิงหาคม 2560 ทางราชการออกคำสั่งห้ามบริโภคสัตว์น้ำในบริเวณนั้นโดยเด็ดขาด โดยบริษัทได้เข้าเก็บกู้ตะกอนดิน และฟื้นฟูลำห้วยเป็นการเบื้องต้น แต่เมื่อมีการตรวจพบโลหะหนัก ปนเปื้อนตกค้างอยู่ในแหล่งน้ำ สัตว์น้ำ จึงให้บริษัทชดใช้ค่าตรวจสุขภาพ ค่าวิเคราะห์ดินตะกอน และชดเชยค่าเสียโอกาส 619,305 บาท บริษัทแจ้งขอตรวจสอบรายละเอียด จนถึงขณะนี้ยังไม่คืบหน้า และให้บริษัทดำเนินการ 6 ข้อ
โดยทางบริษัทได้ชี้แจงกลับมาว่า ในแต่ละประเด็น ดังนี้ 1. ให้เก็บกู้ตะกอนดินและฟื้นฟูลำห้วยระยะทาง 950 เมตร ซึ่งบริษัทแจ้งว่าดำเนินการแล้ว ได้แจ้งให้กรมควบคุมมลพิษมาตรวจสอบซ้ำ แต่ฝ่ายปกครองตอบโต้ว่าเพียงแค้สูบน้ำออก ไม่ได้ขุดลอกตะกอนดินออก 2. ให้ตรวจสอบสุขภาพคนงานก่อน - หลังเก็บกู้ พร้อมห้ามนำปลามาบริโภค หรือนำไปจำหน่าย ได้รับแจ้งว่าดำเนินการแล้ว
3. ให้จัดประชุมทำความเข้าใจชาวบ้าน แผนการเก็บกู้และฟื้นฟูลำห้วย บริษัทแจ้งดำเนินการแล้ว 4. ขุดลอกระบบน้ำเสียของบ่อขยะ ทน.อุดรธานี ที่บริษัทเอาตะกอนดินไปทิ้ง ยังไม่มีการดำเนินการ 5. จัดทำแผนฟื้นฟูแหล่งน้ำหากพบปนเปื้อน บริษัทแจ้งดำเนินการแล้ว และ 6. ให้ สสจ. ตรวจวิเคราะห์สุขภาพประชาชน
นายสายัณห์ หมีแก้ว นักวิชาการสิ่งแวดล้อมชำนาญการพิเศษ สนง.สิ่งแวดล้อมภาค 9 (อุดรธานี) รายงานว่า หลังจากบริษัทแจ้งขุดลอกตะกอนดินแล้ว กรมควบคุมผลพิษได้มาเก็บตัวอย่างตะกอนดิน 26 จุด เมื่อวันที่ 2 เมษายน 2561 และผลวิเคราะห์ออกมาเมื่อ 9 พฤษภาคม 2561 ว่า พบการปนเปื้อนของทองแดงสูงสุด 3,350 มก./กก. ซึ่งมีค่าใกล้เคียงกันกับก่อนขุดลอกตะกอนดิน ขณะค่ามาตรฐานเพียง 21.5 มก./กก. กรมควบคุมมลพิษเสนอให้ทำการฟื้นฟู เพราะค่าเกินกว่าเกณฑ์ฟื้นฟูที่ 140 มก./กก.
นายธนพล จันทรนิมิ รอง ผวจ.อุดรธานี กล่าวสรุปว่า เวลาผ่านไปใกล้จะครบ 1 ปีแล้ว ชาวบ้านยังคงเดือดร้อนต่อเนื่อง จากประกาศห้ามกินปลา รวมทั้งพืชผักในน้ำ ยังคงมีคำสั่งห้ามอยู่ มันก็จะหนักขึ้นเรื่อยๆ และจากการหารือในข้อกฎหมาย มีความห่วงใยเรื่องอายุความ ได้สั่งการให้เริ่มดำเนินการทางคดีอาญา และคดีแพ่ง ทันที จะรอการฟื้นฟูต่อไปไม่ได้ ตามแนวทางที่อัยการสูงสุดตอบข้อหารือมา
นอกจากนี้ ให้ ทสจ. อุดรธานี ทำหนังสือทวงถามบริษัท คือ 1. ค่าใช้จ่ายและค่าชดเชย รวมทั้งค่าใช้จ่ายล่าสุดเพิ่มเติม และ 2. ให้บริษัทเสนอแผนฟื้นฟูภายในวันที่ 15 มิ.ย. นี้