ผู้การฯนครพนมแจงออกหมายจับคนช่วย “พระพรหมเมธี” หนี ต้องรอ ผบ.ตร.สั่ง

นครพนม - ผู้การฯติงสื่อ อย่ามโนกันไปเอง ออกหมายจับคนช่วย “พระพรหมเมธี” อดีตผู้ช่วยเจ้าอาวาสวัดสัมพันธวงศ์ ต้องรอ ผบ.ตร. สั่ง อย่างไรก็ตาม ตำรวจอยู่ระหว่างการสอบสวน รวบรวม พยาน หลักฐาน ตามกระบวนการขั้นตอนกฎหมาย

จากกรณี พระพรหมเมธี หรือ เจ้าคุณจำนงค์ เอี่ยมอินทรา อดีตผู้ช่วยเจ้าอาวาสวัดสัมพันธวงศ์ กทม. หนึ่งในผู้ต้องหาความผิดเกี่ยวกับคดีเงินทอนวัด ที่หลบหนีมาในพื้นที่ จ.นครพนม ตั้งแต่วันที่ 24 พฤษภาคม 2561 ที่ผ่านมา ก่อนหลบหนีออกไปประเทศเพื่อนบ้าน สปป.ลาว ทางด่านพรมแดนสะพานมิตรภาพไทย - ลาวแห่งที่ 3 นครพนม - คำม่วน โดยมีการทิ้งหลังฐาน เป็นรถตู้พบรถยนต์ตู้ โตโยต้า อัลผาด สีบรอนเงิน ทะเบียน 3 กภ 8672 กทม.

ซึ่ง เจ้าคุณจำนงค์ ใช้ในการเดินทางหลบหนี มาจาก กทม. นำจอดทิ้งไว้ใกล้กุฏิพระเจ้าอาวาสวัดป่าสุคนธรักษ์ บ้านค่ายเสรี ต.นางาม อ.เรณูนคร จ.นครพนม หลังการหลบหนี เจ้าหน้าที่จึงได้ยึดมาตรวจสอบ และสืบสวนหาเบาะแส จนกระทั่งล่าสุดมีการประสานงานจับกุมตัวได้ หลังหนีไปประเทศเยอรมนี

โดยกุญแจสำคัญที่ตำรวจสามารถติดตามจับกุมตัว เจ้าคุณจำนงค์ได้ คือ สีกาคนสนิท 1 คน ที่ให้การดูแลช่วยเหลือ ซึ่งตรวจสอบประวัติพบว่า เป็นคนที่มีฐานะร่ำรวย เป็นเจ้าของธุรกิจหลายอย่าง นอกจากนี้ยังมีสามีไปประกอบธุรกิจทำเหมืองแร่ ใน สปป.ลาว ทำให้รู้ช่องทางในการเลี่ยงการจับกุม และสามารถพาหนีออกนอกประเทศได้ง่าย

รวมถึงมี ลูกสิทธิ์ คนสนิท อีก 1 คน รวมถึงชาวลาว อีก 3 คน ซึ่งจากการตรวจสอบข้อมูลพบว่า สีกาคนสนิท รวมถึงลูกศิษย์ อีกคน อยู่ในการควบคุมของเจ้าหน้าที่ตำรวจ แต่ยังไม่มีการดำเนินคดี หรือออกหมายจับ ซึ่งทางตำรวจกำลังอยู่ในขั้นตอนรวบรวมพยานหลักฐาน

ล่าสุด วันนี้(4มิ.ย.)พล.ต.ต.สุวิชาญ ญาณกิตติกุล ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดนครพนม เปิดเผยข้อมูลว่า เกี่ยวกับคดีนี้ทาง ผู้บังคับบัญชาระดับสูง พล.ต.อ.จักรทิพย์ ชัยจินดา ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ได้กำกับดูแลควบคุมการทำงานด้วยตัวเอง ตั้งแต่การสืบสวนจับกุม ในส่วนของตำรวจนครพนม เป็นเพียงผู้ปฏิบัติงาน และไม่สามารถจะตัดสินใจในการดำเนินการตามกฎหมายได้ ไม่ว่าจะเป็นการให้ข้อมูล หรือการออกหมายจับใครก็ตาม

ทั้งนี้ ต้องรอคำสั่งจากทาง ผบ.ตร. เพราะเป็นคดีสำคัญ ต้องมีหลายขั้นตอน อยากชี้แจงสื่อ หรือการนำเสนอข้อมูลอย่าคิดกันไปเอง เกรงว่าจะเกิดความสับสน รวมถึงกระทบต่อการทำงานของตำรวจ

ล่าสุด ยังไม่มีการออกหมายจับบุคคลเกี่ยวข้อง ยังอยู่ในขั้นตอนรวบรวมพยานหลักฐาน ตามคำสั่งของ ผบ.ตร. หากมีความชัดเจน หรือมีข้อมูลที่เปิดเผยได้ ทางผู้บังคับบัญชาจะมีการเปิดเผยให้ข้อมูล ตามขั้นตอน