ศูนย์ข่าวศรีราชา- เกิดอุบัติเหตุรถพ่วง 18 ล้อ ชนท้ายรถ 6 ล้อบรรทุกเหล็ก รวมทั้งรถยนต์ บนถนนสายมอเตอร์เวย์ กม.ที่ 57+800 ขาเข้ากรุงเทพ ท้องที่ อ.พานทอง จ.ชลบุรี ส่งผลให้มีผู้เสียชีวิต 8 รายบาดเจ็บเพียบ
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อช่วงเย็นวันนี้(1 มิ.ย.) ได้เกิดอุบัติเหตุรถพ่วง 18 ล้อ ชนท้ายรถ 6 ล้อบรรทุกเหล็ก และรถยนต์ บนถนนสายมอเตอร์เวย์ กม.ที่ 57+800 ขาเข้ากรุงเทพ ท้องที่ หมู่ 4 ต.บางนาง อ.พานทอง จ.ชลบุรี ส่งผลให้มีผู้เสียชีวิต 8 รายและได้รับบาดเจ็บสาหัส 4 ราย
โดย พ.ต.ท.พงศ์ศรัณย์ วังพลับ พนักงานสอบสวนผู้ชำนาญการพิเศษ สทล.1 กก.8 บก.ทล.(หน่วยสอบสวนย่อยเขาเขียว) เผยว่าเมื่อเวลา 18.00 น.ที่ผ่านมา ได้รับแจ้งจากหน่วยกู้ภัยธรรมรัศมีมณีรัตน์ว่า เกิดอุบัติเหตุรถชนหลายคัน บนถนนสายมอเตอร์เวย์ ขาเข้ากทม. กม.ที่ 57+800 ต.บ้านเก่า อ.พานทอง จ.ชลบุรี จนเป็นเหตุให้มีผู้บาดเจ็บและเสียชีวิตหลายราย หลังรับแจ้งจึงเดินทางไปตรวจสอบ
ในที่เกิดเหตุพบรถบรรทุก 6 ล้อ ยี่ห้อฮีโน่ หัวสีขาว หมายเลขทะเบียน 72-0804 นครปฐม และรถยนต์กระบะยี่ห้อโตโยต้า ไฮลักวีโว่ หมายเลขทะเบียน ถส 3330 กรุงเทพ สภาพถูกรถพ่วง 22 ล้อ ยี่ห้อฮี่โน่ หัวสีขาว หมายเลขทะเบียนส่วนหัว 79-6606 กทม. หมายเลขทะเบียนส่วนท้าย 79-8003 กทม. พุ่งชนจนพังยับเยิน ใกล้กันพบร่างผู้เสียชีวิตเป็นชายที่มากับรถกระบะและรถ 6 ล้อ รวม 7 คน นอนเกลื่อนริมถนน
ส่วนผู้ได้รับบาดเจ็บสาหัส 4 ราย ซึ่งนั่งมากับรถกระบะและรถขนเหล็ก ถูกนำตัวส่งโรงพยาบาลชลบุรี
เพื่อให้แพทย์รักษาเป็นการด่วน นอกจากนั้นยังมีผู้รอดชีวิตจากเหตุการณ์ดังกล่าว และไม่ได้รับบาดเจ็บอีก 3 คน
และจากการสอบสวน นายสิทธิพล ยังรอด อายุ 42 ปี ผู้รอดชีวิต เล่าว่า ตนเองเป็นหัวหน้างานของผู้เสียชีวิตทั้งหมด ซึ่งก่อนเกิดเหตุรถ 6 ล้อและรถกระบะได้วิ่งตามกันมา โดยมีพนักงานที่โดยสารมารถทั้ง 2 คัน รวม 13 คน โดยรถ 6 ล้อได้ขนเหล็กมาจากพัทยา มุ่งหน้าไปกรุงเทพฯ แต่ระหว่างทางยางหลังด้านซ้ายได้เกิดแตก จึงต้องจอดรถเข้าข้างทางเพื่อเปลี่ยนยาง
โดยมีรถกระบะจอดอยู่ด้่านหน้า ส่วนพนักงานบางส่วนนั่งจับกลุ่มรอเปลี่ยนยางอยู่ข้างทาง บางส่วนช่วยกันมุดใต้ท้องรถเปลี่ยนยาง ขณะนั้นได้มีรถเทรลเลอร์ ที่วิ่งแซงซ้ายพุ่งเข้ามาชนเอย่างจัง กวาดทั้งคนและรถ จนเป็นเหตุให้มีผู้เสียชีวิตและได้รับบาดเจ็บจำนวนมาก
เบื้องต้นคาดว่า คนขับรถเทรลเลอร์น่าจะหลับใน หรือรถเสียหลัก ซึ่งเจ้าหน้าที่ตำรวจจะได้ทำการสอบสวนถึงสาเหตุอย่างละเอียดอีกครั้ง