รถพ่วงเทรลเลอร์บรรทุกขยะ เสียหลักชนรถกระบะและร้านข้าวต้มปากซอยสัยวัตร์ ถนนลำลูกกาคลอง 3 ได้รับความเสียหาย โชคดีไม่มีผู้ได้รับบาดเจ็บ
เมื่อเวลา 23.30 น. วันที่ 30 พฤษภาคม 2561 ร.ต.อ.มนตรี รัตนพันธ์ ร้อยเวรสอบสวน สถานีตำรวจภูธรคูคตได้รับแจ้งมีอุบัติเหตุ รถพ่วงเทรลเลอร์บรรทุกขยะ เสียหลักชนกับรถกระบะ และร้านข้าวต้มได้รับความเสียหาย เหตุเกิดบริเวณปากซอยสัยวัตร์ ถนนลำลูกกา คลอง 3 ตำบลคูคต อำเภอลำลูกกา จังหวัดปทุมธานี จึงรุดตรวจสอบที่เกิดเหตุร่วมกับเจ้าหน้าที่มูลนิธิกู้ภัยร่มไทร
ในที่เกิดเหตุเจ้าหน้าที่ร้านข้าวต้มถูกเฉี่ยวชนและมีโต๊ะเก้าอี้ ล้มระเนระนาด ได้รับความเสียหาย และใกล้กันพบรถพ่วง สีแดง ตัวหัวพ่วง หมายเลขทะเบียน 70-2458 นครปฐม ส่วนตัวลูกพ่วงหมายเลขทะเบียน 70-1587 นครปฐม ที่ชนกับรถกระบะ ยี่ห้ออีซูซุ สีบรอนซ์ทอง หมายเลขทะเบียน ฒก 3586 กรุงเทพฯ ที่จอดข้างทาง ซึ่งเป็นรถเจ้าของร้านข้าวต้ม ถูกเฉี่ยวชนพังยับเยิน ได้รับความเสียหายทั้งคัน และตัวหัวพ่วงรถยังพุ่งเข้าไปชนรั้วบ้านใกล้เคียงเสียหาย นอกจากนี้ยังมีโต๊ะและเก้าอี้ได้รับความเสียหาย และมีเสาไฟฟ้าขาดอีก 1 ต้น แต่ยังโชคดี ที่ไม่มีผู้ได้รับบาดเจ็บ โดยมี นายศุภากร โสดาดี อายุ 23 ปี (เสื้อสีดำ) คนขับรถพ่วง ยืนรอเจ้าหน้าที่ในที่เกิดเหตุ ทางเจ้าหน้าที่จึงได้เชิญตัวผู้ขับขี่รถพ่วงไปสอบสวนเพิ่มเติมที่โรงพัก
จากการสอบถาม นายศุภากร คนขับรถบรรทุกขยะ ให้การว่า ตนเองขับรถมาจากอำเภอบางเลน จังหวัดนครปฐม เพื่อจะมุ่งหน้าไปยังบ่อขยะย่านสายไหม เมื่อมาถึงที่เกิดเหตุ เกิดวูบนิดหน่อย โดยตนกะจะไปล้างหน้าล้างตาที่ปั๊ม และรถก็เสียหลักไปชนกับรถที่จอดข้างทาง และร้านค้าดังกล่าว
จาการสอบถาม นางเบญจพร เพ็ชรเสถียร อายุ 48 ปี และสามีเจ้าของร้านได้เล่าเหตุการณ์ว่า ตนเองและแฟนกำลังทำกับข้าวอยู่ภายในร้าน จากนั้นก็ได้ยินเสียงดังโครม เหมือนมีอะไรมาชนที่โต๊ะและเก้าอี้ จึงได้เดินออกมาดู ก็พบว่ามีรถพ่วงได้เฉี่ยวชนกับรถตนเอง ที่จอดอยู่ด้านหน้าร้าน จนกระเด็นกระดอนไปถูกโต๊ะและเก้าอี้ จนได้รับความเสียหาย โชคดีที่นั่นหน้าไม่มีลูกค้ามานั่งกินข้าว
ร.ต.อ.มนตรี รัตนพันธ์ ร้อยเวรสอบสวน สภ.คูคต ได้ลงพื้นที่ตรวจสอบในที่เกิดเหตุ พร้อมบันทึกภาพในที่เกิดเหตุเก็บไว้เป็นหลักฐาน จากนั้นได้เชิญคนขับรถไปสอบสวนเพิ่มเติมที่โรงพัก พร้อมแจ้งข้อกล่าวหา “ขับรถโดยประมาณเป็นเหตุให้ทรัพย์สินได้รับความเสียหาย” ส่วนค่าเสียหายนั้นไม่ทราบ เนื่องต้องรอเจ้าหน้าประกันทั้งสองฝ่ายตกลงกันอีกครั้ง
