เชียงราย - กลุ่มสับปะรด “ภูแล” วอนอย่าซ้ำเติมเกษตรกรด้วยการนำพันธุ์ปลอมสวมรอยทำให้ภาพของภูแลเสียหาย ระบุหากไม่ชิมดูจะแยกไม่ออก ทั้งขอให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องสำรวจสับปะรดและสายพันธุ์ให้ทันสมัย
กลุ่มผู้ปลูกสับปะรดภูแล เกษตรแปลงใหญ่ จ.เชียงราย ซึ่งเป็นกลุ่มเกษตรกรที่รวมตัวกันพัฒนาผลผลิตและการตลาด ตั้งอยู่บ้านโป่งพระบาท หมู่ 18 ต.บ้านดู่ อ.เมืองเชียงราย ได้รับซื้อผลผลิตในราคากิโลกรัมละ 3-4 บาท และนำมาปอกและเฉาะบรรจุถุงเข้าห้องเย็นส่งจำหน่ายทั่วประเทศ รวมถึงในต่างประเทศ เช่น ประเทศจีน มาเลเซีย ฯลฯ
นายสมชาติ วรรณคำ ประธานกลุ่มสับปะรดภูแล เกษตรแปลงใหญ่ จ.เชียงราย กล่าวว่า สับปะรดจะให้ผลผลิตมากในช่วงเดือน มี.ค.-พ.ค.ของทุกปี ทำให้ช่วงนี้จะออกสู่ตลาดเป็นจำนวนมาก ทำให้กลุ่มได้มีการขยายตลาดเข้าไปยังประเทศจีนและมาเลเซีย โดยจำหน่ายเป็นกล่อง กล่องละประมาณ 300-400 บาท รวมทั้งส่วนหนึ่งก็จำหน่ายภายในประเทศไทยเราด้วย ซึ่งที่ผ่านมาได้พยายามพัฒนากลุ่มเกษตรกรให้ผลิตสับปะรดภูแลที่มีคุณภาพดี กรอบ หวานอร่อย มาโดยตลอดเพื่อให้คงมาตรฐานความเป็นสับปะรดภูแลของไทย
นายสมชาติกล่าวอีกว่า ปัจจุบันปัญหาที่พบคือการนำสับปะรดพันธุ์อื่นมาออกแบบให้เหมือนพันธุ์ภูแล แล้วนำออกมาปลอมปนกันทำให้เสียมาตรฐานและส่งผลกระทบต่อตลาดในที่สุด โดยมีผู้ที่นำสับปะรดพันธุ์ตราดสีทองมาตัดลำต้นแล้วรอให้ผลสับปะรดงอกออกในระดับหนึ่งด้วยสารเคมีจนได้ผลผลิตที่เหมือนสับปะรดภูแล
จากนั้นรีบตัดออกมาในขณะผลเล็กแล้วนำมาปลอมปนกับสับปะรดภูแลหรือจำหน่ายเองแต่ทำเหมือนเป็นสับปะรดภูแล เพราะหากดูจากภายนอกแล้วไม่สามารถแยกแยะได้ต้องใช้การชิมดูรสชาติอย่างเดียวเท่านั้น ทำให้เกิดผลเสียอย่างมากเพราะคนที่ไม่รู้รับซื้อไปแล้วไม่ได้รสชาติตามที่คาดหวัง
“สับปะรดดัดแปลงดังกล่าวจะไม่หวานและมีเส้นมากแกนก็หนา ไม่เหมือนสับปะรดภูแลที่กรอบหวานทั้งลูกโดยไม่มีเส้น ที่ผ่านมาพบมีการนำปลอมปนทำให้ลูกค้าโดยเฉพาะตลาดจีนเดือดร้อนอย่างหนัก ปัจจุบันพ่อค้าจีนจึงส่งคนไปดูและรับซื้อถึงกลุ่มเกษตรกรโดยตรงเพื่อแก้ปัญหา ดังนั้น ผู้ที่หาซื้อได้ช่วยตรวจสอบด้วยการชิมตัวอย่างด้วยเพราะไม่เช่นนั้นจะดูไม่ออกเลย” นายสมชาติกล่าว และว่า
นอกจากนี้ ยังขอให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องได้มีการสำรวจและเก็บข้อมูลแปลงปลูกสับปะรดและสายพันธุ์ให้ทันสมัยหรืออัปเดต เพื่อให้ทราบจำนวนพื้นที่และปริมาณสำหรับนำมาใช้เพื่อบริหารจัดการการปลูกและตลาดได้ด้วยต่อไป
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ปัจจุบันผลผลิตสับปะรดทั้งนางแลและภูแลต่างออกสู่ตลาดเป็นจำนวนมาก ทำให้ราคาผลผลิตที่สวนอยู่ที่กิโลกรัมละประมาณ 2-3 บาท หลายองค์กรโดยเฉพาะกลุ่มชาวบ้านและสถานที่จิตสาธารณะ เช่น วัดห้วยปลากั้ง ต.ริมกก อ.เมืองเชียงราย โดยพระอาจารย์พบโชค ตัสสะวังโส เจ้าอาวาสวัดได้เข้าไปรับซื้อผลผลิตจากเกษตรกรแล้วนำมาแจกจ่ายฟรีแก่ประชาชนตามจุดต่างๆ เพื่อช่วยแบ่งเบาผลผลิตที่ออกสู่ตลาดเป็นจำนวนมากในช่วงนี้
ทั้งนี้ พบว่ามีประชาชนที่สัญจรไปมาตามจุดที่รถบริจาคสับปะรดตั้งเป็นจุดแจกพากันแวะเวียนไปเอาสับปะรดไปรับประทานท่ามกลางบรรยากาศที่อิ่มบุญกันโดยถ้วนหน้า โดยจุดที่ทางวัดมักแจกจ่ายมีหลายจุดไม่แน่นอน เช่น ห้าแยกพ่อขุน แยกโรงพัก ฯลฯ