นครพนม - ตำรวจศรีสงครามหิ้วตัวแท็กซี่สวมรอย “ผู้การโจ๊ก” รับเงินวิ่งเต้นเลื่อนตำแหน่ง ส่งฝากขัง หลังแจ้งข้อหาฉ้อโกง เผยตลอดทั้งวันไร้ญาติยื่นประกันตัว ขณะที่สารวัตรเจ้าทุกข์เข้าให้การเพิ่มเติม และขอชี้แจงผู้บังคับบัญชาตามขั้นตอน
วันนี้ (24 พ.ค.) พ.ต.อ.กิตติศักดิ์ จันทร์ศรี ผกก.สภ.ศรีสงคราม จ.นครพนม มอบหมายให้ พ.ต.ต.เพ็ชร กิจพฤกษ์ สารวัตรสอบสวน สภ.ศรีสงคราม คุมตัวนายไพจิตร์ สายยา อายุ 40 ปี อาชีพขับแท็กซี่รับจ้าง ชาว จ.สกลนคร ผู้ต้องหาตามหมายจับศาลจังหวัดนครพนม ฐานความผิดฉ้อโกงแสดงตนเป็นคนอื่น กรณี พ.ต.ท.พงษอนันต์ ซุบรัมย์ สารวัตรสืบสวนนครพนม เข้าแจ้งความร้องทุกข์ต่อพนักงานสอบสวน สภ.ศรีสงคราม เมื่อวันที่ 19 พฤษภาคม 2561 ที่ผ่านมา โดยระบุว่ามีหลักฐานผู้ต้องหาได้หลอกลวงสวมรอยเป็น พล.ต.ต.สุรเชษฐ์ หักพาล รองผู้บัญชาการตำรวจท่องเที่ยว และมีการเจรจาผ่านแอปพลิเคชันไลน์เพื่อเรียกรับเงิน เงินวิ่งเต้นเลื่อนตำแหน่ง ทำให้มีเจ้าตัวและเพื่อนตำรวจรวม 6 นาย สูญเงินกว่า 4 ล้านบาท แต่ไม่ได้รับการเลื่อนตำแหน่งตามข้อตกลง จนกระทั่งมีการสืบทราบภายหลังว่าผู้กระทำความผิดคือนายไพจิตร์ สายยา อายุ 40 ปี อาชีพขับแท็กซี่รับจ้างชาว จ.สกลนคร ขับรถแท็กซี่ใน กทม. เนื่องจากมีการตรวจสอบหลักฐานจากบัญชีการโอนเงิน
ต่อมา พล.ต.ต.สุรเชษฐ์ หักพาล รองผู้บัญชาการตำรวจท่องเที่ยว ได้ออกมาแถลงข่าวการจับกุมตัวผู้ต้องหาดังกล่าว พร้อมยืนยันไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับผู้ต้องหา ที่สำคัญยังไม่เคยรู้จักกันมาก่อน และควบคุมตัวผู้ต้องหามาสอบสวน แจ้งข้อกล่าวหาในฐานความผิดฉ้อโกงแสดงตนเป็นคนอื่น เมื่อวันที่ 23 พฤษภาคม 2561 ที่ผ่านมา ที่ สภ.ศรีสงคราม ซึ่งทางผู้ต้องหาได้ให้การเบื้องต้นว่าลงมือวางแผนทำคนเดียว อยากได้เงิน หลังมีข้อมูลเรื่องการวิ่งเต้นจึงวางแผนฉวยโอกาสเรียกรับเงินกับตำรวจ
ล่าสุดวันนี้ (24 พ.ค.) เวลา 10.00 น. ทางตำรวจได้นำตัวผู้ต้องหาไปที่ศาลจังหวัดนครพนม เพื่อขอฝากขังเป็นผัดแรก รอการสรุปสำนวนส่งอัยการฟ้องตามกฎหมาย ซึ่งในวันนี้ไม่พบว่ามีญาติมาขอยื่นประกันตัวผู้ต้องหา ซึ่งจะได้มีการนำไปควบคุมตัวชั่วคราวรอการพิจารณาที่เรือนจำกลางจังหวัดนครพนม ส่วนทางด้าน พ.ต.ท.พงษอนันต์ ซุบรัมย์ สารวัตรสืบสวนนครพนม เจ้าทุกข์ที่เข้าแจ้งความร้องทุกข์เพื่อเอาผิดผู้ต้องหา ได้เดินทางมาให้การเพิ่มเติม แต่ไม่ขอให้ขอมูลหรือสัมภาษณ์ผ่านสื่อ ขอชี้แจงตามขั้นตอน
โดยยังไม่พบว่ามีคำสั่งในการตั้งคระกรรมการสอบสวน หลังจาก พล.ต.ต.สุรเชษฐ์ หักพาล รองผู้บัญชาการตำรวจท่องเที่ยว ได้ออกมาระบุว่าจะเอาผิดต่อเจ้าหน้าที่เกี่ยวข้องด้วย จากการตรวจสอบพบว่ามีตำรวจที่เกี่ยวข้องตามที่เป็นข่าวในการถูกหลอกโอนเงินวิ่งเต้นรวมทั้งสิ้น 6 นาย
ส่วนใหญ่มีตั้งแต่ระดับสารวัตร รองผู้กำกับ และรองผู้บังคับการอีก 1 นาย ที่มีข้อมูลว่าจ่ายเงินค่าวิ่งเต้น บางส่วนให้ผู้ต้องหาจริง โดยทางตำรวจจะได้เร่งสอบสวน รวบรวมหลักฐานดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป