“เสรีพิศุทธ์” เผย หอบ 1.8 ล้านประกันตัว “ม็อบอยากเลือกตั้ง” แต่ตำรวจเล่นแง่เพิ่มข้อหา - ไม่ยอมให้ประกัน ทั้งที่ไม่ได้ทำผิด สู้คดีไปก็ชนะ มั่นใจพรุ่งนี้ (24 พ.ค.) ศาลให้ประกันตัวทั้งหมด ลั่นหลังเลือกตั้งจะเอาเรื่องทั้งอาญา - วินัย ตำรวจชุดนี้แน่นอน
วันที่ 23 พ.ค. เมื่อเวลา 21.00 น. พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ เตมียาเวส อดีต ผบ.ตร. ได้เข้ามานั่งคุยกับทางเจ้าหน้าที่ตำรวจ และ แกนนำทั้ง 10 คน โดยใช้เวลากว่า 2 ชม. ต่อมาเวลา 23.00 น. พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ กล่าวว่า วันนี้มาขอยื่นประกันตัว โดย ผกก.สน.พญาไท และ ผกก.สน.ชนะสงคราม แจ้งว่า ผู้บังคับบัญชาของเขา ให้มาสอบตนว่าเป็นอะไรกับผู้ต้องหา เป็นญาติหรือเกี่ยวข้องอย่างไร จึงมาขอยื่นประกันตัว มีหลักฐานอะไรกับความเกี่ยวข้องกับ 15 คน และให้ทำสัญญาแต่ละรายรวม 15 ราย ในส่วนนี้ตนรู้ดีว่าตำรวจกำลังเล่นอะไร ทำอะไร สมัยนี้มีนายหน้าประกัน หากไม่มีเงินประกัน ไม่รู้จักกันเลยยังมาประกันได้ และยังพัฒนาเป็นรูปบริษัทประกันด้วยซ้ำ แต่ทำไมเราทำไม่ได้ และที่สำคัญ คดีเดียวกัน ทำสัญญาเดียวกันก็พอ เพราะเป็นคดีเดียวกัน ไม่ต้องแยก 15 สัญญา
พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ กล่าวต่อว่า วันนี้ตนเตรียมหลักทรัพย์มาประกันครบทั้ง 15 คน มูลค่า 1,800,000 บาท มากกว่าที่ตำรวจกำหนดไว้ที่ 1,500,000 บาท ด้วยซ้ำ ตำรวจใช้กฎหมายมาถ่วงเวลา ทั้งๆ ที่ผู้ต้องหาปฏิเสธทั้งหมด แค่พิมพ์ วันเดือนปีเกิด ปฏิเสธให้การชั้นศาล แค่นั้นก็จบ แต่ตำรวจหน้าด้านพยายามแจ้งข้อหาเพิ่ม ทำหนังสือให้มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ มาแจ้งความว่า ถูกตัดกุญแจ แต่ธรรมศาสตร์ปฏิเสธมาแล้ว ว่า เขาไม่เสียหายอะไร คดีนี้สู้ไปก็ชนะ เพราะ 15 คน ไม่ผิดกฎหมาย แค่มาขอเลือกตั้ง ไม่ได้ยุยงปุกปั่น ไม่ได้ล้มล้าง ผิดกับ กปปส. ที่ปั้นป่วนสร้างความเสียหายชัดเจน
พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ กล่าวอีกว่า พวกเราทำถูกต้องตามกฎหมายทุกประการแล้ว แต่ตำรวจกลับไม่ให้ประกันตัว หันไปรับใช้เผด็จการไม่ยึดหลักกฎหมาย หลังเลือกตั้งตนจะเอาเรื่องทั้งอาญา และวินัยกับตำรวจชุดนี้ ซึ่งตนทำแน่นอน สังคมต้องสงบเรียบร้อย แต่กลับปล่อยให้คนชั่วออกมาเพ่นพ่าน สำหรับพรุ่งนี้ตนเชื่อว่าศาลให้ประกันตัวทั้งหมดอย่างแน่นอน
ด้าน น.ส.เยาวลักษณ์ อนุพันธ์ หัวหน้าศูนย์ทนายความเพื่อสิทธิมนุษยชน กล่าวว่า ขณะนี้ทางเจ้าหน้าที่แจ้งข้อกล่าวหาเพิ่มเติมต่อผู้ชุมนุมในข้อหา พ.ร.บ. ชุมนุมสาธารณะ ซึ่งจะแบ่งเป็นมาตราออกไปประกอบด้วย ผู้แจ้งการชุมนุม ผู้จัดการการชุมนุม และ ผู้ชุมนุม ซึ่งตนก็แปลกใจเช่นกันว่าเพราะเหตุใดถึงเพิ่งมาแจ้ง ซึ่งควรจะแจ้งให้แล้วเสร็จตั้งแต่เมื่อวานที่ผ่านมา
น.ส.เยาวลักษณ์ กล่าวต่อว่า ทั้งนี้ ตนขอยืนยันว่า ผู้ที่ถูกควบคุมตัวทั้งหมดเป็นการมอบตัวไม่ใช่เป็นการจับกุม จึงไม่เซ็นยินยอมบันทึกการจับกุมทั้งหมด 10 คน ทั้งนี้ ทั้ง 10 คน ที่ถูกควบคุมตัวอยู่ที่สน.พญาไท ทางเจ้าหน้าที่ได้แบ่งข้อหาออกไป ถ้าเป็นแกนนำจะมีมาตรา 215 ในฐานะเป็นหัวหน้าเพิ่มเติม ส่วน พ.ร.บ. ชุมนุมสาธารณะจะเป็นของผู้จัดการการชุมนุม และผู้แจ้งการชุมนุม ทั้งนี้ ผู้ต้องหามีการแจ้งเรื่องการชุมนุมต่อทางเจ้าหน้าที่ไว้ก่อนหน้านี้แล้ว แต่ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจแจ้งว่าขัดต่อคำสั่งที่ 3/2558 ก็คือ การชุมนุมขัดต่อข้อกฎหมาย
น.ส.เยาวลักษณ์ กล่าวอีกว่า ขณะนี้ตนคาดว่า ทางเจ้าหน้าที่คงจะฝากขังต่อศาลอาญาในวันพรุ่งนี้ ซึ่งทางทนายความจะทำการคัดค้านคำร้องฝากขังต่อทางพนักงานสอบสวน ซึ่งโดยหลักแล้วเป็นการใช้สิทธิตามรัฐธรรมนูญซึ่งเป็นเสรีภาพในการแสดงความคิดเห็น เรียกร้องเพื่ออยากเลือกตั้ง ซึ่งเป็นไปตามที่รัฐธรรมนูญกำหนดไว้ ทั้งนี้ ผู้ชุมนุมยังมีพฤติการณ์ที่มีที่อยู่เป็นหลักแหล่ง และไม่ได้หลบหนีไปไหน โดยทุกคดีที่ผ่านมาศาลก็ยกคำร้องของพนักงานสอบสวนมาโดยตลอดอีกด้วย.
