ผู้จัดการรายวัน360- ม็อบอยากเลือกตั้งไปไม่ถึงทำเนียบฯ แกนนำยอมมอบตัว ยุติชุมนุม หลัง คสช.แจ้งความดำเนินคดี 3 ข้อหา ชุมนุมทางการเมือง ฝ่าฝืนคำสั่งคสช.พร้อมคัดค้านการประกันตัว ด้าน "บิ๊กตู่" ยันเลือกตั้งต้นปี 62 ไม่ไวกว่านั้น
วานนี้ (22 พ.ค.) ผู้สื่อข่าวรายงานความเคลื่อนไหว การชุมนุมของกลุ่มคนอยากเลือกตั้ง ที่นำโดยนายรังสิมันต์ โรม และนายสิริวิชญ์ เสรีธิวัฒน์ ซึ่งได้ปักหลักค้างคืนที่ ม.ธรรมศาสตร์ ท่าพระจันทร์ โดยแกนนำได้กำหนดว่าจะเคลื่อนขบวนออกจากม.ธรรมศาสตร์ ไปยังทำเนียบรัฐบาล ในเวลา 09.00 น. ขณะที่เจ้าหน้าที่ตำรวจ ได้ตรึงกำลัง สังเกตการณ์ ที่ฝั่งสนามหลวงตลอดทั้งคืน
ขณะที่ศาลปกครองกลาง มีคำสั่งไม่รับคำฟ้อง และให้จำหน่ายคดีออกจากสารบบความ กรณีนายอานนท์ นำภา และน.ส.ชลธิชา แจ้งเร็ว แกนนำกลุ่มคนอยากเลือกตั้ง ยื่นคำร้องขอให้ศาลฯ มีคำสั่งคุ้มครองชั่วคราวผู้ชุมนุมคนอยากเลือกตั้ง ในการเดินเท้าไปที่ทำเนียบรัฐบาล ไม่ให้เจ้าหน้าที่ตำรวจทหาร และเจ้าหน้าที่ฝ่ายมั่นคงทำการขัดขวาง ตั้งแต่ เวลา 06.00 - 18.00 น.
ต่อมาเวลา 08.45 น. เจ้าหน้าที่ตำรวจได้ประกาศผ่านเครื่องขยายเสียงให้กลุ่มผู้ชุมนุมรับทราบว่า เจ้าพนักงานดูแลการชุมนุมสาธารณะ สน.ชนะสงคราม ประกาศให้ยกเลิกการชุมนุมที่หน้า ม.ธรรมศาสตร์ และการเดินขบวนไปยังทำเนียบรัฐบาล เนื่องจากพบว่าฝ่าฝืนกฎหมาย เป็นการชุมนุมทางการเมืองโดยไม่ได้รับอนุญาตจากคสช. ต่อมา คสช.ได้ร้องทุกข์กล่าวโทษกับผู้ชุมนุม ในข้อหาชุมนุมทางการเมืองเกิน 5 คนขึ้นไป โดยไม่ได้รับอนุญาต อันเป็นการฝ่าฝืนคำสั่ง คสช. ที่ 3/2558
อย่างไรก็ตาม กลุ่มผู้ชุมนุมได้ตั้งแถว เตรียมเคลื่อนขบวนออกจาก ม.ธรรมศาสตร์ ไปตาม ถ.ราชดำเนิน เพื่อไปยังทำเนียบรัฐบาล แต่เจ้าหน้าที่ยังคงวางกำลังขวางไว้อย่างแน่นหนา ทำให้ไม่สามารถเคลื่อนขบวนได้
จนกระทั่งเวลา ประมาณ10.45 น. กลุ่มผู้ชุมนุม ยอมถอยกลับเข้าไปใน ม.ธรรมศาสตร์ เนื่องจากเจ้าหน้าที่ วางกำลังแน่นหนา โดยกลุ่มผู้ชุมนุมได้ต่อรอง ขอเคลื่อนขบวนไปถึง แค่อนุสาวรีย์ประชาธิปไตย เพื่ออ่านแถลงการณ์
คสช.ดำเนินคดี 6 แกนนำม็อบ
ส่วนที่กองบัญชาการกองทัพบก พล.ต.ปิยพงศ์ กลิ่นพันธุ์ ผู้บัญชาการมณฑลทหารบกที่ 11 (มทบ11) ในฐานะ ทีมคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) พร้อมด้วย พ.ต.อ.กฤษณะ พัฒนเจริญ รองโฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติ (สตช.) ร่วมกัน แถลงถึงการดูแลสถานการณ์การชุมนุมกลุ่มคนอยากเลือกตั้ง โดยพ.ต.อ.กฤษณะ กล่าวว่า ตามที่น.ส.ชลธิชา แจ้งเร็ว ผู้ประสานงานกลุ่มฟื้นฟูประชาธิปไตย ยื่นหนังสื่อถึง ผู้กำกับการ สน.ชนะสงคราม เพื่อขออนุญาตจัดกิจกรรมดังกล่าว ซึ่งผู้กำกับฯ เห็นว่า ไม่ใช่การชุมนุมตามนัยยะตามกม.ชุมนุม เนื่องจากเป็นการชุมนุมทางการเมือง เป็นกิจกรรมที่ต้องห้าม ตามคำสั่งคสช. ที่ 3/2558
หลังจากนั้น พล.ต.อ.จักรทิพย์ ชัยจินดา ผบ.ตร. มอบหมาย พล.ต.อ.ศรีวราห์ รังสิพรามณกุล รอง ผบ.ตร. ดูแลในภาพรวม จัดกำลังตำรวจ 20 กองร้อย ประมาณ 3,000 นาย ที่มาปฏิบัติหน้าที่ โดยเฝ้าระวังมือที่สาม ที่อาจทำให้สถานการณ์บานปลาย
"เมื่อวันที่ 21 พ.ค. ที่ผ่านมา ฝ่ายกฎหมายคสช. ได้ไปแจ้งความร้องทุกข์กล่าวโทษต่อพนักงานสอบสวน สน.ชนะสงคราม เพื่อให้ดำเนินคดีกับแกนนำ 6 คน ในข้อหาร่วมกันมั่วสุม โดยไม่ได้รับอนุญาตจากหัวหน้าคสช. หรือผู้ได้รับมอบหมาย" พ.ต.อ.กฤษณะ กล่าว
แฉจ้าง"ฮาร์ดคอร์"หัวละพัน รอป่วน
ส่วนที่ทำเนียบรัฐบาล ผู้สื่อข่าวรายงานว่า พล.ต.อ.ศรีวราห์ รังสิพราหมณกุล รอง ผบ.ตร. และ พล.ต.ต.สุรเชษฐ์ หักพาล รองผู้บัญชาการตำรวจท่องเที่ยว ( ผบช.ทท.) เข้ามาสั่งการดูแลความเรียบร้อยด้วยตัวเอง โดยเฉพาะ พล.ต.อ.ศรีวราห์ ได้เข้ารายงานการดูแลสถานการณ์ ให้พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี และรมว.กลาโหม รับทราบ โดยรายงานว่า "ทุกอย่างเป็นไปอย่างเรียบร้อย เจ้าหน้าที่ทุกฝ่ายทำหน้าที่อย่างดี และได้กำชับให้เจ้าหน้าที่ทุกคนยึดกฎหมายเป็นหลัก"
พล.ต.อ.ศรีวราห์ กล่าวด้วยว่า ศาลปค. ได้ยกคำร้องคุ้มครองคนอยากเลือกตั้ง ที่จะเคลื่อนขบวนมาทำเนียบฯแล้ว ดังนั้นหลังจากนี้เจ้าหน้าที่ตำรวจจะบังคับใช้กม. ร้อยเปอร์เซ็นต์
สำหรับความเคลื่อนไหวของกลุ่มฮาร์ดคอร์ ขณะนี้ก็ยังมีอยู่ ซึ่งก่อนหน้านี้มีการนำอาวุธสงครามมาทิ้งที่ จ.นนทบุรี แต่ยังไม่สามารถระบุได้ว่า จะเชื่อมโยงกับผู้ชุมนุม แต่รับประกันไม่ได้ว่า จะไม่มีพวกฮาร์ดคอร์ แฝงตัวมากับผู้ชุมนุม
"เมื่อวานได้รับรายงานจากตำรวจภูธรภาค 1 ว่า มีการจ้างฮาร์ดคอร์ เสื้อแดง จ.สมุทรปราการ หัวละพัน และได้กำชับไปแล้วว่า คุณมาชุมนุมตามรัฐธรรมนูญ อย่าให้ผิดกฎหมายก็แล้วกัน ผมไม่ทราบว่าการชุมนุมมีนักการเมืองอยู่เบื้องหลังหรือไม่ ยังไม่ได้รับรายงานเรื่องดังกล่าว" รองผบ.ตร. กล่าว
แกนนำม็อบมอบตัว-ยุติการชุมนุม
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ในช่วงบ่าย แกนนำส่วนหนึ่งได้ไป ที่สะพานมัฆวานรังสรรค์ โดยน.ส.ณัฏฐา มหัทธนา, นายเอกชัย หงส์กังวาน, น.ส.ปิยรัตน์ จงเทพ และนายอานนท์ นำภา แกนนำ ได้นำมวลชนส่วนหนึ่งรวมตัวเพื่อเดินทางไปยังทำเนียบรัฐบาล ก่อนจะถูกตำรวจตั้งจุดสกัดไม่ให้เข้าในพื้นที่ ต่อมา น.ส.ณัฏฐา ได้อ่านแถลงการณ์ของกลุ่ม บริเวณจุดกั้น โดยพล.ต.อ.จักรทิพย์ ชัยจินดา ผบ.ตร. และ พล.ต.ท.ชาญเทพ เสสะเวช ผบช.น. ได้เดินทางมาฟังด้วยตัวเอง และเมื่อแกนนำอ่านแถลงการณ์จบ น.ส.ณัฏฐา, นายเอกชัย, น.ส.ปิยรัตน์ จงเทพ และ นายอานนท์ ได้ยอมมอบตัวต่อตำรวจ ซึ่งต่อมาถูกควบคุมตัวไปยัง สน.พญาไท
ขณะที่บริเวณหน้า ม.ธรรมศาสตร์ ท่าพระจันทร์ กลุ่มคนอยากเลือกตั้ง ซึ่งนำโดย นายรังสิมันต์ โรม และ นายสิรวิชญ์ เสรีธิวัฒน์ ที่ชุมนุมกันตั้งแต่ช่วงเช้า เพื่อจะเดินไปยังทำเนียบรัฐบาล แต่ต่อมาเมื่อเวลา 15.35 น. ได้ยอมมอบตัวต่อตำรวจแล้ว พร้อมประกาศสลายการชุมนุมทันที ซึ่งทั้งหมดถูกควบคุมตัวไปยัง สน.ชนะสงคราม
ตร.แจ้ง 3 ข้อหาแกนนำคนอยากลต.
พล.ต.อ.ศรีวราห์ เดินทางมายัง สน.พญาไท โดยกล่าวว่า ตำรวจมีการคุมตัวแกนนำที่ สน.พญาไท และ สน.ชนะสงคราม รวม 13 คน เบื้องต้นได้เร่งพนักงานสอบสวนทำบันทึกการจับกุมให้แล้วเสร็จ และแจ้งข้อกล่าวหากับกลุ่มแกนนำ 3 ข้อหา เบื้องต้นคาดว่าพนักงานสอบสวนจะสอบปากคำตลอดทั้งคืน หากทำการสอบสวนเสร็จสิ้น จะคุมตัวแกนนำ ทั้ง 14 ไปขออำนาจศาลเพื่อทำการฝากขัง ในส่วนของพนักงานสอบสวนได้คัดค้านการประกันตัว เนื่องจากก่อเหตุลักษณะดังกล่าวมาหลายครั้ง
"บิ๊กตู่"ยันเลือกตั้งต้นปี 62 ไม่ไวกว่านั้น
พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และหัวหน้า คสช. กล่าวถึงกลุ่มคนอยากเลือกตั้ง ที่ชุมนุมเรียกร้องให้จัดการเลือกตั้งในเดือนพ.ย.นี้ ว่า ก็เรียกร้องไป ท่านอ้างว่าเป็นการเรียกร้องตามรธน. แต่กม.มีอยู่ ว่าให้เรียกร้องได้ตรงไหน ที่ไหน กม.การชุมนุมว่าอย่างไร ก็ไปว่ากันมาให้ครบ
"ผมบอกแล้วว่าเป็นไปตามขั้นตอนของผม คือต้นปี 62 ไม่มีเร็วกว่านั้น ผมก็ต้องยืนยันในหลักการของผม ที่มันล่าช้าไป 3-4 เดือนเป็นเรื่องความพร้อมของกฎหมาย เรื่องการประท้วงอะไรตอนนี้ ก็พยายามผ่อนผันให้ ไม่ปิดกั้น ซึ่งมีการแสดงออกหลายครั้ง รัฐบาลก็รับมาพิจารณา แต่เขาก็ยังทำต่อไปเรื่อยๆ แต่อย่าลืมว่ากม.มีอยู่ทุกฉบับ พ.ร.บ.ต่างๆ เยอะแยะไปหมด แล้ววันนี้ศาลปกครองสูงสุด ก็ตัดสินมาแล้วเป็นการปฏิบัติหน้าที่ของเจ้าหน้าที่ตามกม. ถ้าไม่ปฏิบัติเจ้าหน้าที่ก็โดนละเว้น ใครมาเดินก็ไม่ได้ ถ้ามันผิดกม. ไม่ว่าจะฝ่ายไหนก็แล้วแต่จะสนับสนุนหรือไม่สนับสนุนรธน. มันผิดกม. ทั้งหมด "
ยูเอ็น เรียกร้องปล่อยตัวแกนนำ
ขณะที่สำนักงานข้าหลวงใหญ่เพื่อสิทธิมนุษยชนแห่งสหประชาติ ประจำภูมิภาค โพสต์ภาพและข้อความบนเฟซบุ๊ก UN Human Rights-Asia ระบุว่า ระหว่างวันที่ 21 ถึง 22 พฤษภาคม สำนักงานข้าหลวงใหญ่เพื่อสิทธิมนุษยชนแห่งสหประชาชาติร่วมกับหน่วยงานอื่นๆ ของสหประชาชาติ สังเกตการณ์ชุมนุมอย่างสงบที่จัดโดย “กลุ่มคนอยากเลือกตั้ง” ซึ่งเป็นกลุ่มนักกิจกรรมทางการเมืองและนักกิจกรรมรุ่นใหม่ที่ได้จัดการชุมนุมอย่างต่อเนื่องเรียกร้องให้จัดการเลือกตั้งปลายปี 2561
โดยผู้สังเกตการณ์ของสหประชาชาติได้ประสานงานและพูดคุยกับผู้จัดการชุมนุม และเจ้าหน้าที่จากสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ผู้แทน “เครือข่ายสังเกตการณ์และการบันทึกการชุมนุมสาธารณะเพื่อสิทธิมนุษยชน” ซึ่งเป็นเครือข่ายภาคประชาสังคมที่สำนักงานข้าหลวงใหญ่ฯ ทำงานร่วมอย่างใกล้ชิดได้ลงพื้นที่สังเกตการณ์เช่นเดียวกัน การชุมนุมครั้งนี้ที่มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ท่าพระจันทร์ จัดขึ้นเพื่อรำลึกสีปีรัฐประหารวันที่ 22 พฤษภาคม 2557 ในตอนเย็นเจ้าหน้าที่ตำรวจจับกุมผู้นำของกลุ่มฯ และนักกิจกรรมจำนวนสิบเอ็ดคน พวกเขาจะถูกนำตัวไปที่สถานีตำรวจชนะสงคราม แกนนำห้าคนได้ถูกร้องทุกข์โดย คสช. ว่าละเมิดคำสั่งที่ 3/2558 ที่ห้ามการชุมนุมทางการเมืองเกินห้าคน สำนักงานข้าหลวงใหญ่เพื่อสิทธิมนุษยชนแห่งสหประชาชาติเรียกร้องให้ปล่อยตัวนักกิจกรรมเหล่านี้โดยผลัน
ทั้งนี้ สำนักงานฯ ได้เรียกร้องรัฐบาลไทยอย่างต่อเนื่องให้เคารพสิทธิในการแสดงความคิดเห็นและชุมนุมอย่างสงบในฐานะที่เป็นรัฐภาคีกับกติการะหว่างประเทศว่าด้วยสิทธิทางการเมืองและพลเมือง
วานนี้ (22 พ.ค.) ผู้สื่อข่าวรายงานความเคลื่อนไหว การชุมนุมของกลุ่มคนอยากเลือกตั้ง ที่นำโดยนายรังสิมันต์ โรม และนายสิริวิชญ์ เสรีธิวัฒน์ ซึ่งได้ปักหลักค้างคืนที่ ม.ธรรมศาสตร์ ท่าพระจันทร์ โดยแกนนำได้กำหนดว่าจะเคลื่อนขบวนออกจากม.ธรรมศาสตร์ ไปยังทำเนียบรัฐบาล ในเวลา 09.00 น. ขณะที่เจ้าหน้าที่ตำรวจ ได้ตรึงกำลัง สังเกตการณ์ ที่ฝั่งสนามหลวงตลอดทั้งคืน
ขณะที่ศาลปกครองกลาง มีคำสั่งไม่รับคำฟ้อง และให้จำหน่ายคดีออกจากสารบบความ กรณีนายอานนท์ นำภา และน.ส.ชลธิชา แจ้งเร็ว แกนนำกลุ่มคนอยากเลือกตั้ง ยื่นคำร้องขอให้ศาลฯ มีคำสั่งคุ้มครองชั่วคราวผู้ชุมนุมคนอยากเลือกตั้ง ในการเดินเท้าไปที่ทำเนียบรัฐบาล ไม่ให้เจ้าหน้าที่ตำรวจทหาร และเจ้าหน้าที่ฝ่ายมั่นคงทำการขัดขวาง ตั้งแต่ เวลา 06.00 - 18.00 น.
ต่อมาเวลา 08.45 น. เจ้าหน้าที่ตำรวจได้ประกาศผ่านเครื่องขยายเสียงให้กลุ่มผู้ชุมนุมรับทราบว่า เจ้าพนักงานดูแลการชุมนุมสาธารณะ สน.ชนะสงคราม ประกาศให้ยกเลิกการชุมนุมที่หน้า ม.ธรรมศาสตร์ และการเดินขบวนไปยังทำเนียบรัฐบาล เนื่องจากพบว่าฝ่าฝืนกฎหมาย เป็นการชุมนุมทางการเมืองโดยไม่ได้รับอนุญาตจากคสช. ต่อมา คสช.ได้ร้องทุกข์กล่าวโทษกับผู้ชุมนุม ในข้อหาชุมนุมทางการเมืองเกิน 5 คนขึ้นไป โดยไม่ได้รับอนุญาต อันเป็นการฝ่าฝืนคำสั่ง คสช. ที่ 3/2558
อย่างไรก็ตาม กลุ่มผู้ชุมนุมได้ตั้งแถว เตรียมเคลื่อนขบวนออกจาก ม.ธรรมศาสตร์ ไปตาม ถ.ราชดำเนิน เพื่อไปยังทำเนียบรัฐบาล แต่เจ้าหน้าที่ยังคงวางกำลังขวางไว้อย่างแน่นหนา ทำให้ไม่สามารถเคลื่อนขบวนได้
จนกระทั่งเวลา ประมาณ10.45 น. กลุ่มผู้ชุมนุม ยอมถอยกลับเข้าไปใน ม.ธรรมศาสตร์ เนื่องจากเจ้าหน้าที่ วางกำลังแน่นหนา โดยกลุ่มผู้ชุมนุมได้ต่อรอง ขอเคลื่อนขบวนไปถึง แค่อนุสาวรีย์ประชาธิปไตย เพื่ออ่านแถลงการณ์
คสช.ดำเนินคดี 6 แกนนำม็อบ
ส่วนที่กองบัญชาการกองทัพบก พล.ต.ปิยพงศ์ กลิ่นพันธุ์ ผู้บัญชาการมณฑลทหารบกที่ 11 (มทบ11) ในฐานะ ทีมคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) พร้อมด้วย พ.ต.อ.กฤษณะ พัฒนเจริญ รองโฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติ (สตช.) ร่วมกัน แถลงถึงการดูแลสถานการณ์การชุมนุมกลุ่มคนอยากเลือกตั้ง โดยพ.ต.อ.กฤษณะ กล่าวว่า ตามที่น.ส.ชลธิชา แจ้งเร็ว ผู้ประสานงานกลุ่มฟื้นฟูประชาธิปไตย ยื่นหนังสื่อถึง ผู้กำกับการ สน.ชนะสงคราม เพื่อขออนุญาตจัดกิจกรรมดังกล่าว ซึ่งผู้กำกับฯ เห็นว่า ไม่ใช่การชุมนุมตามนัยยะตามกม.ชุมนุม เนื่องจากเป็นการชุมนุมทางการเมือง เป็นกิจกรรมที่ต้องห้าม ตามคำสั่งคสช. ที่ 3/2558
หลังจากนั้น พล.ต.อ.จักรทิพย์ ชัยจินดา ผบ.ตร. มอบหมาย พล.ต.อ.ศรีวราห์ รังสิพรามณกุล รอง ผบ.ตร. ดูแลในภาพรวม จัดกำลังตำรวจ 20 กองร้อย ประมาณ 3,000 นาย ที่มาปฏิบัติหน้าที่ โดยเฝ้าระวังมือที่สาม ที่อาจทำให้สถานการณ์บานปลาย
"เมื่อวันที่ 21 พ.ค. ที่ผ่านมา ฝ่ายกฎหมายคสช. ได้ไปแจ้งความร้องทุกข์กล่าวโทษต่อพนักงานสอบสวน สน.ชนะสงคราม เพื่อให้ดำเนินคดีกับแกนนำ 6 คน ในข้อหาร่วมกันมั่วสุม โดยไม่ได้รับอนุญาตจากหัวหน้าคสช. หรือผู้ได้รับมอบหมาย" พ.ต.อ.กฤษณะ กล่าว
แฉจ้าง"ฮาร์ดคอร์"หัวละพัน รอป่วน
ส่วนที่ทำเนียบรัฐบาล ผู้สื่อข่าวรายงานว่า พล.ต.อ.ศรีวราห์ รังสิพราหมณกุล รอง ผบ.ตร. และ พล.ต.ต.สุรเชษฐ์ หักพาล รองผู้บัญชาการตำรวจท่องเที่ยว ( ผบช.ทท.) เข้ามาสั่งการดูแลความเรียบร้อยด้วยตัวเอง โดยเฉพาะ พล.ต.อ.ศรีวราห์ ได้เข้ารายงานการดูแลสถานการณ์ ให้พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี และรมว.กลาโหม รับทราบ โดยรายงานว่า "ทุกอย่างเป็นไปอย่างเรียบร้อย เจ้าหน้าที่ทุกฝ่ายทำหน้าที่อย่างดี และได้กำชับให้เจ้าหน้าที่ทุกคนยึดกฎหมายเป็นหลัก"
พล.ต.อ.ศรีวราห์ กล่าวด้วยว่า ศาลปค. ได้ยกคำร้องคุ้มครองคนอยากเลือกตั้ง ที่จะเคลื่อนขบวนมาทำเนียบฯแล้ว ดังนั้นหลังจากนี้เจ้าหน้าที่ตำรวจจะบังคับใช้กม. ร้อยเปอร์เซ็นต์
สำหรับความเคลื่อนไหวของกลุ่มฮาร์ดคอร์ ขณะนี้ก็ยังมีอยู่ ซึ่งก่อนหน้านี้มีการนำอาวุธสงครามมาทิ้งที่ จ.นนทบุรี แต่ยังไม่สามารถระบุได้ว่า จะเชื่อมโยงกับผู้ชุมนุม แต่รับประกันไม่ได้ว่า จะไม่มีพวกฮาร์ดคอร์ แฝงตัวมากับผู้ชุมนุม
"เมื่อวานได้รับรายงานจากตำรวจภูธรภาค 1 ว่า มีการจ้างฮาร์ดคอร์ เสื้อแดง จ.สมุทรปราการ หัวละพัน และได้กำชับไปแล้วว่า คุณมาชุมนุมตามรัฐธรรมนูญ อย่าให้ผิดกฎหมายก็แล้วกัน ผมไม่ทราบว่าการชุมนุมมีนักการเมืองอยู่เบื้องหลังหรือไม่ ยังไม่ได้รับรายงานเรื่องดังกล่าว" รองผบ.ตร. กล่าว
แกนนำม็อบมอบตัว-ยุติการชุมนุม
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ในช่วงบ่าย แกนนำส่วนหนึ่งได้ไป ที่สะพานมัฆวานรังสรรค์ โดยน.ส.ณัฏฐา มหัทธนา, นายเอกชัย หงส์กังวาน, น.ส.ปิยรัตน์ จงเทพ และนายอานนท์ นำภา แกนนำ ได้นำมวลชนส่วนหนึ่งรวมตัวเพื่อเดินทางไปยังทำเนียบรัฐบาล ก่อนจะถูกตำรวจตั้งจุดสกัดไม่ให้เข้าในพื้นที่ ต่อมา น.ส.ณัฏฐา ได้อ่านแถลงการณ์ของกลุ่ม บริเวณจุดกั้น โดยพล.ต.อ.จักรทิพย์ ชัยจินดา ผบ.ตร. และ พล.ต.ท.ชาญเทพ เสสะเวช ผบช.น. ได้เดินทางมาฟังด้วยตัวเอง และเมื่อแกนนำอ่านแถลงการณ์จบ น.ส.ณัฏฐา, นายเอกชัย, น.ส.ปิยรัตน์ จงเทพ และ นายอานนท์ ได้ยอมมอบตัวต่อตำรวจ ซึ่งต่อมาถูกควบคุมตัวไปยัง สน.พญาไท
ขณะที่บริเวณหน้า ม.ธรรมศาสตร์ ท่าพระจันทร์ กลุ่มคนอยากเลือกตั้ง ซึ่งนำโดย นายรังสิมันต์ โรม และ นายสิรวิชญ์ เสรีธิวัฒน์ ที่ชุมนุมกันตั้งแต่ช่วงเช้า เพื่อจะเดินไปยังทำเนียบรัฐบาล แต่ต่อมาเมื่อเวลา 15.35 น. ได้ยอมมอบตัวต่อตำรวจแล้ว พร้อมประกาศสลายการชุมนุมทันที ซึ่งทั้งหมดถูกควบคุมตัวไปยัง สน.ชนะสงคราม
ตร.แจ้ง 3 ข้อหาแกนนำคนอยากลต.
พล.ต.อ.ศรีวราห์ เดินทางมายัง สน.พญาไท โดยกล่าวว่า ตำรวจมีการคุมตัวแกนนำที่ สน.พญาไท และ สน.ชนะสงคราม รวม 13 คน เบื้องต้นได้เร่งพนักงานสอบสวนทำบันทึกการจับกุมให้แล้วเสร็จ และแจ้งข้อกล่าวหากับกลุ่มแกนนำ 3 ข้อหา เบื้องต้นคาดว่าพนักงานสอบสวนจะสอบปากคำตลอดทั้งคืน หากทำการสอบสวนเสร็จสิ้น จะคุมตัวแกนนำ ทั้ง 14 ไปขออำนาจศาลเพื่อทำการฝากขัง ในส่วนของพนักงานสอบสวนได้คัดค้านการประกันตัว เนื่องจากก่อเหตุลักษณะดังกล่าวมาหลายครั้ง
"บิ๊กตู่"ยันเลือกตั้งต้นปี 62 ไม่ไวกว่านั้น
พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และหัวหน้า คสช. กล่าวถึงกลุ่มคนอยากเลือกตั้ง ที่ชุมนุมเรียกร้องให้จัดการเลือกตั้งในเดือนพ.ย.นี้ ว่า ก็เรียกร้องไป ท่านอ้างว่าเป็นการเรียกร้องตามรธน. แต่กม.มีอยู่ ว่าให้เรียกร้องได้ตรงไหน ที่ไหน กม.การชุมนุมว่าอย่างไร ก็ไปว่ากันมาให้ครบ
"ผมบอกแล้วว่าเป็นไปตามขั้นตอนของผม คือต้นปี 62 ไม่มีเร็วกว่านั้น ผมก็ต้องยืนยันในหลักการของผม ที่มันล่าช้าไป 3-4 เดือนเป็นเรื่องความพร้อมของกฎหมาย เรื่องการประท้วงอะไรตอนนี้ ก็พยายามผ่อนผันให้ ไม่ปิดกั้น ซึ่งมีการแสดงออกหลายครั้ง รัฐบาลก็รับมาพิจารณา แต่เขาก็ยังทำต่อไปเรื่อยๆ แต่อย่าลืมว่ากม.มีอยู่ทุกฉบับ พ.ร.บ.ต่างๆ เยอะแยะไปหมด แล้ววันนี้ศาลปกครองสูงสุด ก็ตัดสินมาแล้วเป็นการปฏิบัติหน้าที่ของเจ้าหน้าที่ตามกม. ถ้าไม่ปฏิบัติเจ้าหน้าที่ก็โดนละเว้น ใครมาเดินก็ไม่ได้ ถ้ามันผิดกม. ไม่ว่าจะฝ่ายไหนก็แล้วแต่จะสนับสนุนหรือไม่สนับสนุนรธน. มันผิดกม. ทั้งหมด "
ยูเอ็น เรียกร้องปล่อยตัวแกนนำ
ขณะที่สำนักงานข้าหลวงใหญ่เพื่อสิทธิมนุษยชนแห่งสหประชาติ ประจำภูมิภาค โพสต์ภาพและข้อความบนเฟซบุ๊ก UN Human Rights-Asia ระบุว่า ระหว่างวันที่ 21 ถึง 22 พฤษภาคม สำนักงานข้าหลวงใหญ่เพื่อสิทธิมนุษยชนแห่งสหประชาชาติร่วมกับหน่วยงานอื่นๆ ของสหประชาชาติ สังเกตการณ์ชุมนุมอย่างสงบที่จัดโดย “กลุ่มคนอยากเลือกตั้ง” ซึ่งเป็นกลุ่มนักกิจกรรมทางการเมืองและนักกิจกรรมรุ่นใหม่ที่ได้จัดการชุมนุมอย่างต่อเนื่องเรียกร้องให้จัดการเลือกตั้งปลายปี 2561
โดยผู้สังเกตการณ์ของสหประชาชาติได้ประสานงานและพูดคุยกับผู้จัดการชุมนุม และเจ้าหน้าที่จากสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ผู้แทน “เครือข่ายสังเกตการณ์และการบันทึกการชุมนุมสาธารณะเพื่อสิทธิมนุษยชน” ซึ่งเป็นเครือข่ายภาคประชาสังคมที่สำนักงานข้าหลวงใหญ่ฯ ทำงานร่วมอย่างใกล้ชิดได้ลงพื้นที่สังเกตการณ์เช่นเดียวกัน การชุมนุมครั้งนี้ที่มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ท่าพระจันทร์ จัดขึ้นเพื่อรำลึกสีปีรัฐประหารวันที่ 22 พฤษภาคม 2557 ในตอนเย็นเจ้าหน้าที่ตำรวจจับกุมผู้นำของกลุ่มฯ และนักกิจกรรมจำนวนสิบเอ็ดคน พวกเขาจะถูกนำตัวไปที่สถานีตำรวจชนะสงคราม แกนนำห้าคนได้ถูกร้องทุกข์โดย คสช. ว่าละเมิดคำสั่งที่ 3/2558 ที่ห้ามการชุมนุมทางการเมืองเกินห้าคน สำนักงานข้าหลวงใหญ่เพื่อสิทธิมนุษยชนแห่งสหประชาชาติเรียกร้องให้ปล่อยตัวนักกิจกรรมเหล่านี้โดยผลัน
ทั้งนี้ สำนักงานฯ ได้เรียกร้องรัฐบาลไทยอย่างต่อเนื่องให้เคารพสิทธิในการแสดงความคิดเห็นและชุมนุมอย่างสงบในฐานะที่เป็นรัฐภาคีกับกติการะหว่างประเทศว่าด้วยสิทธิทางการเมืองและพลเมือง