MGR Online - “ศรีวราห์” บัญชาเองการ สั่งดำเนินการม็อบอยากเลือกตั้งแล้ว 6 คน ห้ามพักแรมค้างบนถนนโดยเด็ดขาด ย้ำใช้ฝ่าฝืนคำสั่ง คสช. ไม่เปิดแนวกั้นให้ผู้ชุมนุมเดินขบวนไปทำเนียบรัฐบาล
วันนี้ (22 พ.ค.) เวลา 13.10 น. ที่ สน.ชนะสงคราม พล.ต.อ.ศรีวราห์ รังสิพราหมณกุล รอง ผบ.ตร. เปิดเผยถึงสถานการณ์การชุมนุมของมวลชนกลุ่มม็อบอยากเลือกตั้งบริเวณมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ท่าพระจันทร์ โดยยืนยันว่าเจ้าหน้าที่ตำรวจผ่อนผันเท่าที่จะทำได้ แต่ต้องไม่กระทบส่งผลต่อส่วนรวม หากฝ่าฝืนก็ต้องบังคับใช้กฎหมายเด็ดขาด หากผู้ชุมนุมจะพักค้างแรมที่มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ก็ขึ้นอยู่กับทางมหาวิทยาลัยว่าจะอนุญาตหรือไม่ แต่จะพักค้างแรมกลางถนนไม่ได้เด็ดขาด และหากผู้ชุมนุมฝ่าฝืนฝ่าแนวกั้นของเจ้าหน้าที่ออกไปก็จะต้องดำเนินการจับกุมทันที รวมถึงจะประสานเจ้าหน้าที่ตำรวจที่ถูกผู้ชุมนุมทำร้ายเมื่อช่วงสายที่ผ่านมาให้เข้าแจ้งความด้วย
อย่างไรก็ตาม พล.ต.อ.ศรีวราห์ยังได้ติดตามความคืบหน้ากรณีที่ฝ่ายกฎหมายของ คสช.ได้เข้าแจ้งความต่อพนักงานสอบสวน สน.ชนะสงคราม ให้ดำเนินการต่อแกนนำผู้ชุมนุม 6 คน แล้ว ประกอบด้วย นายรังสิมันต์ โรม, นายสิรวิชญ์ เสรีธิวัฒน์, นายเอกชัย หงส์กังวาน, น.ส.ปิยรัตน์ จงเทพ, น.ส.ณัฐฐา มหัทธนา, นายนิกร วิทยาพันธ์ ในข้อหาฝ่าฝืนคำสั่งหัวหน้า คสช.ที่ 3/2558 ห้ามชุมนุมเกิน 5 คนขึ้นไปนั้น ขณะนี้สอบปากคำพยานไปแล้ว 2-3 ปาก และจะเร่งให้พนักงานสอบสวนออกหมายเรียกแกนนำทั้ง 6 คนเข้ารับทราบข้อกล่าวหาโดยเร็ว
ต่อมาเวลา 14.00 น. นายฐิติพงศ์ สมบูรณ์ศิลป์ ช่างเทคนิคสายอากาศ 4 แผนกก่อสร้างและบำรุงรักษาระบบจหน่าย กองบริการจำหน่าย การไฟฟ้านครหลวง เขตวัดเลียบ ได้เดินทางเข้าแจ้งความต่อ ร.ต.ท.หญิง กัญญา เปรมทา รอง สว.(สอบสวน) สน.ชนะสงคราม เพื่อดำเนินคดีต่อผู้ชุมนุม กรณีลักลอบต่อไฟหลวงไปใช้โดยไม่ได้รับอนุญาต มีความผิดฐานลักทรัพย์ในเวลากลางคืน ส่วนกรณีที่เจ้าหน้าที่พบการกระทำความผิดตัดโซ่คล้องประตูนั้นจะต้องทำหนังสือไปถึงอธิการบดีมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ให้เข้าแจ้งความในฐานะผู้เสียหายข้อหาทำให้เสียทรัพย์
อย่างไรก็ตาม สำหรับบรรยากาศการชุมนุมของมวลชนกลุ่มม็อบอยากเลือกตั้ง เจ้าหน้าที่ตำรวจกว่า 1,200 นายยังคงตรึงกำลัง บริเวณมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ท่าพระจันทร์ เพื่อปิดกั้นไม่ให้กลุ่มผู้ชุมนุมสนับสนุนการเลือกตั้งเคลื่อนไหวมวลชนออกจากมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ไปยังทำเนียบรัฐบาล โดยมีเจ้าหน้าที่ตำรวจกองร้อยน้ำหวาน หรือเจ้าหน้าที่ตำรวจควบคุมฝูงชนหญิงเป็นแนวหน้ากั้นผู้ชุมนุมไม่ให้ออกนอกพื้นที่ เพื่อหลีกเลี่ยงการปะทะกับผู้ชุมนุม และกำชับห้ามใช้อาวุธ และแก๊สน้ำตา ให้เจ้าหน้าที่ใช้ได้เพียงแค่โล่กับกระบองเท่านั้น พร้อมประชาสัมพันธ์ผ่านรถขยายเสียงขอให้ยุติการชุมนุมทันที เนื่องจากเป็นการฝ่าฝืนคำสั่ง คสช.เรื่องห้ามชุมนุมเกิน 5 คนขึ้นไป และความผิดตาม พ.ร.บ.ชุมนุมสาธารณะ และขอให้แกนนำหยุดปราศรัยในลักษณะยุยงปลุกปั่น
ด้าน พล.ต.ต.ภัคพงษ์ พงษ์เภตรา รอง ผบช.น.ระบุว่า เจ้าหน้าที่ตำรวจมีการประเมินสถานการณ์การชุมนุมอย่างต่อเนื่อง และยืนยันจะไม่เปิดแนวกั้นให้ผู้ชุมนุมเดินขบวนไปทำเนียบรัฐบาลโดยเด็ดขาด เนื่องจากการชุมนุมครั้งนี้เป็นการชุมนุมโดยผิดกฎหมาย ผู้กำกับการสถานีตำรวจท้องที่ระงับการขออนุญาตจัดกิจกรรมการชุมนุม และศาลปกครองก็ยกคำร้องคุ้มครองชั่วคราวผู้ชุมนุม ดังนั้น เมื่อเป็นการชุมนุมโดยผิดกฎหมาย เจ้าหน้าที่ตำรวจต้องดำเนินการทุกอย่างตามขั้นตอนของกฎหมาย หากกฎหมายให้อำนาจจับกุมใครก็ต้องดำเนินการตามกฎหมาย
