ศูนย์ข่าวศรีราชา-ส.ผู้ประกอบการขนส่งแหลมฉบังชลบุรี กดดันรัฐเร่งแก้ไขปัญหาราคาน้ำมัน โดยให้ยกเลิกกองทุนน้ำมันและภาษีสรรพสามิต ลงกึ่งหนึ่ง เพื่อลดผลกระทบต้นทุนการผลิตที่สูงขึ้น ขณะที่แม่ค้าข้าวแกงเมืองศรีราชา โอด ต้องแบกรับต้นทุนแก๊สและวัตถุดิบที่เพิ่มสูงขึ้น โดยยังไม่ปรับขึ้นราคาขาย
วันนี้ ( 28 พ.ค.) ผู้สื่อข่าวได้รับการเปิดเผยจาก นางสุนีย์ ภูติวณิชย์ นายกสมาคมผู้ประกอบการขนส่งแหลมฉบังชลบุรี เกี่ยวกับสถานการณ์ราคาน้ำมันและแก๊สที่ปรับตัวสูงขึ้นว่า ไม่เพียงแต่จะส่งผลกระทบต่อผู้ประกอบการขนส่งสินค้าเป็นอย่างมากเท่านั้น แต่ในส่วนของภาคประชาชนก็จะได้รับผลกระทบจากการปรับขึ้นของต้นทุนการขนส่งสินค้า และการผลิตด้วยเช่นกัน
โดยในส่วนของผู้ประกอบการขนส่งในพื้นที่แหลมฉบัง นอกจากจะได้รับผลกระทบจากระยะเวลาด้านการเดินทาง จากปัญหาการจราจรติดขัดจากการเข้ารับตู้สินค้าภายในท่าเรือแหลมฉบัง และการคืนตู้สินค้าด้านนอกท่าเรือ ที่ต้องเสียเวลาจอดคอยนานแล้ว พลังงานน้ำมันที่ต้องเผาผลาญโดยเปล่าประโยชน์ก็คือต้นทุนที่ผู้ประกอบการต้องแบกรับภาระ
เช่นเดียวกับการเก็บค่าธรรมเนียมผ่านทางมอเตอร์เวย์สาย 7 (ชลบุรี-พัทยา ) ส่งผลให้การจราจรติดขัดเป็นระยะทางยาว ซึ่งเป็นการเพิ่มภาระค่าใช้จ่ายให้กับผู้ประกอบการ ไม่น้อยไปกว่าการปรับราคาค่าแรงขั้นต่ำที่เพิ่มสูงขึ้น ก็ส่งผลกระทบต่อต้นทุนการผลิต อีกทั้งเมื่อรัฐบาลปรับราคาค่าน้ำมันและแก๊สก็ยิ่งทำให้ต้นทุนการผลิตสูงขึ้นอย่างฉุดไม่อยู่
นางสุนีย์ กล่าวต่อไปว่า ปัญหาที่เกิดขึ้นในขณะนี้ผู้ประกอบการขนส่งสินค้าต้องการให้รัฐบาลยกเลิกกองทุนน้ำมัน เพื่อคืนกำไรให้กับประชาชนได้นำเงินดังกล่าวมาใช้ ซึ่งไม่ใช่นำเงินกองทุนดังกล่าวไปอุดหนุนก๊าซ NGV. หรือ LPG โดยรัฐบาลไม่ต้องไปช่วยเหลือหรืออุดหนุนสินค้าตัวไหน แต่ควรปล่อยให้เป็นไปตามกลไกตลาด และควรลดภาษีสรรพสามิตน้ำมันลงครึ่งหนึ่ง เพื่อเป็นการช่วยเหลือประชาชนให้ได้ใช้น้ำมันในราคาที่ถูกลงเกือบ 10 บาท
นางสุนีย์ กล่าวว่า หากข้อเรียกร้องต่างๆ ที่ผู้ประกอบการขนส่งเสนอต่อรัฐบาลมีการแก้ไขล่าช้า ผู้ประกอบการก็จะยกระดับการเรียกร้องให้สูงขึ้น แต่จะทำอย่างไรนั้นยังไม่สามารถเปิดเผยได้ แต่จะรอให้ถึงวันนั้นก่อน
แม่ค้าโอด จำต้องแบกรับต้นทุนผลิตที่สูงขึ้น
ด้าน น.ส.ประดิษฐา ศรีเมือง แม่ค้าขายข้าวแกงในตลาดศรีราชา กล่าวว่า ราคาน้ำมันและแก๊สที่ปรับราคาสูงขึ้นนั้น ส่งผลกระทบต่อต้นทุนค้าขายอย่างแน่นอน เพราะเมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมาราคาก๊าซหุงต้มถังขนาด 11 กก. เดิมเคยซื้ออยู่ที่ราคาถังละ 360 บาท ก็ขยับเป็นราคา 410 บาท ส่วนข้าวสารถุงละ 5 กก. ก็ปรับราคาขึ้นแล้วถุงละ 10-15 บาท
“ ขณะนี้ราคาขายข้าวและกับข้าวถุง ยังขายในราคาปกติและปริมาณเท่าเดิม ส่วนราคาวัตถุดิบที่ปรับสูงขึ้นนั้นทางร้าน ต้องขอแบกรับไว้ก่อน เพื่อไม่ให้กระทบต่อผู้บริโภค ซึ่งปริมาณสินค้าที่ทำออกมาขายก็ยังจำหน่ายได้ตามปกติ และยังมีลูกค้ามาซื้อเช่นเคย แต่หากวันไหนฝนตกลูกค้าก็จะลดน้อยลง”น.ส.ประดิษฐา กล่าว