xs
xsm
sm
md
lg

อธิบดีอุทยานฯ นำปลูกต้นไม้ “บ้านป่าแหว่ง”-เครือข่ายดอยสุเทพนำคนเชียงใหม่ร่วมสร้างฝาย ย้ำต้อง “รื้อ”

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: MGR Online


ศูนย์ข่าวเชียงใหม่ - อธิบดีกรมอุทยานแห่งชาติฯ นำปลูกต้นไม้ “บ้านป่าแหว่ง” ระบุพร้อมรับหน้าเสื่อฟื้นฟู ส่วนผนวกอุทยานฯ ต้องให้มีนโยบายและข้อสั่งการชัดเจน ขณะที่เครือข่ายขอคืนพื้นที่ป่าดอยสุเทพ และชาวเชียงใหม่ร่วมเฉพาะสร้างฝาย พร้อมประกาศย้ำจุดยืนต้องรื้อบ้านพักและอาคารชุดออกไปให้พ้นผืนป่าแล้วเร่งฟื้นฟู เผยรอเกือบเดือนแล้วการตั้งคณะกรรมการ 2 ชุดยังไร้ความคืบหน้า ขีดเส้นอีก 1 สัปดาห์หากยังนิ่งเฉยเชื่อว่าตั้งใจยื้อ เตรียมล้มการเจรจาแล้วเดินหน้าเคลื่อนไหวใหญ่



วันนี้ (27 พ.ค. 61) ที่บริเวณโครงการบ้านพักข้าราชการศาลอุทธรณ์ภาค 5 ตำบลดอนแก้ว อำเภอแม่ริม จังหวัดเชียงใหม่ นายธัญญา เนติธรรมกุล อธิบดีกรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่าและพันธุ์พืช กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม เป็นประธานเปิดกิจกรรมโครงการประชารัฐร่วมใจปลูกต้นไม้ให้แผ่นดินตามนโยบายรัฐบาล เนื่องในวันต้นไม้แห่งชาติ โดยนำประชาชน , นักเรียน นักศึกษา และทุกภาคส่วนที่เกี่ยวข้องในจังหวัดเชียงใหม่เข้าร่วมเพื่อเป็นการสร้างความตระหนักในการอนุรักษ์ทรัพยากรป่าไม้และส่งเสริมให้มีการปลูกป่า รวมถึงฟื้นฟูสภาพธรรมชาติให้มีความสมบูรณ์ และเสริมสร้างความร่วมมืออันดีระหว่างภาครัฐกับประชาชนในการรักษาทรัพยากรธรรมชาติ

ทั้งนี้ การจัดกิจกรรมครั้งนี้ทางเครือข่ายขอคืนพื้นที่ป่าดอยสุเทพ พร้อมชาวเชียงใหม่จำนวนมากได้เข้าร่วมด้วย ในส่วนของกิจกรรมการสร้างฝายชะลอน้ำ ซึ่งอธิบดีกรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่าและพันธุ์พืช พร้อมคณะได้ร่วมสร้างฝายด้วย



โดยช่วงก่อนที่จะมีพิธีเปิดงานนั้น ทางชมรมร่มบินเชียงใหม่ที่ร่วมเป็นเครือข่ายขอคืนพื้นที่ป่าดอยสุเทพได้นำร่มบินนับสิบลำขึ้นบินเหนือบริเวณใกล้เคียงศาลอุทธรณ์ภาค 5 ซึ่งทุกลำมีการติดผ้าสีเขียวที่เป็นสัญลักษณ์การเคลื่อนไหวและจุดยืนของเครือข่ายที่ต้องการให้มีการรื้อบ้านพักและอาคารชุดออกไปจากบริเวณดังกล่าวและเร่งทำการฟื้นฟูสภาพป่าเชิงดอยสุเทพ โดยร่มบินลำหนึ่งมีการติดป้ายผ้าที่เขียนข้อความว่า “รื้อ” ไว้ ขณะที่ก่อนเริ่มลงมือสร้างฝาย ทางเครือข่ายและชาวเชียงใหม่ยังได้ร่วมกันชูป้ายเขียนข้อความและแสดงพลังเรียกร้องให้มีการรื้อบ้านพักและอาคารชุดก่อนที่จะทำการฟื้นฟูสภาพป่าด้วย


อธิบดีกรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่าและพันธุ์พืชเปิดเผยว่า กิจกรรมครั้งนี้ทางกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมได้มอบหมายให้กรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่าและพันธุ์พืชดำเนินการร่วมกับประชาชน เครือข่าย และผู้เกี่ยวข้องทุกภาคส่วน โดยในส่วนของศาลอุทธรณ์ภาค 5 ยังไม่ได้มีการส่งมอบพื้นที่จึงสามารถดำเนินการได้เพียงบางส่วนที่ได้รับมอบหมายให้เข้ามาดำเนินการ โดยสภาพพื้นที่ดังกล่าวเป็นป่าเต็งรัง ชนิดไม้ที่ปลูก เช่น คำมอกหลวง, คูน, อินทนิล, ทองกวาว, พะยอม มะขามป้อม และพลวง เป็นต้น และมีกิจกรรมปลูกหญ้าแฝกเพื่อการอนุรักษ์หน้าดิน สร้างฝายชะลอน้ำ

สำหรับการดำเนินการฟื้นฟูสภาพพื้นที่ในอนาคต รวมทั้งแนวคิดผนวกให้เป็นพื้นที่อุทยานแห่งชาติฯ นั้น เบื้องต้นทางกรมอุทยานฯ มีความพร้อมและยินดีที่จะดำเนินการ อย่างไรก็ตาม ต้องให้คณะกรรมการเพื่อฟื้นฟูสภาพแวดล้อม และคณะกรรมการดำเนินการกับสิ่งก่อสร้างเพื่อให้พื้นที่เป็นป่าสมบูรณ์ดังเดิม ที่จะมีการแต่งตั้งขึ้นพิจารณาก่อนว่าควรจะดำเนินการฟื้นฟูอย่างไรและให้หน่วยงานใดรับผิดชอบดูแล นำเสนอให้รัฐบาลตัดสินใจ ซึ่งหากมีนโยบายและคำสั่งการชัดเจน ทางกรมอุทยานฯ พร้อมที่จะดำเนินการทันที ทั้งนี้ การพิจารณาตัดสินใจและดำเนินการใดๆ รวมทั้งการรื้อถอนสิ่งปลูกสร้างนั้น จะต้องทำอย่างรอบคอบ ซึ่งโดยส่วนตัวในส่วนของสิ่งปลูกสร้างนั้นมองว่าไม่จำเป็นต้องรื้อเสมอไป เพราะอาจนำไปใช้ประโยชน์อย่างอื่นได้ แต่การตัดสินใจทั้งหมดต้องขึ้นอยู่กับคณะกรรมการ


ด้านนายธีระศักดิ์ รูปสุวรรณ ผู้ประสานงานเครือข่ายขอคืนพื้นที่ป่าดอยสุเทพ เปิดเผยว่า รู้สึกดีใจที่ชาวเชียงใหม่และตัวแทนทุกภาคส่วนจำนวนมากเข้าร่วมกิจกรรมการสร้างฝายกับทางเครือข่าย เพื่อเป็นการประกาศเจตนารมณ์และยืนยันสิทธิ์ว่าพื้นที่ป่าบริเวณนี้เป็นของชาวเชียงใหม่ ไม่ใช่พื้นที่ที่จะนำมาก่อสร้างบ้านพักหรือที่อยู่อาศัยของคนแค่บางกลุ่ม ซึ่งเป็นปัญหาที่จะต้องเร่งแก้ไขโดยเร็ว

ทั้งนี้ ในการจัดกิจกรรมครั้งนี้ทางเครือข่ายไม่ได้ร่วมปลูกต้นไม้ด้วย เนื่องจากไม่เห็นด้วยกับการปลูกต้นไม้รอบอาคาร เพราะมองว่าการฟื้นฟูสภาพป่าจะสามารถทำได้อย่างสมบูรณ์เต็มรูปแบบก็ต่อเมื่อมีการรื้อสิ่งปลูกสร้างออกไปแล้วเท่านั้น อย่างไรก็ตาม ยังถือว่าเป็นจุดเริ่มที่ดี และหลังมีการส่งมอบพื้นที่คืนแล้วน่าจะมีการทำกิจกรรมต่างๆ ได้มากขึ้น

สำหรับความคืบหน้าการแต่งตั้งคณะกรรมการเพื่อฟื้นฟูสภาพแวดล้อม และคณะกรรมการดำเนินการกับสิ่งก่อสร้างเพื่อให้พื้นที่เป็นป่าสมบูรณ์ดังเดิม ตามข้อตกลงที่มีร่วมกับรัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรีตั้งแต่เมื่อวันที่ 6 พ.ค.นั้น ผู้ประสานงานเครือข่ายขอคืนพื้นที่ป่าดอยสุเทพเปิดเผยว่า ทางเครือข่ายได้มีการเฝ้าติดตามและสอบถามความคืบหน้าในเรื่องนี้อย่างต่อเนื่อง แต่ปรากฏว่ายังไม่มีการแต่งตั้ง

ล่าสุดทราบว่าอยู่ระหว่างการรอให้ปลัดกระทรวงมหาดไทยลงนามแต่งตั้ง ซึ่งจากนี้จะรอเวลาอีก 1 สัปดาห์ หากยังนิ่งเฉยและไม่มีการแต่งตั้งเชื่อว่าน่าจะสรุปได้ว่าทางรัฐบาลต้องการยื้อ และคงไม่มีความจำเป็นใดๆ ที่จะต้องเจรจากันอีกแล้ว โดยทางเครือข่ายจะมีการเคลื่อนไหวใหญ่อีกครั้งและจะทำอย่างเข้มข้นยิ่งขึ้น เพื่อแสดงให้เห็นพลังของชาวเชียงใหม่ว่ารู้สึกเจ็บปวดต่อเรื่องนี้มากเพียงใดและจะปกป้องดอยสุเทพอย่างเต็มกำลังให้ถึงที่สุด ส่วนรูปแบบและวิธีการยังไม่ขอเปิดเผยโดยต้องให้เป็นมติของทางเครือข่าย


กำลังโหลดความคิดเห็น