ศูนย์ข่าวเชียงใหม่ - เครือข่ายขอคืนพื้นที่ป่าดอยสุเทพ ปักธงสีเขียวผืนใหญ่ 6 จุด ทั่วตัวเมืองเชียงใหม่ ประกาศเกาะติดปัญหาบ้านป่าแหว่งจนกว่าจะมีการรื้อถอนออกไปและฟื้นฟูสภาพป่า วอนนักกฎหมายช่วยชี้ช่องรื้ออย่างถูกกฎหมาย
วันนี้ (21 พ.ค.) ที่บริเวณรูปปั้นช้าง แจ่งกู่เฮือง คูเมืองด้านนอก ในตัวเมืองเชียงใหม่ เครือข่ายขอคืนพื้นที่ป่าดอยสุเทพ ร่วมกันทำการปักเสาสูงประมาณ 4 เมตร และขึ้นธงสีเขียวผืนใหญ่ พร้อมข้อความ “จนกว่าจะรื้อ” เพื่อเป็นการประกาศและเน้นย้ำจุดยืนว่าชาวเชียงใหม่ยังคงเฝ้าติดตามความคืบหน้าการดำเนินการแก้ไขปัญหากรณีโครงการก่อสร้างบ้านพักข้าราชการตุลาการศาลอุทธรณ์ภาค 5 บนพื้นที่ป่าเชิงดอยสุเทพ อย่างใกล้ชิดต่อเนื่องจนกว่าจะมีการรื้อถอนสิ่งปลูกสร้างออกไป ซึ่งเป็นความต้องการและเจตนารมณ์ที่ชาวเชียงใหม่ร่วมกันประกาศไว้เพื่อปกป้องรักษาดอยสุเทพ
นายธีระศักดิ์ รูปสุวรรณ ผู้ประสานงานเครือข่ายขอคืนพื้นที่ป่าดอยสุเทพ เปิดเผยว่า การปักธงสีเขียวผืนใหญ่ในครั้งนี้ ทำพร้อมกัน 6 จุดสำคัญทั่วเมืองเชียงใหม่ ได้แก่ แจ่งกู่เฮือง, ประตูช้างเผือก, สะพานนวรัฐ, สะพานนครพิงค์, กาดต้นพะยอม และศาลอุทธรณ์ภาค 5 ทั้งนี้เพื่อเป็นการแสดงออกว่าชาวเชียงใหม่จะเฝ้าติดตามความคืบหน้าการแก้ไขปัญหากรณีโครงการก่อสร้างบ้านพักข้าราชการตุลาการศาลอุทธรณ์ภาค 5 บนพื้นที่ป่าเชิงดอยสุเทพ อย่างต่อเนื่องไปจนกว่าจะมีการคืนพื้นที่ป่าดอยสุเทพ พร้อมรื้อถอนบ้านพักออกไป และฟื้นฟูให้กลับมามีสภาพป่าสมบูรณ์ดังเดิม
ขณะเดียวกัน ระบุว่าตราบใดที่ยังไม่มีการรื้อถอนบ้านพักและอาคารชุดออกไปจากพื้นที่ย่อมไม่สามารถดำเนินการฟื้นฟูป่าได้ และป่าจะไม่มีทางสมบูรณ์ได้เลย ดังนั้นจึงอยากวิงวอนขอความเห็นใจจากทางรัฐบาลในการเร่งแก้ไขปัญหานี้ เพราะถือเป็นบาดแผลในใจชาวเชียงใหม่ โดยเชื่อว่ารัฐบาลมีนักกฎหมายที่มีความเชี่ยวชาญ น่าจะสามารถหาช่องทางทำให้การรื้อถอนถูกต้องตามกฎหมายได้ พร้อมกันนี้อยากขอนักกฎหมายทั่วประเทศให้ข้อแนะนำในเรื่องนี้กับทางเครือข่ายด้วย
สำหรับความคืบหน้าการดำเนินการแก้ไขปัญหานั้น คาดว่าภายในสัปดาห์นี้น่าจะมีการแต่งตั้งคณะกรรมการคณะกรรมการเพื่อฟื้นฟูสภาพแวดล้อม และคณะกรรมการดำเนินการกับสิ่งก่อสร้างเพื่อให้พื้นที่เป็นป่าสมบูรณ์ ตามที่ได้ตกลงร่วมกันไว้กับรัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เพื่อแก้ไขปัญหากรณีนี้ หลังจากที่ก่อนหน้านี้ติดขัดปัญหาข้อกฎหมาย ขณะที่ในวันที่ 27 พ.ค. 61 ทางมณฑลทหารบกที่ 33 จะนำทำกิจกรรมปลูกป่าในพื้นที่โครงการเป็นการฟื้นฟูเบื้องต้น โดยที่ทางเครือข่ายและชาวเชียงใหม่จะเข้าร่วมปลูกป่า พร้อมสร้างฝายชะลอน้ำด้วย เพื่อเป็นยืนยันสิทธิและเน้นย้ำว่าพื้นที่ป่าตรงนั้นจำเป็นต้องได้รับการฟื้นฟู