ศูนย์ข่าวเชียงใหม่ - อุทยานแห่งชาติดอยสุเทพ-ปุย ร่วมกับเครือข่ายเชียงใหม่เขียว สวย หอม, สโมสรนักเขียนเชียงใหม่ และชุมชนนักจัดกิจกรรมภาคเหนือ รวมทั้งเครือข่ายขอคืนพื้นที่ป่าดอยสุเทพ จัดกิจกรรมนำเด็ก เยาวชน และประชาชนร่วมสำรวจความอุดมสมบูรณ์และความหลากหลายของพืชพันธุ์ป่าดอยสุเทพรอบพื้นที่โครงการก่อสร้างบ้านพักข้าราชการตุลาการศาลอุทธรณ์ภาค 5 ปลูกฝังจิตสำนึกการอนุรักษ์ พร้อมเก็บเมล็ดพันธุ์นำไปเพาะเตรียมขยายพันธุ์
วันนี้ (20 พ.ค. 61) ที่อ่างเก็บน้ำแม่จอกหลวง โครงการชลประทานเชียงใหม่ ต.ดอนแก้ว อ.แม่ริม จ.เชียงใหม่ อุทยานแห่งชาติดอยสุเทพ-ปุย ร่วมกับเครือข่ายเชียงใหม่เขียว สวย หอม, สโมสรนักเขียนเชียงใหม่ และชุมชนนักจัดกิจกรรมภาคเหนือ รวมทั้งเครือข่ายขอคืนพื้นที่ป่าดอยสุเทพ จัดกิจกรรมสำรวจป่าเชิงดอยสุเทพ โดยนำคณะนักเรียนจากโรงเรียนบ้านเชิงดอยสุเทพ และจิตอาสา จำนวนรวมประมาณ 40 คน เข้าทำการสำรวจพื้นที่ป่าเขตอุทยานแห่งชาติดอยสุเทพ-ปุย ที่บริเวณอ่างเก็บน้ำแม่จอกหลวง ระยะทางประมาณ 2 กิโลเมตร ซึ่งเป็นจุดที่อยู่ใกล้กับพื้นที่ก่อสร้างบ้านพักตุลาการศาลอุทธรณ์ภาค 5 เพื่อทำการเก็บข้อมูลพืชพรรณไม้และสภาพพื้นที่ป่าในพื้นที่ และนำพันธุ์ไม้ที่มีอยู่ในพื้นที่มาทำการเพาะพันธุ์และอนุรักษ์ไว้ให้คงอยู่สืบไป
น.ส.จิราภรณ์ มีวาสนา นักวิชาการป่าไม้ เปิดเผยว่า จากการที่ในช่วงนี้มีฝนตกมาอย่างต่อเนื่อง ทำให้มีพืชพันธุ์ไม้ในพื้นที่ป่าเต็งรังและพื้นที่ป่าเบญจพรรณ ซึ่งจากการเดินสำรวจเบื้องต้นพบว่ามีไม้ผลบางชนิดเริ่มให้ผลผลิต ซึ่งเป็นผลไม้ป่าที่มีหลากหลายชนิด และบางชนิดก็กำลังออกดอก ดังนั้นจึงได้มีการพูดคุยกับทางแกนนำของเครือข่ายเขียว สวย หอม เพื่อจัดกิจกรรมพาคนเดินสำรวจป่า
โดยมีการนำเด็กนักเรียนและชาวบ้านในพื้นที่เข้าร่วมกันสำรวจ โดยในส่วนของเด็กๆ ก็มีกิจกรรมที่ให้ฝึกการสังเกตตั้งแต่ไม้พื้นล่าง ไปจนถึงไม้ยืนต้น และเรือนยอดว่ามีอะไรที่เปลี่ยนแปลงในป่า เนื่องจากความสำคัญของป่านั้นจะต้องมีไม้ทุกกลุ่มประเภท หมายถึงทุกไม้เรือนยอดซึ่งจะไม่ใช้เฉพาะไม้ยืนต้นเพียงเท่านั้น ขณะเดียวกัน ระบบนิเวศจะฟื้นฟูได้จะต้องคำนึงถึงองค์ประกอบทุกมิติของป่า ส่วนการเดินสำรวจพื้นที่ป่าวันนี้ก็พบพืชกลุ่มกระเจียว ซึ่งเป็นพืชที่สามารถนำมาทำเป็นอาหารได้ รวมไปถึงเห็ดที่ขึ้นในช่วงนี้
บรรดาเด็ก เยาวชน และประชาชนจิตอาสาที่ร่วมกิจกรรมนี้ ได้มีการประดิษฐ์กระป๋องบรรจุเมล็ดพันธุ์ในป่าจากขวดน้ำเปล่า และได้ร่วมกันเก็บเมล็ดพันธุ์ต่างๆ ที่พบระหว่างทาง ซึ่งมีหลากหลายรูปทรง ขนาด และหลังจากการจัดกิจกรรมเดินสำรวจในครั้งนี้แล้วก็จะมีการคัดเมล็ดไม้ โดยในสัปดาห์หน้าก็จะมีการจัดโครงการนำเมล็ดไม้ที่เก็บได้ไปเพาะ ดังนั้น เด็กๆ รวมไปถึงผู้เข้าร่วมกิจกรรมก็จะได้รู้ขั้นตอนต่างๆ และจะได้มีความรู้ในการเพาะกล้าไม้เป็น ซึ่งเชื่อมั่นว่าหากลงมือทำตั้งแต่การผลิต เก็บเพาะจนเป็นกล้า และนำไปปลูกจะมีจิตวิญญาณ รวมถึงความรักความผูกพันในต้นไม้จะซึมซับมาจากการกระทำ และถ้าหากไม่เริ่มต้นที่เด็ก หรือเยาวชนในวันนี้ก็จะไม่เกิดการปลูกฝัง
