xs
xsm
sm
md
lg

หนุ่มแท็กซี่หัวร้อนหัวหินเข้าพบตำรวจพร้อมยอมรับผิดทุกกรณี วอนสังคมเข้าใจตนไม่ใช่มาเฟีย

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: MGR Online


ประจวบคีรีขันธ์ - หนุ่มแท็กซี่หัวร้อนเดินทางเข้าพบตำรวจหัวหิน พร้อมยอมรับผิดทุกกรณีที่ก่อเหตุต่อยสาวโรงแรม วอนสังคมเข้าใจตนไม่ใช่มาเฟีย ทำคลิปขึ้นมาแชร์เล่นกันในกลุ่มแท็กซี่ แต่คลิปหลุดออกไปทำให้สังคมเข้าใจผิด ครอบครัวและญาติพี่น้องถูกกระแสสังคมถล่ม ด้านสาวโรงแรมเดินทางเข้าพบพนักงานสอบสวนพร้อมยืนยันให้ดำเนินคดีตามกฎหมาย สภาพจิตใจตอนนี้รู้สึกไม่ปลอดภัย

ความคืบหน้า กรณีหนุ่มแท็กซี่หัวร้อน ก่อเหตุทำร้ายร่างกาย นางสาวศศิวิมล ศรีคำ พนักงานต้อนรับโรงแรมแห่งหนึ่งในหมู่บ้านเขาตะเกียบ ขณะเดินผ่านคิวแท็กซี่ และได้มีการพูดจากระทบกระทั่งกันจนนางสาวศศิวิมล ได้รับบาดเจ็บที่ศีรษะ และปาก โดยหนุ่มแท็กซี่ที่ก่อเหตุรายนี้เป็นคนเดียวกับชายในคลิปที่ประกาศกระทืบผู้ให้บริการแกร๊บไบค์แกร๊บคาร์ ที่เข้ามาอำเภอหัวหิน โดยเหตุการณ์นี้เกิดเมื่อช่วงหัวค่ำวานนี้ และได้มีการแจ้งความต่อตำรวจ สถานีตำรวจภูธรหัวหิน

ล่าสุดวันนี้(วันที่ 26 พ.ค. 61) พันตำรวจเอกธนากร วงศ์สิริลักษณ์ ผู้กำกับการสถานีตำรวจภูธรหัวหิน,ร้อยตำรวจเอกวายุ อุ่นภักดิ์ รองสารวัตรสอบสวน สภ.หัวหิน เจ้าของคดี ได้เชิญตัวนายจักกฤช หรือ ก้อง พึ่งเจาะ อายุ 38 ปี อาชีพคนขับรถแท็กซี่คิวเขาตะเกียบมาสอบปากคำ และรับทราบข้อกล่าวหา โดยนายก้อง หนุ่มแท็กซี่หัวร้อน ยอมรับสารภาพว่าเป็นลงมือก่อเหตุทำร้ายร่างกายนางสาวศศิวิมลจริง

โดยยอมรับผิดทุกข้อกล่าวหา ภายหลังจากสอบปากคำ พนักงานสอบสวนได้ตั้งข้อกล่าวหา ทำร้ายร่างกายผู้อื่นโดยไตรตรองไว้ก่อน และปล่อยตัวไป เนื่องจากนายจักกฤช ยอมรับสารภาพและเป็นข้อกล่าวไม่ร้ายแรง จากนั้นจะนัดมาฟ้องศาลหัวหินในวันต่อไป ทั้งนี้มีเพื่อนร่วมอาชีพแท็กซี่เดินทางมาให้กำลังใจเป็นจำนวนมาก

นายจักกฤช กล่าวว่า วันนี้เดินทางมาพบเจ้าหน้าที่ตำรวจเพื่อรับทราบข้อกล่าวหา และยอมรับผิดในสิ่งที่ตนเองทำลงไป แต่อยากวอนขอความเห็นใจ ไม่ให้เหมารวมว่าหัวหินเป็นบ้านป่าเมืองเถื่อน หรือเป็นเมืองที่มีมาเฟีย เป็นความผิดของตนเพียงคนเดียว สำหรับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเมื่อคืนนี้ เมื่อเห็นนางสาวศศิวิมลเดินมา ตนก็พูดว่า เดินดีๆนะ แต่กลับถูกนางสาวศศิวิมลชี้หน้าและกล่าวหาว่าตนข่มขู่ และมีการพูดจาโต้เถียงกัน ตนเองขาดความยับยั้งชั่งใจ จึงก่อเหตุทำร้ายนางสาวศศิวิมล ลงไป ยอมรับว่าตนเองมีความคับแค้นใจที่รถรับจ้างที่เรียกผ่านแอพลิเคชั่น แกร๊บ ซึ่งเป็นรถรับจ้างผิดกฎหมายมาให้บริการในพื้นที่ แย่งลูกค้าแท็กซี่ อยู่ก่อนแล้ว และจำได้ว่านางสาวศศิวิมล เคยแสดงความคิดเห็นเรื่องรถรับจ้างที่เรียกผ่านแอพลิเคชั่น แกร๊บ ด้วย

ทั้งนี้ตนอยากขอความเป็นธรรมกับสังคม ตนไม่ใช่มาเฟีย หรือนักเลง คลิปที่ถูกเผยแพร่ในโซเชียล เป็นคลิปที่ทำขึ้นเพื่อระบายความในใจ และแชร์กันเล่นๆในกลุ่มแท็กซี่ แต่มีคนนำคลิปไปส่งในเพจเฟชบ๊ก จนเป็นเป็นเรื่องราวใหญ่โต ซึ่งหลังจากคลิปดังกล่าวหลุดออกไป ตนก็โดนกระแสสังคมโจมตีอย่างหนัก มีการโทรมาด่า ข่มขู่ตนเองและครอบครัวอย่างเสียหาย และตนเองก็ไม่มีโอกาสได้อธิบายความเป็นจริง จนตนเองรู้สึกเครียดเป็นอย่างมาก ส่วนกรณีที่มีการกล่าวหาว่าตนเองตามหาตัวนางสาวศศิวิมลที่ไปคอมเม้นท์เข้าข้างแกร๊บ นั้น ตนไม่เคยตามหาใดๆทั้งสิ้น และไม่รู้จักกันมากก่อน ทั้งนี้หากมีโอกาสเจอหน้านางสาวศศิวิมล ก็พร้อมเข้าไปขอโทษ

ต่อมาเวลา 12.00 น.วันเดียวกัน นางสาวศศิวิมล ศรีขำ พนักงานโรงแรม ผู้ได้รับบาดเจ็บ ได้เดินทางเข้าพบเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.หัวหิน เพื่อสอบปากคำ โดยก่อนเข้าให้ปากคำ นางสาวศศิวิมล ได้เปิดเผยกับผู้สื่อข่าวว่า วันนี้ทางตำรวจนัดมาให้ปากคำเรื่องที่เกิดขึ้น สำหรับอาการบาดเจ็บที่ศีรษะ กระพุ้งแก้ม และริมฝีปาก วันนี้รู้สึกดีขึ้น แต่ยังมีอาการบวมอยู่ สามารถทำงานได้ตามปกติ

พร้อมเล่าถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเมื่อคืนนี้ ตนได้ถามแท็กซี่คนก่อเหตุว่า เดินดีๆเป็นอย่างไร เป็นการข่มขู่กันหรือไม่ เพราะตนจำได้ว่าชายคนนี้คือคนในคลิปที่ประกาศกระทืบแกร๊บคาร์ แกร๊บไบค์ อีกทั้งมีคนบอกว่าชายคนนี้ตามหาตัวตนเองที่ไปคอมเม้นท์เรื่องแกร๊บคาร์อยู่ จากนั้นแท็กซี่คนดังกล่าวก็เข้ามาต่อยจนล้มหัวฟาดพื้น

เมื่อได้สติตนรู้สึกว่าที่ปากมีน้ำไหลออกมาจึงยกโทรศัพท์ขึ้นถ่ายภาพตนเอง ก็เห็นว่ามาเลือดไหล จึงได้เดินทางไปแจ้งความและทำแผลที่โรงพยาบาลหัวหิน เมื่อเช้านี้ตำรวจแจ้งว่าผู้ก่อเหตุจะเข้ามาขอโทษแต่ตนเองยังยืนยันให้ดำเนินคดีตามกฎหมาย ขณะนี้สภาพจิตใจดีขึ้น แต่ก็รู้สึกไม่ปลอดภัยเพราะต้องเดินผ่านบริเวณคิวรถแท็กซี่นั้นทุกวัน แต่หากจะลาออกก็จะส่งผลกระทบกับโรงแรม และเรื่องที่เกิดขึ้นก็ไม่เกี่ยวข้องกับงานที่ทำอยู่

สำหรับกรณีความขัดแย้งระหว่างรถแท็กซี่ และรถรับจ้างที่เรียกผ่านระบบแอพลิเคชั้น แกร๊บ ขณะนี้ทางตำรวจหัวหิน ได้แจ้งให้ทางรถแกร๊บ หยุดให้บริการไปก่อน พร้อมกันนี้จะเรียกประชุมผู้เกี่ยวข้องทุกฝ่าย ทั้งฝ่ายผู้ประกอบการรถแท็กซี่ รถแกร๊บ ตำรวจ ทหาร ขนส่ง เพื่อกำหนดแนวทางการปฏิบัติให้ชัดเจน




กำลังโหลดความคิดเห็น