xs
xsm
sm
md
lg

โล่งตา! สายไฟฟ้ารอบวัดร่องขุ่นลงดินเสร็จสมบรูณ์ กฟภ.เปิดจ่ายกระแสไฟผ่านเคเบิลใต้ดินแห่งแรกของประเทศ(ชมคลิป)

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: MGR Online


เชียงราย - กฟภ. นำสายไฟหน้าวัดร่องขุ่นลงดินเสร็จสิ้นพร้อมเปิดใช้กระแสไฟฟ้าได้สมบูรณ์แล้ว ด้าน อ.เฉลิมชัย คาดหวังรูปแบบเดียวกันที่หอนาฬิกากลางเมืองเชียงราย โดย กฟภ. ระบุ อยู่ระหว่างปรับงบประมาณคาดลงดินได้หมดพร้อม 4 เมืองหลักทั่วประเทศ



วันนี้ (25 พ.ค.) ที่วัดร่องขุ่น ต.ป่าอ้อดอนชัย อ.เมืองเชียงราย จ.เชียงราย นายเอกชัย ศักดิ์ทัศนา รองผู้ว่าการการไฟฟ้าส่วนภูมิภาค (กฟภ.) เป็นประธานในพิธีเปิดการจ่ายกระแสไฟฟ้าผ่านระบบเคเบิลใต้ดินเป็นแห่งแรกของประเทศไทย ณ บริเวณหน้าวัดร่องขุ่น โดยมี นายสัมฤทธิ์ สวามิภักดิ์ ปลัด จ.เชียงราย อาจารย์เฉลิมชัย โฆษิตพิพัฒน์ ศิลปินแห่งชาติชาวเชียงราย ผู้สร้างศิลปะวัดร่องขุ่น พร้อมหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเข้าร่วม

โดยระบบเคเบิลใต้ดินดังกล่าว ดำเนินการโดย กฟภ. ภายใต้การสนับสนุนของสำนักโยธาธิการและผังเมือง จ.เชียงราย ใช้งบประมาณทั้งสิ้น 31,445,000 บาท เมื่อแล้วเสร็จพบว่าทำให้บริเวณหน้าวัดไม่มีสิ่งบดบังทัศนียภาพที่งดงามของวัดโดยเฉพาะอุโบสถขาวที่ตั้งเด่นเป็นสง่าอยู่หน้าวัดสร้างความประทับใจให้กับผู้พบเห็นโดยเฉพาะนักท่องเที่ยวที่ไปเยือน

นายเอกชัย เปิดเผยว่า นโยบายการบริหารของ กฟภ. ให้ความสำคัญกับชุมชน สังคม และสิ่งแวดล้อม โดยมีแผนจะนำระบบไฟฟ้าใต้ดินไปใช้ในเมืองหลักของประเทศ คือ จ.เชียงใหม่ จ.นครราชสีมา เมืองพัทยา และ อ.หาดใหญ่ จ.สงขลา เพื่อให้เกิดทัศนียภาพที่สวยงามและส่งเสริมการท่องเที่ยว

สำหรับ จ.เชียงราย ถือเป็นแห่งแรกโดยมีการรื้อถอนเสาไฟฟ้าคอนกรีตจำนวน 29 ต้น รื้อถอนสายไฟฟ้าแรงสูงเหนือดินระยะทาง 1,150 วงจรเมตร รื้อถอนสายไฟฟ้าแรงต่ำเหนือดิน ระยะทาง 400 วงจรเมตร จากนั้นติดตั้งสายไฟฟ้าเคเบิลใต้ดินแรงสูงระยะทาง 1,785 วงจรเมตร ติดตั้งสายไฟฟ้าเคเบิลใต้ดินแรงต่ำ ระยะทาง 555 วงจรเมตร ก่อนจะก่อสร้างบ่อพักสายไฟฟ้าแรงสูงจำนวน 6 บ่อและแรงต่ำจำนวน 23 บ่อ

นายเอกชัย กล่าวว่า การดำเนินการดังกล่าวใช้ระยะเวลา 365 วัน หรือ 1 ปีจนแล้วเสร็จเมื่อวันที่ 25 เม.ย. ที่ผ่านมา และมีการเปิดใช้งานอย่างเป็นทางการในวันนี้ดังกล่าว ซึ่งก็พบว่าบริเวณด้านหน้าวัดมีความงดงามและนักท่องเที่ยวสามารถถ่ายภาพวัดร่องขุ่นซึ่งได้ชื่อว่าเป็นวัดที่ได้รับการจัดอันดับให้สวยงามที่สุดเป็นอันดับที่ 3 ของโลกได้โดยไม่มีสิ่งบดบังได้อย่างชัดเจน

ทั้งนี้ แผนงานต่อไปคือการดำเนินการในอีก 4 เมืองหลักดังกล่าว ซึ่งแม้จะไม่ครบทุกจังหวัดแต่ก็จะพยายามขยายต่อไปให้มากที่สุดโดยเฉพาะขั้นตอนต่อไปคือที่ถนนบรรพปราการ บริเวณหอนาฬิกา อ.เมืองเชียงราย ซึ่งก็อยู่ในระหว่างการปรับงบประมาณ ซึ่งหากได้โอกาสก็จะดำเนินการอย่างรวดเร็วต่อไป

ด้าน อาจารย์เฉลิมชัย กล่าวว่า ตนรอคอยเวลานี้มานานกว่า 15 - 20 ปี ผ่านพ้นมาหลายรัฐบาลแล้ว เพราะที่ผ่านมาวัดร่องขุ่นมีการสร้างอย่างสวยงามทำให้มีนักท่องเที่ยวจากทั่วโลกไปเยือนเป็นจำนวนมากโดยเฉพาะช่วง 5 ปี หลังสุดพบว่ามีอย่างล้นหลาม แต่ปรากฏว่า บริเวณหน้าวัดกลับมีสายไฟที่สร้างทัศนะอุจาดระโยงระยางไปทั่ว สร้างความรกรุงรังและไม่งดงามเมื่อชาวต่างชาติถ่ายภาพออกไปเผยแพร่ทั่วโลกก็ทำให้เห็นได้อย่างชัดเจนและก่นด่ามายังตน ทำให้ตนเรียกร้องเรื่องนี้มาโดยตลอด

และภายในบริเวณวัดก็ใช้งบประมาณส่วนตัวนำสายไฟฟ้าลงดินแล้วทั้งหมด แต่หากเป็นถนนหน้าวัดแล้วตนทำไม่ได้ เพราะเป็นสถานที่ของทางราชการจึงต้องอาศัยหน่วยงานต่างๆ ดังกล่าว กระทั่งเมื่อมีการทำจนสำเร็จแล้วตนก็ขอขอบคุณทุกฝ่ายเป็นอย่างยิ่ง ซึ่งประโยชน์ที่ได้ก็ไม่ได้อยู่ที่ผู้ใด แต่อยู่กับประเทศชาติ และแผ่นดินไทย

อาจารย์เฉลิมชัย กล่าวอีกว่า ก่อนหน้านี้ วัดร่องขุ่นเคยถูกจัดอันดับให้เป็นสถานที่ท่องเที่ยวที่สวยงามเป็นอันดับ 5 ของโลก แต่เมื่อมีการนำสายไฟฟ้าลงดินไปแล้วปรากฏว่ามีการจัดอันดับจนปัจจุบันเราขึ้นมาอยู่ในอันดับที่ 3 แล้ว จึงถือว่าทุกฝ่ายได้ร่วมมือกันทำจนสำเร็จ ซึ่งทำให้ตนดีใจอย่างมาก

ทั้งนี้ ในปัจจุบันวัดร่องขุ่นมีนักท่องเที่ยวไปเยือนในช่วงฤดูฝน หรือโลว์ซีซันวันละประมาณ 2,200 - 2,600 คน แต่หากเป็นฤดูท่องเที่ยว หรือ ไฮซีซัน จะมากขึ้นถึงกว่า 3,000 - 4,000 คน และแต่ละปีก็มีจำนวนมหาศาล ซึ่งก็พบว่าผู้ไปเยือนช่วงนี้ต่างดีใจที่ไม่มีสิ่งบดบังหน้าวัดอีกต่อไป ตนจึงคาดหวังว่าต่อไปจะมีการดำเนินการต่อที่บริเวณหอนาฬิกาซึ่งก็มีความงดงามและมีนักท่องเที่ยวไปชมจำนวนมาก แต่ปัจจุบันก็มีสายไฟฟ้ารกรุงรังอย่างมากเช่นกันต่อไป.






กำลังโหลดความคิดเห็น