อุบลราชธานี - กองบินที่ 21 อุบลราชธานี รับมอบเครื่องบินโจมตี F5 E/F หลังปรับปรุงเสริมเขี้ยวเล็บให้มีเทคโนโลยีทันสมัย สู้กับเครื่องบินรบรุ่นใหม่ได้ แต่ราคาถูกกว่า 4-5 เท่า โดยเครื่องบินที่ปรับปรุงใหม่จะประจำการต่อในฝูงบินรบของไทยอีก 15 ปี ก่อนปลดประจำการ
วันนี้ (23 พ.ค. 61) ที่กองบินที่ 21 จ.อุบลราชธานี พล.อ.อ.จอม รุ่งสว่าง ผู้บัญชาการทหารอากาศ พร้อมคณะนายทหารชั้นผู้ใหญ่ของกองทัพอากาศ ร่วมทำพิธีสงฆ์รับมอบเครื่องบินขับไล่ไอพ่น F5 E/F หรือเครื่องบินแบบ 18 ข/ค ของกองทัพอากาศ ที่ได้รับการปรับปรุงใหม่ โดยเสริมสมรรถนะขีดความสามารถให้ใช้อาวุธสมัยใหม่ที่มีความแม่นยำ มีระยะการยิงได้ไกลขึ้น และติดตั้งระบบเรดาร์ใช้ตรวจจับเป้าหมายของศัตรูให้เหมาะสมกับภารกิจของเครื่องบินรบสมัยใหม่
การปรับปรุงเครื่องบินขับไล่ไอพ่นรุ่น F5 E/F มีจำนวนทั้งสิ้น 14 ลำ ระยะที่หนึ่งทำการปรับปรุงจำนวน 10 เครื่อง และระยะที่สองอีก 4 เครื่อง ซึ่งวันนี้ บริษัท ELBIS SYSTEM ที่รับผิดชอบปรับปรุงเสริมสมรรถนะทำการส่งมอบเครื่องบินรุ่น F5 F ที่ทำเสร็จแล้วให้กับ พล.อ.อ.จอม รุ่งสว่าง ผู้บัญชาการทหารอากาศ เพื่อนำกลับมาประจำการกับฝูงบินที่ 211 กองบินที่ 21 ใช้ในการปฏิบัติภารกิจปกป้องน่านฟ้าของประเทศ
วันเดียวกันนี้ ผู้บัญชาการทหารอากาศยังได้ร่วมกันประกอบพิธีเกียรติยศให้แก่เครื่องบินขับไล่โจมตี F5 E/F ซึ่งได้เข้ามาประจำการในประเทศไทยเป็นครั้งแรก ที่กองบิน 1 เมื่อปี พ.ศ. 2521 ในโอกาสที่ประจำการรับใช้ประเทศมาครบรอบ 40 ปี ในปี พ.ศ. 2561 ด้วย
พล.อ.อ.จอม รุ่งสว่าง ผู้บัญชาการทหารอากาศ กล่าวว่า การนำเครื่องบินขับไล่โจมตีแบบ 18 ข/ค หรือ F5 E/F ไปปรับปรุงใหม่ เพราะเครื่องบินรุ่นนี้ยังสามารถใช้ในการรบได้ตามรอบของอายุการใช้งานได้อีก 15 ปี เพียงแต่ต้องเสริมเทคโนโลยีให้ทันสมัยขึ้น เมื่อทำการปรับปรุงก็จะมีสมรรถนะขีดความสามารถเทียบเท่ากับเครื่องบินรบรุ่นใหม่อย่างเครื่องกริพเพน แต่มีราคาถูกกว่าการซื้อใหม่ 4-5 เท่า
กรณีเครื่องบินขับไล่และฝึกแบบที่ 1 (L-39 ZA/ART) สังกัดฝูงบิน 411 กองบิน 41 จังหวัดเชียงใหม่ ประสบอุบัติเหตุ ขณะทำการฝึกบินโจมตีทางยุทธวิธี บริเวณเขื่อนภูมิพล จังหวัดตาก เมื่อวานนี้ จนมีนักบินบาดเจ็บและเสียชีวิต ขณะนี้เจ้าหน้าที่อยู่ระหว่างตรวจสอบหาสาเหตุการตกอย่างละเอียด และยังบอกไม่ได้ว่าเครื่องตกด้วยเหตุใด เพราะเครื่องยังอยู่ในอายุการใช้งาน รวมทั้งนักบินผู้ควบคุมเครื่องก็เป็นนักบินชั้นเยี่ยม จึงต้องรอผลการตรวจหาสาเหตุจากผู้เชี่ยวชาญ
หลังเกิดเหตุ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี รวมทั้ง พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี และรมว.กลาโหม ได้สั่งกำชับมายังกองทัพอากาศให้ตรวจหาสาเหตุของเครื่องบินตกอย่างละเอียดรอบคอบ รวมทั้งให้ดูแลครอบครัวของนักบินที่เสียชีวิตและบาดเจ็บให้เป็นอย่างดีด้วย