อ่างทอง - พายุฤดูร้อนกระหน่ำทำหลังคาห้องฉุกเฉินโรงพยาบาลโพธิ์ทองพังได้รับความเสียหาย น้ำไหลท่วมนองพื้น ต้องเคลื่อนย้ายผู้ป่วยกันอลหม่าน ด้าน ผอ.เผยกำลังเร่งซ่อมแซมอย่างเร่งด่วนให้เสร็จทันใช้งาน
วันนี้ (22 พ.ค.) ที่โรงพยาบาลโพธิ์ทอง หมู่ที่ 4 ตำบลบางพลับ อำเภอโพธิ์ทอง จังหวัดอ่างทอง เจ้าหน้าที่เร่งดำเนินการซ่อมหลังคาโรงพยาบาล หลังได้รับผลกระทบจากพายุฤดูร้อนมีลมกระโชกแรง ได้พัดเอาหลังคากระเบื้องได้รับความเสียหายจากแรงของลมพายุ ประกอบกับมีฝนตกหนักลงมาในพื้นที่ ทำให้น้ำฝนที่ไหลลงไปในรางระบายน้ำของโรงพยาบาลเกิดระบายไม่ทัน น้ำฝนที่ตกลงมาเป็นปริมาณมากได้ไหลทะลักท่วมฝ้าเพดานของห้องฉุกเฉินโรงพยาบาลโพธิ์ทอง เมื่อช่วงเย็นวันที่ 21 พ.ค.ที่ผ่านมา จนฝ้าเพดานอุ้มน้ำไว้ไม่อยู่พังลงมาบางจุด โดยมีน้ำฝนไหลทะลักลงมาทำให้พื้นที่ในบริเวณห้องฉุกเฉินของโรงพยาบาลมีน้ำเจิ่งนอง ทางเจ้าหน้าที่ของโรงพยาบาลจึงต้องอพยพผู้ป่วยนำออกมารักษาทางด้านนอก โดยนำฉาก และแผ่นไวนิลที่ใช้ทำเป็นป้ายนำมากั้นเพื่อทำการรักษาผู้ป่วยฉุกเฉินเป็นการชั่วคราว
ด้าน นายประสาท ลิ่มดุล ผู้อำนวยการโรงพยาบาลโพธิ์ทอง กล่าวว่า ในช่วงเย็นของเมื่อวานที่ผ่านมา ได้เกิดมีลมพายุฤดูร้อน มีลมกระโชกแรงในหลายพื้นที่ ซึ่งมีปริมาณฝนที่ตกลงมาในพื้นที่ของจังหวัดอ่างทองเป็นจำนวนมาก ซึ่งโรงพยาบาลโพธิ์ทองได้รับผลกระทบอาคารของห้องฉุกเฉินเป็นอาคารที่ต่อเติมดัดแปลงมาจากตัวอาคารใหญ่ โดยมีส่วนรอยต่อของหลังคาที่เป็นช่วงของรางระบายน้ำ ซึ่งมีขนาดไม่ใหญ่มากนัก เนื่องด้วยปริมาณน้ำฝนที่ตกลงมาเป็นจำนวนมาก ทำให้น้ำฝนที่รอการระบายล้นรางระบายน้ำ และไหลทะลักเข้ามาบนฝ้าเพดานของห้องฉุกเฉิน และไหลทะลักลงมาในพื้นห้องฉุกเฉินจนไม่สามารถปฏิบัติงานได้
โดยในช่วงที่เกิดฝนตก ทางโรงพยาบาลจึงได้อพยพเคลื่อนย้ายผู้ป่วย และอุปกรณ์เครื่องมือทางการแพทย์ที่สำคัญนำเก็บไว้ในที่ปลอดภัย ส่วนผู้ป่วยได้เคลื่อนย้ายนำไปรักษาบริเวณห้องโถง ทางหน้าห้องฉุกเฉินเป็นการชั่วคราว โดยนำฉาก และป้ายแผ่นไวนิลนำมากั้นแบ่งเป็นสัดส่วน ในช่วงเช้านี้ได้ทำการเรียกช่างมาสำรวจจุดที่จำเป็นที่ต้องแก้ไข ซึ่งพยายามจะปรับใน 2 ส่วน คือ เพิ่มขนาดของช่องทางที่ใช้ระบายน้ำ และจะทำความสะอาดสิ่งสกปรกที่กีดขวางทางระบายน้ำออกให้หมด ซึ่งตนเองคิดว่าในส่วนของทางระบายน้ำในส่วนที่เป็นฝ้าเพดานของห้องฉุกเฉินจะให้ช่างดำเนินการซ่อมแซมให้แล้วเสร็จโดยเร็วที่สุด
เพื่อที่จะเปิดให้บริการฉุกเฉินแก่ประชาชนได้เหมือนเดิม เพราะการบริการของห้องฉุกเฉินของโรงพยาบาลชุมชนเป็นสิ่งที่สำคัญ ประชาชนที่มาใช้บริการจะได้รับความเดือดร้อน ซึ่งในช่วงระหว่างที่ทำการซ่อมแซมอาจจะทำให้ประชาชนได้รับความไม่สะดวกในการให้บริการในช่วงเวลาเช้า แต่จะพยายามดูแลให้ดีที่สุด ซึ่งจากการประเมินค่าเสียหายประมาณ 350,000 บาท
ทางด้าน นายวีร์รวุทธ์ ปุตระเศรณี ผู้ว่าราชการจังหวัดอ่างทอง ได้ลงพื้นที่ตรวจสอบ เบื้องต้น มีพื้นที่ที่ได้รับความเสียหาย ได้แก่ อำเภอเมือง มีบ้านเรือนได้รับความเสียหาย จำนวน 208 หลังคาเรือน ศูนย์ราชการมีต้นไม้ล้มทับรถยนต์ได้รับความเสียหาย 4 คัน อำเภอไชโย มีบ้านเรือนได้รับความเสียหาย จำนวน 118 หลังคาเรือน อำเภอวิเศษชัยชาญ ได้รับความเสียหาย จำนวน 6 หลังคาเรือน และอำเภอโพธิ์ทอง อยู่ระหว่างทำการสำรวจ รวมทั้งสิ้น 4 อำเภอ 333 ครัวเรือน
ในช่วงเช้าของวันนี้ ทางจังหวัดอ่างทองได้ส่งเจ้าหน้าที่ลงพื้นที่ตรวจสอบความเสียหายบ้านเรือนของประชาชนที่ได้รับผลกระทบ และจะดำเนินการให้การช่วยเหลือผู้ประสบวาตภัยในการครั้งนี้ต่อไป
