ศูนย์ข่าวศรีราชา - จัดระเบียบเรือท่องเที่ยวพัทยา รอบ 2 ยังพบผู้ประกอบการดื้อแพ่งไม่เคลื่อนย้ายการขนถ่ายผู้โดยสารกลับมายังท่าเทียบเรือพัทยาใต้ หลังเลยเวลาผ่อนผัน เจ้าท่าฯ เผยเตรียมใช้กฎหมายเข้าควบคุม
วันนี้ (8 พ.ค.) ผู้สื่อข่าวรายงานบรรยากาศการจัดระเบียบการขนถ่ายผู้โดยสารขึ้นลงเรือไปยังท่าเทียบเรือพัทยาใต้ (แหลมบาลีฮาย) ของคณะทำงานจัดระเบียบท่าเทียบเรือพัทยาใต้ เพื่อป้องกันอันตราย และเป็นผลกระทบต่อภาพลักษณ์ด้านการท่องเที่ยว ว่า ตั้งแต่ช่วงเช้าที่ผ่านมา กำลังเจ้าหน้าที่จากสำนักงานเจ้าท่าพัทยา ทหารจาก มทบ.14 ฝ่ายปกครอง อ.บางละมุง และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องกว่า 100 นาย ได้ลงพื้นที่บริเวณท่าเทียบเรือพัทยาใต้ (แหลมบาลีฮาย) เพื่ออำนวยความสะดวก และรองรับการเคลื่อนย้ายของผู้ประกอบการเรือโดยสาร
โดยพบว่า มีผู้ประกอบนำรถบัสขนถ่ายนักท่องเที่ยวขึ้นลงเรือที่ท่าเรือดังกล่าวกว่า 70% และสถานการณ์เป็นไปด้วยความเรียบร้อย
แต่ก็มีรายงานเพิ่มเติมว่า บริเวณชายหาดเมืองพัทยา โดยเฉพาะบริเวณหน้าโรงแรมฮาร์ดร็อคพัทยา ยังคงมีผู้ประกอบการเรือนำเที่ยวบางส่วนเข้ามาขนถ่ายนักท่องเที่ยวซึ่งส่วนใหญ่จะเป็นชาวจีน มาลงเรือบริเวณชายหาดเช่นเดิม ทำให้เจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องต้องเข้าเจรจา และทำการกดดัน พร้อมประชาสัมพันธ์เพื่อขอรับความร่วมมืออีกครั้ง
นายณัฐพงค์ มานะสม กรรมการบริษัททัวร์นำเที่ยว N.P.E.ทัวร์ เผยว่า ยังคงไม่สามารถย้ายจุดขนถ่ายนักท่องเที่ยวจากชายหาดเมืองพัทยา ไปยังท่าเทียบเรือพัทยาใต้ได้ และหากยืนยันจะให้ย้าย เมืองพัทยาจะต้องมีความพร้อมในเรื่องของท่าเทียบเรือ การจราจร โป๊ะเทียบเรือ ห้องสุขา รวมทั้งที่พักคอยสำหรับนักท่องเที่ยวก่อน
ขณะที่ พ.อ.สมศักดิ์ ตั้งดำรงธรรม รองเสนาธิการมณฑลทหารบกที่ 14 เผยว่า จากนโยบายของผู้ว่าราชการจังหวัดชลบุรี ที่ต้องการให้มีการจัดระเบียบท่าเทียบเรืออย่างเป็นรูปธรรม แต่ด้วยต้องการใช้พื้นที่ท่าเรือเพื่อปรับปรุงภูมิทัศน์ และงานสวนสนามทางเรือ จึงให้ผู้ประกอบการย้ายมาใช้พื้นที่ชายหาดเป็นการชั่วคราว
ส่วนกรณีที่มีผู้ประกอบการบางส่วนเดินทางไปยื่นหนังสือต่อผู้ว่าราชการจังหวัดชลบุรี เพื่อขอผ่อนปรน จนมีหนังสือจากจังหวัดชลบุรีเพื่อให้คณะทำงานจัดระเบียบทบทวน แต่ผลสรุปจากการหารือคณะกรรมการก็มีมติร่วมกันว่า คงกำหนดให้มีการย้ายจุดเช่นเดิม เนื่องจากมองว่าท่าเทียบเรือพัทยาใต้ (แหลมบาลีฮาย) มีศักยภาพเต็มที่ หลังเมืองพัทยาได้อนุมัติงบประมาณกว่า 130 ล้านบาท ในการจัดสร้างโป๊ะเทียบเรือเพิ่มอีก 2 โป๊ะ จากเดิมที่มี 4 โป๊ะ เป็น 6 โป๊ะ ในการรองรับปริมาณนักท่องเที่ยวที่รับส่งจากเรือบริษัทนำเที่ยวกว่า 30 บริษัท
“ดังนั้น เมื่อถึงกำหนดจึงมีการสนธิกำลังลงพื้นที่ตรวจสอบ ซึ่งพบว่า ผู้ประกอบการส่วนใหญ่ให้ความร่วมมือด้วยดี จะมีเพียงบางส่วนเท่านั้นที่ไม่ปฏิบัติตาม และขณะนี้ได้มอบหมายให้กรมเจ้าท่า ซึ่งรับผิดชอบในพื้นที่น้ำ ทำการตรวจสอบใบนายท้าย และการกล่าวตักเตือนผู้ประกอบการ รวมทั้งการบันทึกประวัติบริษัทนำเที่ยวที่ยังฝ่าฝืน พร้อมมอบหมายให้เจ้าหน้าที่ตำรวจดูแลบนพื้นผิวจราจร ที่มีการนำรถบัสขนาดใหญ่มาวิ่งรับส่งนักท่องเที่ยว ที่อาจกีดขวางเส้นทางจราจรเพื่อให้ทุกอย่างเป็นไปตามขั้นตอนของกฎหมาย” พ.อ.สมศักดิ์ กล่าว
ด้าน นายเอกราช คันธโร ผู้อำนวยการ เจ้าท่าภูมิภาคพัทยา เผยว่า ในส่วนของผู้ประกอบการที่ฝ่าฝืนคำสั่ง เจ้าหน้าที่จะดำเนินการจากมาตรการจากเบาไปหาหนัก โดยจะมีการขอความร่วมมือไปก่อน แต่หากยังไม่ได้รับความร่วมมือก็จะต้องดำเนินการตามขั้นตอนกฎหมาย และหากผู้ควบคุมเรือไม่ทำตามคำสั่ง ก็จะดำเนินการตามมาตรา 132 พ.ร.บ.การเดินเรือในน่านน้ำ ที่จะต้องปฏิบัติตามคำสั่งของกรมเจ้าท่า และมาตรา 297 ซึ่งมีโทษปรับตั้งแต่ 500-5,000 บาทต่อครั้งต่อลำ
“ในวันนี้ได้มีการว่ากล่าวตักเตือนผู้ประกอบการที่ไม่ปฏิบัติตามนโยบายไปแล้วถึง 20 ลำ พร้อมได้สร้างความเข้าใจในการจัดระเบียบ พร้อมจะมีการนำข้อปัญหาที่ได้รับจากการจัดระเบียบเข้าหารือกับคณะทำงานในการหาแนวทาง และการดำเนินการตามกฎหมายต่อผู้ประกอบลการที่ฝ่าฝืนต่อไป” นายเอกราช กล่าว