อุตรดิตถ์ - นักท่องเที่ยว และชาวบ้านที่รู้ข่าวแห่ร่วมมหกรรมกินทุเรียนฟรีคึกคัก หลัง “ลุงสนาม-ชาวสวนลับแล” ประกาศขนทุเรียนพันธุ์พื้นเมืองให้กินฟรีตลอดฤดูกาล แค่ห้ามนำเปลือก-เมล็ดติดมือกลับ บอกเพื่อให้คนรู้จักทุเรียนพื้นถิ่นมากขึ้น
วันนี้ (3 พ.ค.) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ที่บริเวณลานด้านหน้าทางขึ้นโบราณสถานม่อนจำศีล หมู่ 6 ต.ฝายหลวง อ.ลับแล จ.อุตรดิตถ์ คึกคักคลาคล่ำไปด้วยประชาชน และนักท่องเที่ยว ที่ต่างพากันแวะชิมทุเรียนพันธุ์พื้นเมืองของอำเภอลับแล
หลังนายสนาม มูลคำ อายุ 60 ปี ชาวสวนทุเรียนอำเภอลับแล ได้ขึ้นป้ายประกาศเชิญชวนแวะรับประทานทุเรียนฟรี พร้อมให้ทีมงานคอยบริการแกะเปลือกทุเรียนให้อีกด้วย
นายสนามกล่าวว่า ช่วงนี้ทุเรียนพันธุ์อื่นๆ ของลับแลยังไม่ออกสู่ตลาด จะมีเพียงทุเรียนพันธุ์พื้นเมืองเท่านั้นที่เริ่มออกสู่ตลาดในราคากิโลกรัมละ 100 บาท หรือขายเป็นลูก ราคาเริ่มตั้งแต่ลูกละ 50 บาทขึ้นไป แต่เพื่อประชาสัมพันธ์ทุเรียนพันธุ์พื้นเมืองลับแลให้ประชาชนทั่วไปที่ไม่มีสวนทุเรียน-นักท่องเที่ยวได้มีโอกาสรับประทานทุเรียน จึงนำทุเรียนปลาร้าในสวนมาให้รับประทานฟรี และหากที่สวนของตัวเองหมดก็จะรับซื้อจากสวนอื่นๆ มาให้รับประทานจนหมดฤดูกาลทุเรียนพื้นเมือง หากทุเรียนหมดก็จะนำมาเติมให้เต็มรถกระบะเป็นรอบๆ อย่างน้อย เช้า 1 รอบ บ่าย 1 รอบ
แต่มีข้อแม้ว่าต้องรับประทานบริเวณจุดที่แจกเท่านั้น ไม่อนุญาตให้นำกลับบ้าน พร้อมขอเมล็ดและเปลือกคืนด้วย ห้ามนำไป หากฝ่าฝืนจะถูกปรับเป็นเงิน เมล็ดละ 200 บาท
ทั้งนี้ ตนจะนำเปลือกทุเรียนไปทำปุ๋ยหมักบำรุงดินในสวน ส่วนเมล็ดพันธุ์ทุเรียนพื้นเมืองที่ได้ก็จะนำไปเพาะเพื่อขยายกล้านำไปปลูกเองและจำหน่ายให้เพื่อนชาวสวนด้วยกัน เพราะบรรดาสวนทุเรียนบนภูเขาในพื้นที่ของอำเภอลับแลที่เป็นสวนทุเรียนพันธุ์หมอนทอง หรือว่าหลง-หลินลับแล ต่างต้องใช้ต้นทุเรียนพันธุ์พื้นเมืองปลูกไปก่อนประมาณ 3-4 ปี ก่อนที่จะนำยอดพันธุ์หมอนทองหรือว่าหลง-หลินลับแล มาเสียบหรือติดตา เพื่อเปลี่ยนเป็นยอดพันธุ์อื่นๆ ต่อไป
“ชาวลับแลนิยมนำกล้าทุเรียนพื้นเมืองไปปลูกก่อน เพราะกล้าที่ปลูกจะมีรากแก้ว ทำให้ต้านทานต่อโรคและดินฟ้าอากาศได้ดีเพราะเป็นพันธุ์ทุเรียนพื้นถิ่นดั้งเดิม แต่หากนำกิ่งตอนมาปลูกก็จะไม่มีรากแก้ว เมื่อถึงฤดูฝน บนภูเขาสูงมีลมพัดแรงก็อาจทำให้ต้นทุเรียนโค่นเสียหายได้ง่ายๆ”