xs
xsm
sm
md
lg

ราพนาสูญ! ลูกแม่โจ้น้ำตาซึม พายุถล่มสวนกล้วยพินาศหมดตัว

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: MGR Online


พิจิตร - หนุ่มใหญ่ศิษย์เก่าแม่โจ้ รุ่น 55 รวมถึง Young Smart Farmer ชาวพิจิตร เข่าอ่อน-น้ำตาร่วง เจอพายุฤดูร้อนพัดถล่มสวนกล้วยน้ำว้าที่กำลังทำเงินพินาศยับหมดเนื้อหมดตัว วอนรัฐช่วย-ธ.ก.ส.ระงับดอกเบี้ย/ชะลอเร่งรัดหนี้

วันนี้ (18 เม.ย.) นายกิตติชาติ ชาติยานนท์ เกษตรจังหวัดพิจิตร ลงพื้นที่สำรวจผลกระทบจากพายุฤดูร้อน ที่พัดถล่มหลายพื้นที่ของจังหวัดพิจิตร ระหว่าง 14-15 เม.ย.ที่ผ่านมา ทำให้บ้านเรือนชาวบ้าน-พื้นที่การเกษตร ได้รับความเสียหายเป็นวงกว้าง จนนายวีระศักดิ์ วิจิตร์แสงศรี ผู้ว่าราชการจังหวัดพิจิตร ต้องประกาศเป็นพื้นที่ประสบภัยพิบัติธรรมชาติใน 7 อำเภอ

ล่าสุด นายกิตติชาติ เกษตรจังหวัดพิจิตร ลงพื้นที่ไปยังเขต ต.แหลมรัง อ.บึงนาราง จ.พิจิตร เพื่อสำรวจความเสียหายทางด้านการเกษตร เนื่องจากพื้นที่ดังกล่าว เกษตรกรส่วนใหญ่จะลดพื้นที่การทำนาแล้วปรับเปลี่ยนมาปลูกกล้วยและพืชหลากหลาย โดยได้เดินทางไปดูแปลงปลูกกล้วยน้ำว้า พบว่าแปลงปลูกกล้วยน้ำว้าของนายยอด บรรเทา อายุ 51 ปี ศิษย์เก่า ม.แม่โจ้ รุ่น 55 ที่ลงทุนปลูกกล้วนในพื้นที่บ้านสุขเกษม ต.แหลมรัง อ.บึงนาราง จ.พิจิตร บนเนื้อที่ 42 ไร่ มานาน 3-4 ปี สามารถตัดผลิตขายมีรายได้ถึงเดือนละ 50,000 บาท และวันที่ 19 เม.ย.ก็จะตัดกล้วยน้ำว้าส่งขายให้โรงงานกล้วยตากบางกระทุ่ม จ.พิษณุโลก ถูกลมพายุพัดถล่มเสียหายยับเยิน


นายยอดเล่าให้ฟังว่า เมื่อ 2 วันก่อน เกิดพายุฤดูร้อนเป็นลมหมุนพัดผ่านในหมู่บ้าน บ้านเรือนของเพื่อนบ้านเสียหายเป็นร้อยหลังคาเรือน แปลงกล้วยน้ำว้าทั้งของตนและของเพื่อนบ้าน รวมแล้วกว่า 500 ไร่ เสียหายแบบ 100% เป็นที่น่าเสียดาย เนื่องจากขณะนี้ราคากล้วยน้ำว้าที่เคยขายได้กิโลกรัมละ 6 บาท กำลังขยับราคาขึ้นเป็นกิโลกรัมละ 8-10 บาท

“ยอมรับเลยว่าเจอพายุฤดูร้อนครั้งนี้ทำเอาหมดเนื้อหมดตัว แต่ยังมีกำลังใจจะขอฮึดสู้อีกครั้ง โดยจะขอปรับพื้นที่ปลูกพืชหลากหลาย และจะต้องใช้ความรู้ที่เรียนมาประยุกต์ใช้กับอาชีพเกษตรกรผู้ปลูกกล้วยน้ำว้า หาวิธีปลูกพืชเพื่อเป็นเกราะป้องกันลม Wind Brake เช่น ไผ่ หรือต้นสน แต่สิ่งที่อยากวิงวอน คือ อยากให้รัฐบาลช่วยเหลือ และอยากขอร้องให้ ธ.ก.ส.ช่วยลดดอกเบี้ย หรือระงับการคิดดอกเบี้ย รวมถึงอย่าเร่งรัดการชำระหนี้ด้วย”

เช่นเดียวกับ น.ส.อรพิน คำอ่อน อายุ 37 ปี อยู่บ้านเลขที่ 487/1 หมู่ 7 บ้านสุขเกษม ต. แหลมรัง อ.บึงนาราง จ.พิจิตร Young Smart Farmer ที่เลิกทำนาข้าวตามนโยบายของรัฐ หันมาปลูกพืชหลากหลาย ซึ่งได้กู้เงิน ธ.ก.ส.จำนวน 5 แสนบาท มาทำโรงเรือนปลูกเมลอน 7 หลัง ปลูกกล้วยไข่ 3 ไร่ ปลูกแตงโม 1 ไร่ ปลูกดอกดาวเรืองในโรงเรือน 2 โรง กำลังมีรายได้เดือนละหลายหมื่นบาท ก็ต้องเจอพายุฤดูร้อนพัดถล่มทุกอย่างพังราบ เสียหายแบบหมดตัวด้วยเช่นกัน



กำลังโหลดความคิดเห็น