ศูนย์ข่าวขอนแก่น - เผย ปี 60 คนไทยซื้อ-ขายของทางออนไลน์ผ่าน Kaidee มากกว่า 35 ล้านคน มูลค่าการซื้อ-ขายผ่านแพลตฟอร์มกว่า 1 แสนล้านบาท จากยอดลงประกาศกว่า 1.85 ล้านรายการ รุกต่อตลาดซื้อ-ขายอสังหาริมทรัพย์มือสอง ที่ใช้งานง่ายที่สุด พร้อมเปิดตลาดสินค้าทางการเกษตรหนุนเกษตรกรไทยทั่วประเทศได้มีพื้นที่ซื้อ-ขายออนไลน์ภายในครึ่งปีแรก 61
นายทิวา ยอร์ค ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร/เฮดโค้ช Kaidee เปิดเผยถึงผลการดำเนินงานปี 2560 ที่ผ่านมาว่า มีผู้ใช้งานมากกว่า 35 ล้านคนที่เข้ามาใช้แพลตฟอร์มของขายดี มีการเข้าใช้งานกว่า 361 ล้านครั้ง เฉลี่ยเดือนละประมาณ 30 ล้านครั้ง มีรายการประกาศใหม่กว่า 12 ล้านประกาศ และขายได้บนขายดี กว่า 1.85 ล้านประกาศ รวมมูลค่ากว่า 1 แสนล้านบาท โดยเฉลี่ยทุกวันมีของขายได้ที่ขายดีวันละ 5,065 รายการ โดยคำค้นหายอดนิยมจากผู้ใช้งานขายดี ใน 5 อันดับแรก คือ PCX, MSX, Coach, Adidas และ บ้านเช่า
ส่วนหมวดยอดนิยมที่มีคนเข้ามาใช้งานมากที่สุด 5 อันดับแรก ได้แก่ RodKaidee, MocyKaidee, อสังหาริมทรัพย์, มือถือ-แทบเล็ต และอะไหล่รถ อุปกรณ์ประดับยนต์
นายทิวากล่าวว่า ตลาด RodKaidee (รถยนต์มือสอง) ได้เปิดตัวไปเมื่อเดือนพฤษภาคม ปีที่ผ่านมานั้น กระแสตอบรับดีมาก มีผู้ใช้งานกว่า 60 ล้านครั้ง เฉลี่ย 5 ล้านครั้งต่อเดือน มีรถยนต์ลงขายกว่า 800,190 คัน และมีรถที่ขายได้ที่นี่กว่า 132,752 คัน เฉลี่ยเดือนละ 11,000 คัน รวมมูลค่ากว่า 38,500 ล้านบาท ส่วนแบรนด์รถยอดนิยม ได้แก่ โตโยต้า, ฮอนด้า, อีซูซุ, นิสสัน และมิตซูบิชิ ตามลำดับ
ส่วนตลาด MocyKaidee ที่เปิดตัวไปช่วงปลายปี 2560 นั้นก็ได้รับความนิยมจากผู้ใช้งานไม่แพ้ตลาดรถยนต์ โดยในปีที่ผ่านมามีผู้ใช้งานกว่า 42 ล้านครั้ง เฉลี่ยเดือนละ 3.6 ล้านครั้ง มีรถมอเตอร์ไซค์ลงขายกว่า 394,659 คัน และมีรถมอเตอร์ไซค์ขายได้ผ่านตลาด MocyKaidee กว่า 102,170 คัน (เฉลี่ยเดือนละ 8,500 คัน) รวมมูลค่ากว่า 3,600 ล้านบาท แบรนด์ยอดนิยมก็ได้แก่ ฮอนด้า, คาวาซากิ, ยามาฮ่า, ฮาร์เล่ย์-เดวิดสัน และดูคาติ
“ตลาดอสังหาริมทรัพย์บนขายดีนั้นก็ได้รับความนิยมไม่แพ้กับตลาดยานยนต์ของเรา แต่ละเดือนมีคนไทยเข้ามาใช้งานกว่า 2.5 ล้านครั้ง มีรายการประกาศใหม่ทั้งหมดในปี 2560 ถึง 766,377 ประกาศซึ่งขายได้บน Kaidee ทั้งหมด 23,538 รายการ รวมมูลค่ากว่า 5 หมื่นล้านบาท หมวดนี้ยังเป็นหมวดที่มีผู้เข้ามาใช้งานมากที่สุดเป็นอันดับ 3 ของแพลตฟอร์ม โดยล้วนแต่เป็นการเติบโตแบบออร์แกนิคนั่นคือผู้ใช้งานเข้ามาใช้งานเองทั้งหมด” นายทิวากล่าว
ทั้งนี้ ในส่วนของรายได้ของขายดีในปี 2560 นั้นได้เพิ่มจากปี 2559 กว่า 144% จาก 2 แหล่งรายได้ นั่นคือ บริการพิเศษ ทั้งเลื่อนประกาศ บริการ Top Ad ที่ผู้ใช้งานสามารถเลือกใช้บริการนี้ได้ในทุกหมวดหมู่ และค่าลงประกาศ ในหมวดรถยนต์ และหมวดอสังหาริมทรัพย์ และโฆษณาดิสเพลย์ ที่แบรนด์และธุรกิจต่างๆ สามารถเข้าถึงกลุ่มลูกค้าเป้าหมายที่มีความต้องการหรือกำลังตัดสินใจซื้อ-ขายสินค้า/บริการต่างๆ บนแพลตฟอร์ม
นายทิวากล่าวต่ออีกว่า ปี 2561 นี้ขายดีจะรุกหน้าเสริมทัพเข้าสู่การเป็น มาร์เก็ตเพลส เพื่อคนไทยอย่างเต็มรูปแบบ โดยทุกคนทุกอาชีพสามารถเข้ามาซื้อ-ขายของออนไลน์ได้โดยไม่จำเป็นว่าต้องเป็นพ่อค้า แม่ค้า เจ้าของกิจการ หรือนักธุรกิจ โดย 1 ในนั้นคือแผนการเปิดตลาดแนวดิ่งสำหรับคนไทย และในปีนี้ ขายดี จะเดินหน้าอย่างเต็มตัวใน 3 ตลาดที่สำคัญ ประกอบด้วย 1. ตลาดอสังหาริมทรัพย์ ที่จะมีบริการที่ตอบโจทย์ลูกค้ามากขึ้นในทุกๆ ประเภทของ อสังหาฯ
2. ตลาดซื้อ-ขายสำหรับภาคเกษตรกรรมออนไลน์ ที่จะถูกออกแบบให้ตอบโจทย์สำหรับเกษตรกรชาวไทยอย่างแท้จริง เพราะตลาดนี้เป็นตลาดที่ใหญ่และสำคัญของคนไทยแต่ความต้องการของเกษตรกรยังไม่ได้ถูกตอบสนองเท่าที่ควร และ 3. ตลาดอะไหล่รถ ประดับยนต์ ด้วยการใช้งานที่เพิ่มขึ้นจนกลายเป็นหมวดยอดนิยมอันดับ 5 ของแพลตฟอร์ม ประกอบกับการที่ประเทศไทยเป็นประเทศที่ผลิตอะไหล่รถที่ใหญ่ที่สุดของอาเซียน ทำให้ตลาดนี้กลายเป็นอีก 1 ตลาดที่เติบโตอย่างรวดเร็ว