พิษณุโลก - ระเบิดศึก “ควายเหล็ก” ชิงแชมป์รถไถนาทางเลน ปะทะความแรง นักบิดโมโตครอสระดับมืออาชีพจนถึงนักแข่งวัย 5 ขวบ หารายได้พัฒนาโรงเรียนในหมู่บ้านและดึงเยาวชนห่างไกลยาเสพติด
วันนี้ (8 เมษายน 2561) นายภัคพงศ์ ทวิพัฒน์ ผู้ว่าราชการจังหวัดพิษณุโลก ว่าที่ ร้อยตรี อิทธิพล บุบผะศิริ นายอำเภอเมืองพิษณุโลก ว่าที่ ร้อยตรี ธรรมนูญ ท้าวฮ้าย นายก อบต.บ้านกร่าง ร่วมเปิดงานการแข่งขันรถไถนาทางเลนและโมโตครอส ซึ่งบ้านแม่ระหัน ต.บ้านกร่าง ร่วมกับชมรมโมโตครอส ต.บ้านกร่าง จัดงานชิงแชมป์ประเทศไทยสนามที่ 4 ขึ้นชิงเงิน และถ้วยรางวัล
โดยมีนักแข่ง ศึกควายเหล็ก Battle แบบล้อเหล็ก ขลุบย่ำนา หารายได้พัฒนาโรงเรียนในหมู่บ้าน ซึ่งการแข่งขันได้แบ่งออกเป็น 3 รุ่น คือ ประเภทรุ่นสแตนดาร์ด RT125 และสแตนดาร์ด TF120RT และรุ่นโอเพน ลูกสูบไม่เกิน 97 มม. ซึ่งมีชาวบ้านในพื้นที่และใกล้เคียงนำรถไถนาประลองความเร็ว
ขณะที่อีกสนาม ได้จัดการแข่งขันจักรยานยนต์วิบากโมโตครอส แบ่งเป็นทั้งหมด 22 รุ่น โดยมีนักแข่งระดับแชมป์ประเทศไทยจากทั่วสารทิศร่วม 500 คันร่วมชิงชัยสนามบึงบ้านแม่ระหัน ต.บ้านกร่าง อ.เมือง พิษณุโลก ท่ามกลางกองเชียร์คับคั่งทั้ง 2 สนาม
สำหรับชาวบ้าน ต.บ้านกร่างนั้นถือว่าประกอบอาชีพทำนาเป็นหลัก จึงได้ร่วมใจจัดงานแข่งขันรถไถนาทางเลนแบบขลุบย่ำนาหลังว่างเว้นจากการทำนา อีกทั้งเป็นการสร้างสีสันและคลายเครียดได้ก่อนย่างเข้าสู่หน้าฝนฤดูทำนานี้
นายสุรชัย เนียงกลิ่ม ประธานชมรมจักรยานยนต์ ต.บ้านกร่าง เปิดเผยว่า วัตถุประสงค์การแข่งขันทั้งรถไถนาและโมโตครอสครั้งนี้จะได้นำรายได้ไปเป็นทุนอาหารกลางวันและอุปกรณ์กีฬาที่โรงเรียนแม่ระหัน ต.บ้านกร่าง เท่ากับว่าเป็นการส่งเสริมเยาวชนห่างไกลยาเสพติด อีกทั้งตนจะสนับสนุนสร้างวงการโมโตครอสภายในจังหวัดพิษณุโลกอีกด้วย
การแข่งขันโมโตครอสนามนี้มีนักบิดมืออาชีพจากทั่วทุกจังหวัดของประเทศไทยร่วมชิงแชมป์ และยังมีรุ่นซูเปอร์คัพบ้านๆ โดยปีนี้ได้เปิดการแข่งขันโอเพนนักแข่งรถวิบากรุ่นเล็กวัยเพียง 5 ขวบก็สามารถแข่งขันได้แล้ว ส่วนการแข่งขันรถไถนาเดินตามนั้นถือว่าสร้างความสามัคคี มีน้ำใจนักกีฬา และเตรียมความพร้อมเครื่องมือและร่างกายก่อนไปประกอบอาชีพ