ลำปาง - ตัวแทนเครือข่ายค้านการสร้างบ้านพักตุลาการป่าเชิงดอยสุเทพ แถลงยุติการเดินชั่วคราวหลังออกเดินทางจากเชียงใหม่มาถึงแค่ลำปาง อ้างข่าวกรองระบุไม่ปลอดภัย
หลังจากเมื่อวานนี้ (4 เม.ย.) นายกฤตย์ เยี่ยมเมธา นายดิเรก จันทรดิรก และนายสรุท ศรีถาวร กลุ่มตัวแทนภาคประชาชน ในฐานะตัวแทนเครือข่ายขอคืนผืนป่าดอยสุเทพ เริ่มตั้งขบวนเพื่อเดินเท้าจากเชียงใหม่ จุดหมายปลายทางกรุงเทพมหานคร เพื่อยื่นหนังสือถึง พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) เพื่อขอให้ใช้มาตรา 44 ในการสั่งระงับการก่อสร้างบ้านพักของข้าราชการตุลาการ จำนวน 45 หลัง ในโครงการก่อสร้างที่ทำการศาลอุทธรณ์ภาค 5 และบ้านพักและอาคารชุดสำหรับข้าราชการตุลาการ บนเนื้อที่ 147 ไร่ ในพื้นที่ ต.ดอนแก้ว อ.แม่ริม จ.เชียงใหม่ ซึ่งสร้างติดแนวเขตป่าอุทยานแห่งชาติดอยสุเทพ-ปุย
หลังจากเดินทางผ่านจังหวัดลำพูนมาถึงจังหวัดลำปาง เมื่อเวลา 13.00 น.เศษ วันนี้ (5 เม.ย.) ทั้ง 3 คนได้มาที่บริเวณสวนสาธารณะห้าแยกหอนาฬิกา กลางเมืองลำปาง แถลงข่าวต่อสื่อมวลชนขอยุติการเดินไว้ชั่วคราว ณ ที่จังหวัดลำปาง โดยให้เหตุผลเพียงว่าทางหน่วยงานข่าวกรองได้แจ้งว่าอาจจะมีมือที่สามทำให้เกิดความไม่ปลอดภัยกับกลุ่มของตนเองจนกลายเป็นความไม่สงบเกิดขึ้นในบ้านเมืองและส่งผลกระทบต่อความมั่นคงของชาติ เพื่อไม่ให้เกิดเหตุการณ์ดังกล่าวและตนเองก็มั่นใจในหน่วยงานข่าวกรองว่าข่าวที่นำมาบอกนั้นเป็นความจริง แม้ว่าการเดินทางของตนเองทั้งสามคนจะไม่มีเรื่องการเมืองเข้ามาเกี่ยวข้อง ไม่มีใครอยู่เบื้องหลัง และถือเป็นเรื่องน่ายินดีที่ปัญหานี้ช่วยจุดประกายทำให้องค์กรพิทักษ์รักษาป่าเข้ามาร่วมรณรงค์เพื่อให้คนไทยทั้งชาติเกิดความตื่นตัวและออกมาเคลื่อนไหวดูแลทรัพยากรธรรมชาติและป่าไม้
ทั้งนี้ ตนเองทำด้วยความบริสุทธิ์ใจในฐานะประชาชนคนหนึ่งที่ต้องการรักษาผืนป่าไว้ โดยการหยุดเดินชั่วคราวก่อน และจะได้กลับบ้านเพื่อไปร่วมกันทำพิธีบวชป่าขอขมาดอยสุเทพในวันที่ 8 เม.ย.ที่จะถึงนี้ และวันที่ 9 เม.ย.จะได้เข้าไปร่วมแสดงความคิดเห็นหรือเสนอทางออกในเรื่องนี้ร่วมกันเพื่อให้เกิดความเสียหายน้อยที่สุด หากวันที่ 9 ผลออกมาเป็นอย่างไรจะได้หารือกันอีกครั้ง และหากจะต้องไม่ได้ข้อยุติเป็นที่พอใจตนเองทั้งสามคนก็จะเดินต่อโดยจะมาเริ่มเดินที่จังหวัดลำปางซึ่งตั้งแต่ออกเดินทางจากจังหวัดเชียงใหม่ก็ได้รับการอำนวยความสะดวกจากเจาหน้าที่เป็นอย่างดีคอยส่งต่อการดูแลทุกเส้นทาง
“สิ่งที่กลัวไม่ใช่เรื่องการเดินทาง เพราะทุกเส้นทางก็มีการดูแลแม้จะมีการขอตรวจโน่นนี่นั่นตลอดเส้นทางก็ตาม ก็เข้าใจการทำหน้าที่ แต่ที่เป็นห่วงคือครอบครัว เพราะที่ผ่านมามีเจ้าหน้าที่เข้าไปหาคนในครอบครัวเพื่อบอกเรื่องราวต่างๆ โดยเฉพาะข่าวเกี่ยวกับความไม่ปลอดภัยของทั้งสามคน ทำให้ต้องมาตัดสินใจกันในเวลานี้ว่าควรจะยุติก่อน และต่อจากนี้ขอให้ภาระในการทวงคืนผืนป่าเป็นของพวกเราทุกคน”